"บิ๊กป้อม" ลั่น 2 โควต้า รมต. “ณัฏฐพล-พุทธิพงษ์” เป็น พปชร. ไม่ใช่ กปปส. “สามมิตร” ปิดห้องจ้อ “เสี่ยเฮ้ง” ปัดถกปรับ ครม. “สมศักดิ์” โยน “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” คุยกัน เบรกนักวิ่งเต้นไม่เหมาะ “เฉลิมชัย” ย่องถก “อนุทิน” นายกฯรับปรับ ครม.
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลอาญาพิพากษาจำคุก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการกลุ่ม กปปส. พร้อมกับแกนนำ กปปส.หลายราย จากกรณีชุมนุมทางการเมืองช่วงปลายปี 2556-2557 ส่งผล 3 รัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกอบด้วย นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต รมว.ศึกษาธิการ, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสัง (ดีอีเอส) และนายภาวร เสนเนียม อดีต รมช.คมนาคม ที่ถูกพิพากษาจำคุกด้วย ต้องหลุดจากตำแหน่งทันที เพราะมีคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญนั้น
วานนี้ (25 ก.พ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตอบคำถามสื่อมวลชนที่ว่า ได้หารือเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) กับ พล.อ.ประยุทธ์ แล้วหรือยังว่า ยังไม่ได้คุย ยังไม่ได้พบนายกฯ แต่ก็ต้องปรับ โดยขึ้นอยู่กับนายกฯพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า โควต้าของ นายณัฏฐพล และนายพุทธิพงษ์ ที่เป็นโควต้าของกลุ่ม กปปส.จะยังเป็นโควต้าของ กปปส.อยู่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ย้อนถามเสียงดังว่า ของ กปปส.ที่ไหนของพรรค พปชร. ทั้งคู่อยู่พรรคพลังประชารัฐ ก็แล้วแต่ พล.อ.ประยุทธ์จะพิจารณา
เมื่อถามว่า จะต้องมีการปรับสลับเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า แล้วแต่สื่อจะไปสลับกันเอาเอง
เมื่อถามอีกว่ารัฐมนตรีช่วยฯ จะมีโอกาสได้ขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการฯ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว
“เสี่ยเฮ้ง” โอเคที่แรงงาน
ผู้สื่อข่าวรายงาน ในระหว่างที่ พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์อยู่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ได้ยืนสังเกตการณ์อยู่บริเวณใกล้เคียง ก่อนเดินไป พล.อ.ประวิตรขึ้นรถยนต์ออกจากทำเนียบรัฐบาล โดย นายสุชาติ ได้กล่าวตอบผู้สื่อข่าวที่กระเซ้าว่าจะมีการย้ายกระทรวงหรือไม่ว่า “ไม่มีๆ อยู่ที่นายกฯจะตัดสินใจ แต่ตรงนี้ก็ถือว่าโอเคแล้ว”
เมื่อถามว่าการปรับครม.ครั้งนี้จะกระทบถึงกระทรวงแรงงานหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่ทราบ ขอให้รอก่อน และยังไม่ได้พูดคุยกัน ขอตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงาน จากนั้น นายสุชาติ ได้เดินย้อนกลับขึ้นไปยังห้องทำงานของนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บนตึกบัญชาการ เพื่อรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับนายอนุชา และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
หลังรับประทานอาการแล้วเสร็จ นายสุชาติ เปิดเผยว่า ระหว่างรับประทานอาหารมีการแสดงความเป็นห่วง นายณัฏฐพล และนายพุทธิพงษ์ ส่วนเรื่องการปรับ ครม. ไม่ขอให้ความเห็น เพราะขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่
“สามมิตร” ขอไม่ขยับ
