xs
xsm
sm
md
lg

เด็กก้าวไกลโหน ‘เราชนะ’ อ้างตกหล่นไม่ทั่วถึง ช่องโหว่เพียบ หวั่นเกิดคลัสเตอร์ใหม่หลังพบผู้ติดเชื้อที่อ่างทอง วอนคลัง-ศบค.รีบหาทางแก้ด่วน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



น.ส.ดวงพร สุขุมพันธุ์พงศ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ถึงตอนนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 ควรจะรู้ตัวได้แล้วว่ามาตรการที่ออกมานั้นตกหล่นไม่ทั่วถึง และไม่รอบคอบ ทั้งที่มีความพยายามเตือนจากหลายฝ่ายมาโดยตลอดว่าปัญหาของโควิด-19 ไม่ใช่แค่เรื่องการควบคุมการระบาดทางสาธารณสุขเท่านั้น แต่ต้องคิดถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจด้วย ดังนั้น เมื่อมีมาตรการอะไรออกมาเพื่อควบคุมสถานการณ์ก็ต้องคิดถึงเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาที่รวดเร็ว คล่องตัว และถ้วนหน้าด้วย

น.ส.ดวงพรกล่าวต่อว่า สิ่งที่รัฐบาลเลือกทำมาตลอดคือ ความล่าช้า ไม่รอบคอบ และไม่ถ้วนหน้า แทนที่จะใช้วิธีคัดคนออกคือมองว่าทุกคนล้วนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ก็ควรจะได้รับการเยียวยาไว้ก่อน แล้วค่อยคัดกรองผู้ที่ไม่ได้รับผลกระทบออกไป เช่น ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ พนักงานของรัฐ กลุ่มอาชีพที่ยังมีงานและมีรายได้ตามปกติ หรือจังหวัดใดที่ไม่ได้รับผลกระทบก็คัดออกมา เป็นต้น นอกจากนี้ การเยียวยาควรจะให้เป็นเงินสดเพื่อให้เขาสามารถเลือกที่นำไปใช้จ่ายหรือปลดหนี้ต่างๆ ได้ตามความจำเป็น ไม่ใช่บังคับใช้ผ่านแอปนั้นแอปนี้หรือโครงการนั้นโครงการนี้ เหมือนรัฐบาลพยายามสร้างเงื่อนไขไม่อยากจ่ายมาโดยตลอด ทั้งที่เงินก็มีจาก พ.ร.ก.กู้เงินที่ยังเหลือ นอกจากนี้ยังคงทำงานซ้ำซ้อนเพราะหลังโควิดระลอกแรกผ่านไป พอเกิดระลอกใหม่ก็ยังต้องมาลงทะเบียนกันใหม่ รวมถึงการกำหนดให้ต้องใช้เงินผ่านสมาร์ทโฟน ผลสุดท้ายจึงมีผลกระทบตามมามากมายจากเงื่อนไขเหล่านี้ อย่างกรณีล่าสุดเป็นเรื่องทีน่าเศร้ามากที่ชายคนหนึ่งต้องเสียชีวิตไปด้วยความหวังว่า โครงการเราชนะจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ช่วยเขาได้ จึงไปยืมเงินแม่มาพันกว่าบาทเพื่อซื้อมือถือ แต่เมื่อลงทะเบียนกลับพบว่าไม่ผ่านสุดท้ายจึงตัดสินใจจบชีวิตตนเองด้วยการผูกคอที่บ้านโดยบอกว่าไม่มีเงินที่จะมาคืนค่าโทรศัพท์ให้แม่แล้ว อยากถามว่ารัฐบาลพอได้รู้เรื่องนี้แล้วรู้สึกอะไรบ้างหรือไม่

“หลายครั้งที่ดิฉันไปพูดคุยกับคนเฒ่าคนแก่ในพื้นที่ หลายคนสะท้อนมาเช่นเดียวกันว่าทำไม่เป็น ไม่มีเงินซื้อสมาร์ทโฟน ส่วนการจะให้ไปลงทะเบียนที่ธนาคารก็ไม่สะดวกแล้ว โดยเฉพาะหากต้องไปต่อคิวรอกันจำนวนมากดังที่หน้าธนาคารหลายแห่ง นั่นยิ่งสะท้อนว่ารัฐบาลออกมาตรการโดยไม่ได้คิดถึงพวกเขาเลย ที่ร้ายไปกว่านั้นคืออาจทำให้สถานการณ์อาจบานปลายจนไปกระทบสถานการณ์ด้านสาธารณสุขด้วย เพราะมีรายงานว่าได้พบผู้ติดเชื้อที่ธนาคารกรุงไทยในจังหวัดอ