จากนั้น นายสมศักดิ์ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ขอแสดงความเสียใจกับบุคลากรของพรรคที่ต้องคำพิพากษา แต่เมื่อมีคำพิพากษาของศาลอาญาออกมาก็ต้องมีการปรับ ครม.เป็นภาคบังคับอยู่แล้ว ส่วนตัวบุคคลนั้น ทางพรรคพลังประชารัฐยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน เป็นเรื่องที่พล.อ.ประวิตร จะปรึกษาหารือกับนายกรัฐมนตรี เพราะอำนาจสูงสุดเป็นของนายกฯ ในการหาบุคลากรที่เหมาะสมดำรงตำแหน่งต่อไป ส่วนรายละเอียดขั้นตอนจะเป็นอย่างไร ตนไม่สามารถระบุได้
ส่วนการปรับครม.รอบนี้จะมีการสลับกระทรวงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เป็นเรื่องที่หัวหน้าพรรคจะเป็นผู้พิจารณา เชื่อว่าหัวหน้าพรรคคงต้องเหนื่อย กลุ่มสามมิตรไม่ได้เสนอตัวขอเปลี่ยนกระทรวงแต่อย่างใด และไม่มีความประสงค์จะไปตรงไหน
เมื่อถามว่า มีข่าวว่ามีรัฐมนตรีช่วยว่าการบางคนอยากเป็นรัฐมนตรีว่าการ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ข่าว ขอให้ฟังหัวหน้าพรรคที่จะเป็นคนชี้ให้ ไม่มีปัญหา เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันข่าวก็เป็นเรื่องของข่าว ยืนยันพรรคเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเชื่อว่าสุดท้ายแล้วเรื่องนี้จะลงตัว
เมื่อถามย้ำว่า โดยมารยาทการปรับครม.เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคกับนายกฯใช่หรือไม่ คนอื่นไม่ควรมาวิ่งเต้นใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “ถูกต้อง”
“เลขาฯต่อ” ดอดถก “เสี่ยหนู”
อีกด้านมีรายงานจากกระทรวงสาธารณสุขว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางเข้าพบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ โดยคาดว่ามีการหารือถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น และหารือถึงความเป็นไปในการปรับ ครม. โดยมีการปล่อยภาพการพบปะออกมาทางช่องทางสื่ออนไลน์ต่างๆ คาดการณ์ว่าเป็นการส่งสัญญาณถึงความเหนียวแน่น่ของ 2 พรรคร่วมรัฐบาลเพื่อสร้างอำนาจต่อรองในการปรับ ครม.ที่คาดว่าจะเป็นการปรับขนานใหญ่
“ประยุทธ์” แย้มสลับโควตา
ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการปรับ ครม.ว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าต้องมีการปรับ ครม. ใน 3 ตำแหน่ง ซึ่งวันนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ช่วงนี้อยู่ในขั้นตอนที่จะเสนอผู้รักษาการกระทรวงต่าง ๆ ในตำแหน่งที่ว่าง โดยจะนำเข้า ครม.ภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นพรรคร่วมรัฐบาลก็จะหารือกันว่าจะทำอย่างไรกับตำแหน่งที่ขาดหายนี้ โดยแต่ละพรรคร่วมรัฐบาลจะเสนอขึ้นมาที่มีปัญหา เพื่อให้นายกฯ ตัดสินใจอีกครั้ง ว่าจะเลือกใครที่ไหนอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องการเมือง วันนี้เอาขั้นตอนไปก่อน เพราะไม่ใช่ทำได้เลยวันนี้พรุ่งนี้ ยืนยันว่าตนจะพิจารณาด้วยตนเองอีกครั้ง
เมื่อถามว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้จะปรับเพียง 3 เก้าอี้ หรือดูภาพรวมทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า “กำลังคิดอยู่”
เมื่อถามว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนหรือโควต้าพรรคร่วมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ยังไม่พูดถึงตรงนี้”
เมื่อถามว่า คาดว่าการปรับ ครม.จะแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค. หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ต้องเร็ว เพราะการปฏิบัติงานต้องมีผู้รับผิดชอบโดยตรง ดังนั้น จะทำให้ดีและเร็วที่สุด ยืนยันว่าการปรับ ครม. ไม่มีแรงกดดัน ใครจะกดดัน ทุกอย่างอยู่ที่ผม”
เมื่อถามต่อว่า 3 พรรคใหญ่ในพรรคร่วมกำลังมีปัญหากันอยู่ จะมีการสลับเก้าอี้ที่ดูแลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็จะดูอีกขั้นหนึ่ง ขณะนี้กำลังดูตำแหน่งที่ว่าง และเมื่อเสนอขึ้นมาผมก็จะมาดูใหม่ว่า เสนอมาเช่นนี้จะสลับตรงอื่นอีกหรือไม่ ก็ต้องว่ากันอีกที”
“จุรินทร์” ย้ำโควตาเก่า
ขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวให้กำลังใจแกนนำกลุ่ม กปปส.ที่ถูกดำเนินคดี ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดูแลสมาชิกของพรรคที่ถูกดำเนินคดีอย่างเต็มที่ซึ่งต้องดำเนินการไปตามกระบวนการของกฎหมาย ส่วนตัวไม่สามารถชี้ได้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง และผลที่ตามมาหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดเวลานี้ต้องเร่งขอประกันตัวให้ทุกคนได้ออกมาต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป เพราะคดีขณะนี้อยู่ในศาลชั้นต้นเท่านั้น ตอนนี้ต้องทำให้ทุกคนได้รับอิสรภาพก่อน
ส่วนกรณี นายถาวร พ้นตำแหน่ง รมช.คมนาคมนั้น นายจุรินทร์ระบุว่า พรรคยังไม่ได้วางแนวทางว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อบังคับพรรค ส่วนโควตาจะมอบให้กลุ่ม ส.ส.ภาคใดนั้นยังไม่ขอตอบในรายละเอียด เพราะพรรคมีกระบวนการพิจารณาอยู่แล้ว โดยการพิจารณาตัวรัฐมนตรีนั้นจะพิจารณาในที่ประชุม ส.ส. และ กก.บห.ของพรรค
เปิดสูตร พปชร.เขย่าเก้าอี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีความเคลื่อนไหวภายในพรรคพลังประชารัฐ เบื้องต้นมีการพิจารณาอยู่ 2 สูตร คือ 1. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ไปนั่ง รมว.แรงงาน แทนนายสุขาติ ที่หลุดจาก ครม. แล้วให้ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ไปเป็น รมช.คลัง พร้อมแนวคิดนำ รมว.ศึกษาธิการ ไปแลกกับ รมว.เกษตรฯ ของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมองว่ามีบุคลากรที่เหมาะสมกับกระทรวงนี้มากกว่า และหากสามารถตกลงกันได้สำเร็จจะให้ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ขึ้นไปนั่ง รมว.เกษตรฯ นอกจากนี้ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม มีชื่อจะมาดำรงตำแหน่ง รมว.ดีอีเอส แม้ก่อนหน้านี้จะมีการพูดถึงว่าตำแหน่งดังกล่าวจะเป็นโควต้าของร.อ.ธรรมนัส ก็ตาม แต่ในปัจจุบัน นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ บิดาจของนายอธิรัฐ ได้เป็นพันธมิตรกับ ร.อ.ธรรมนัส แล้ว
จับตา “พีระพันธ์” คุมศึกษาฯ
ขณะที่ตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ ของ ร.อ.ธรรมนัส ที่ว่างลงนั้น มีชื่อของ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ที่มีกบลุ่มทุนใหญ่สนับสนุน มีโอกาสได้รับตำแหน่ง เนื่องจากในการปรับครม.ครั้งก่อน พล.อ.ประวิตร ได้รับปากจะพิจารณาชื่อของนายชัยวุฒิเป็นคนแรกในการปรับ ครม.ครั้งต่อไป
ส่วนพรรคภูมิใจไทยมีความพยายาม ที่จะคุมกระทรวงคมนาคมและกระทรวงสาธารณสุขอย่างเบ็ดเสร็จ โดยมี รมว.และ รมช. เป็นคนจากพรรคเดียวกัน จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ รมช.ของภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์ จะสลับเก้าอี้กัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ยังมีการเสนออีกสูตร โดยสลับ นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ไปเป็นรมว.ดีอีเอส และให้นางนฤมล มานั่ง รมต.ประจำสำนักนายกฯ พร้อมกันนี้ยังให้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี มาเป็น รมว.ศึกษาฯ แทนนายณัฏฐพล เนื่องจากนายกฯให้ความสำคัญงานด้านการศึกษามาก
ส.ส.-ญาติแห่เยี่ยม 8 กปปส.
ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทนายความ กลุ่มญาติ ของอดีตแกนนำและแนวร่วมกลุ่ม กปปส. ทยอยเข้าเยี่ยมผู้ที่ถูกตัดสินโทษคดีการชุมนุมและบุกรุกสถานที่ราชการของกลุ่ม กปปส.ประกอบด้วยนายสุเทพ, นายถาวร, นายณัฎฐพล, นายพุทธิพงษ์, นายอิสระ สมชัย, นายชุมพล จุลใส, นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธอิสระ และ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ รวมถึงหารือเรื่องการเตรียมยื่นประกันตัวเพื่อสู้คดี โดยผู้เข้าเยี่ยมระบุว่า ได้พูดคุยผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์รู้สึกได้ว่าผู้ที่เข้าเยี่ยมอาการเครียดและอิดโรยอยู่บ้าง แต่ยังมีกำลังใจดี
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์และหนึ่งในทีมทนายความ กล่าวว่า มีทนายความ 2 กลุ่ม เข้าไปพูดคุยถึงแนวทางการยื่นประกันตัวต่อศาลอุทธรณ์ และได้เตรียมเอกสารไปยื่นแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งก็คาดหวังว่าจะได้รับการประกันตัว
"สุเทพ-7 กปปส." นอนคุกต่อ
ที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 17.40 น. นายสวัสดิ์ เจริญผล ทีมทนายความระบุว่า เจ้าหน้าที่ศาลได้มีการแจ้งว่าคำสั่งวันนี้ยังไม่ลงมา ไม่ได้หมายความว่าศาลไม่ได้ไม่ให้ประกัน โดยวันที่ 26 ก.พ. พวกตนก็จะมารอฟังคำสั่งศาลอีกในเวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญา โดยวันนี้ก็มีความตั้งใจและคิดว่าจะได้รับความเมตตาจากศาล เพราะทั้ง 8 แกนนำไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนี และทุกคนตำแหน่งทางการเมืองมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ยังคงเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม โดยทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลอาญาพิพากษาจำคุก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการกลุ่ม กปปส. พร้อมกับแกนนำ กปปส.หลายราย จากกรณีชุมนุมทางการเมืองช่วงปลายปี 2556-2557 ส่งผล 3 รัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกอบด้วย นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต รมว.ศึกษาธิการ, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสัง (ดีอีเอส) และนายภาวร เสนเนียม อดีต รมช.คมนาคม ที่ถูกพิพากษาจำคุกด้วย ต้องหลุดจากตำแหน่งทันที เพราะมีคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญนั้น
วานนี้ (25 ก.พ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตอบคำถามสื่อมวลชนที่ว่า ได้หารือเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) กับ พล.อ.ประยุทธ์ แล้วหรือยังว่า ยังไม่ได้คุย ยังไม่ได้พบนายกฯ แต่ก็ต้องปรับ โดยขึ้นอยู่กับนายกฯพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า โควต้าของ นายณัฏฐพล และนายพุทธิพงษ์ ที่เป็นโควต้าของกลุ่ม กปปส.จะยังเป็นโควต้าของ กปปส.อยู่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ย้อนถามเสียงดังว่า ของ กปปส.ที่ไหนของพรรค พปชร. ทั้งคู่อยู่พรรคพลังประชารัฐ ก็แล้วแต่ พล.อ.ประยุทธ์จะพิจารณา
เมื่อถามว่า จะต้องมีการปรับสลับเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า แล้วแต่สื่อจะไปสลับกันเอาเอง
เมื่อถามอีกว่ารัฐมนตรีช่วยฯ จะมีโอกาสได้ขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการฯ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว
“เสี่ยเฮ้ง” โอเคที่แรงงาน
ผู้สื่อข่าวรายงาน ในระหว่างที่ พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์อยู่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ได้ยืนสังเกตการณ์อยู่บริเวณใกล้เคียง ก่อนเดินไป พล.อ.ประวิตรขึ้นรถยนต์ออกจากทำเนียบรัฐบาล โดย นายสุชาติ ได้กล่าวตอบผู้สื่อข่าวที่กระเซ้าว่าจะมีการย้ายกระทรวงหรือไม่ว่า “ไม่มีๆ อยู่ที่นายกฯจะตัดสินใจ แต่ตรงนี้ก็ถือว่าโอเคแล้ว”
เมื่อถามว่าการปรับครม.ครั้งนี้จะกระทบถึงกระทรวงแรงงานหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่ทราบ ขอให้รอก่อน และยังไม่ได้พูดคุยกัน ขอตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงาน จากนั้น นายสุชาติ ได้เดินย้อนกลับขึ้นไปยังห้องทำงานของนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บนตึกบัญชาการ เพื่อรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับนายอนุชา และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
หลังรับประทานอาการแล้วเสร็จ นายสุชาติ เปิดเผยว่า ระหว่างรับประทานอาหารมีการแสดงความเป็นห่วง นายณัฏฐพล และนายพุทธิพงษ์ ส่วนเรื่องการปรับ ครม. ไม่ขอให้ความเห็น เพราะขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่
“สามมิตร” ขอไม่ขยับ
จากนั้น นายสมศักดิ์ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ขอแสดงความเสียใจกับบุคลากรของพรรคที่ต้องคำพิพากษา แต่เมื่อมีคำพิพากษาของศาลอาญาออกมาก็ต้องมีการปรับ ครม.เป็นภาคบังคับอยู่แล้ว ส่วนตัวบุคคลนั้น ทางพรรคพลังประชารัฐยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน เป็นเรื่องที่พล.อ.ประวิตร จะปรึกษาหารือกับนายกรัฐมนตรี เพราะอำนาจสูงสุดเป็นของนายกฯ ในการหาบุคลากรที่เหมาะสมดำรงตำแหน่งต่อไป ส่วนรายละเอียดขั้นตอนจะเป็นอย่างไร ตนไม่สามารถระบุได้
ส่วนการปรับครม.รอบนี้จะมีการสลับกระทรวงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เป็นเรื่องที่หัวหน้าพรรคจะเป็นผู้พิจารณา เชื่อว่าหัวหน้าพรรคคงต้องเหนื่อย กลุ่มสามมิตรไม่ได้เสนอตัวขอเปลี่ยนกระทรวงแต่อย่างใด และไม่มีความประสงค์จะไปตรงไหน
เมื่อถามว่า มีข่าวว่ามีรัฐมนตรีช่วยว่าการบางคนอยากเป็นรัฐมนตรีว่าการ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ข่าว ขอให้ฟังหัวหน้าพรรคที่จะเป็นคนชี้ให้ ไม่มีปัญหา เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันข่าวก็เป็นเรื่องของข่าว ยืนยันพรรคเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเชื่อว่าสุดท้ายแล้วเรื่องนี้จะลงตัว
เมื่อถามย้ำว่า โดยมารยาทการปรับครม.เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคกับนายกฯใช่หรือไม่ คนอื่นไม่ควรมาวิ่งเต้นใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “ถูกต้อง”
“เลขาฯต่อ” ดอดถก “เสี่ยหนู”
อีกด้านมีรายงานจากกระทรวงสาธารณสุขว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางเข้าพบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ โดยคาดว่ามีการหารือถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น และหารือถึงความเป็นไปในการปรับ ครม. โดยมีการปล่อยภาพการพบปะออกมาทางช่องทางสื่ออนไลน์ต่างๆ คาดการณ์ว่าเป็นการส่งสัญญาณถึงความเหนียวแน่น่ของ 2 พรรคร่วมรัฐบาลเพื่อสร้างอำนาจต่อรองในการปรับ ครม.ที่คาดว่าจะเป็นการปรับขนานใหญ่
“ประยุทธ์” แย้มสลับโควตา
ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการปรับ ครม.ว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าต้องมีการปรับ ครม. ใน 3 ตำแหน่ง ซึ่งวันนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ช่วงนี้อยู่ในขั้นตอนที่จะเสนอผู้รักษาการกระทรวงต่าง ๆ ในตำแหน่งที่ว่าง โดยจะนำเข้า ครม.ภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นพรรคร่วมรัฐบาลก็จะหารือกันว่าจะทำอย่างไรกับตำแหน่งที่ขาดหายนี้ โดยแต่ละพรรคร่วมรัฐบาลจะเสนอขึ้นมาที่มีปัญหา เพื่อให้นายกฯ ตัดสินใจอีกครั้ง ว่าจะเลือกใครที่ไหนอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องการเมือง วันนี้เอาขั้นตอนไปก่อน เพราะไม่ใช่ทำได้เลยวันนี้พรุ่งนี้ ยืนยันว่าตนจะพิจารณาด้วยตนเองอีกครั้ง
เมื่อถามว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้จะปรับเพียง 3 เก้าอี้ หรือดูภาพรวมทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า “กำลังคิดอยู่”
เมื่อถามว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนหรือโควต้าพรรคร่วมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ยังไม่พูดถึงตรงนี้”
เมื่อถามว่า คาดว่าการปรับ ครม.จะแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค. หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ต้องเร็ว เพราะการปฏิบัติงานต้องมีผู้รับผิดชอบโดยตรง ดังนั้น จะทำให้ดีและเร็วที่สุด ยืนยันว่าการปรับ ครม. ไม่มีแรงกดดัน ใครจะกดดัน ทุกอย่างอยู่ที่ผม”
เมื่อถามต่อว่า 3 พรรคใหญ่ในพรรคร่วมกำลังมีปัญหากันอยู่ จะมีการสลับเก้าอี้ที่ดูแลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็จะดูอีกขั้นหนึ่ง ขณะนี้กำลังดูตำแหน่งที่ว่าง และเมื่อเสนอขึ้นมาผมก็จะมาดูใหม่ว่า เสนอมาเช่นนี้จะสลับตรงอื่นอีกหรือไม่ ก็ต้องว่ากันอีกที”
“จุรินทร์” ย้ำโควตาเก่า
ขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวให้กำลังใจแกนนำกลุ่ม กปปส.ที่ถูกดำเนินคดี ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดูแลสมาชิกของพรรคที่ถูกดำเนินคดีอย่างเต็มที่ซึ่งต้องดำเนินการไปตามกระบวนการของกฎหมาย ส่วนตัวไม่สามารถชี้ได้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง และผลที่ตามมาหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดเวลานี้ต้องเร่งขอประกันตัวให้ทุกคนได้ออกมาต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป เพราะคดีขณะนี้อยู่ในศาลชั้นต้นเท่านั้น ตอนนี้ต้องทำให้ทุกคนได้รับอิสรภาพก่อน
ส่วนกรณี นายถาวร พ้นตำแหน่ง รมช.คมนาคมนั้น นายจุรินทร์ระบุว่า พรรคยังไม่ได้วางแนวทางว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อบังคับพรรค ส่วนโควตาจะมอบให้กลุ่ม ส.ส.ภาคใดนั้นยังไม่ขอตอบในรายละเอียด เพราะพรรคมีกระบวนการพิจารณาอยู่แล้ว โดยการพิจารณาตัวรัฐมนตรีนั้นจะพิจารณาในที่ประชุม ส.ส. และ กก.บห.ของพรรค
เปิดสูตร พปชร.เขย่าเก้าอี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีความเคลื่อนไหวภายในพรรคพลังประชารัฐ เบื้องต้นมีการพิจารณาอยู่ 2 สูตร คือ 1. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ไปนั่ง รมว.แรงงาน แทนนายสุขาติ ที่หลุดจาก ครม. แล้วให้ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ไปเป็น รมช.คลัง พร้อมแนวคิดนำ รมว.ศึกษาธิการ ไปแลกกับ รมว.เกษตรฯ ของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมองว่ามีบุคลากรที่เหมาะสมกับกระทรวงนี้มากกว่า และหากสามารถตกลงกันได้สำเร็จจะให้ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ขึ้นไปนั่ง รมว.เกษตรฯ นอกจากนี้ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม มีชื่อจะมาดำรงตำแหน่ง รมว.ดีอีเอส แม้ก่อนหน้านี้จะมีการพูดถึงว่าตำแหน่งดังกล่าวจะเป็นโควต้าของร.อ.ธรรมนัส ก็ตาม แต่ในปัจจุบัน นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ บิดาจของนายอธิรัฐ ได้เป็นพันธมิตรกับ ร.อ.ธรรมนัส แล้ว
จับตา “พีระพันธ์” คุมศึกษาฯ
ขณะที่ตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ ของ ร.อ.ธรรมนัส ที่ว่างลงนั้น มีชื่อของ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ที่มีกบลุ่มทุนใหญ่สนับสนุน มีโอกาสได้รับตำแหน่ง เนื่องจากในการปรับครม.ครั้งก่อน พล.อ.ประวิตร ได้รับปากจะพิจารณาชื่อของนายชัยวุฒิเป็นคนแรกในการปรับ ครม.ครั้งต่อไป
ส่วนพรรคภูมิใจไทยมีความพยายาม ที่จะคุมกระทรวงคมนาคมและกระทรวงสาธารณสุขอย่างเบ็ดเสร็จ โดยมี รมว.และ รมช. เป็นคนจากพรรคเดียวกัน จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ รมช.ของภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์ จะสลับเก้าอี้กัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ยังมีการเสนออีกสูตร โดยสลับ นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ไปเป็นรมว.ดีอีเอส และให้นางนฤมล มานั่ง รมต.ประจำสำนักนายกฯ พร้อมกันนี้ยังให้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี มาเป็น รมว.ศึกษาฯ แทนนายณัฏฐพล เนื่องจากนายกฯให้ความสำคัญงานด้านการศึกษามาก
ส.ส.-ญาติแห่เยี่ยม 8 กปปส.
ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทนายความ กลุ่มญาติ ของอดีตแกนนำและแนวร่วมกลุ่ม กปปส. ทยอยเข้าเยี่ยมผู้ที่ถูกตัดสินโทษคดีการชุมนุมและบุกรุกสถานที่ราชการของกลุ่ม กปปส.ประกอบด้วยนายสุเทพ, นายถาวร, นายณัฎฐพล, นายพุทธิพงษ์, นายอิสระ สมชัย, นายชุมพล จุลใส, นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธอิสระ และ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ รวมถึงหารือเรื่องการเตรียมยื่นประกันตัวเพื่อสู้คดี โดยผู้เข้าเยี่ยมระบุว่า ได้พูดคุยผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์รู้สึกได้ว่าผู้ที่เข้าเยี่ยมอาการเครียดและอิดโรยอยู่บ้าง แต่ยังมีกำลังใจดี
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์และหนึ่งในทีมทนายความ กล่าวว่า มีทนายความ 2 กลุ่ม เข้าไปพูดคุยถึงแนวทางการยื่นประกันตัวต่อศาลอุทธรณ์ และได้เตรียมเอกสารไปยื่นแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งก็คาดหวังว่าจะได้รับการประกันตัว
"สุเทพ-7 กปปส." นอนคุกต่อ
ที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 17.40 น. นายสวัสดิ์ เจริญผล ทีมทนายความระบุว่า เจ้าหน้าที่ศาลได้มีการแจ้งว่าคำสั่งวันนี้ยังไม่ลงมา ไม่ได้หมายความว่าศาลไม่ได้ไม่ให้ประกัน โดยวันที่ 26 ก.พ. พวกตนก็จะมารอฟังคำสั่งศาลอีกในเวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญา โดยวันนี้ก็มีความตั้งใจและคิดว่าจะได้รับความเมตตาจากศาล เพราะทั้ง 8 แกนนำไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนี และทุกคนตำแหน่งทางการเมืองมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ยังคงเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม โดยทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม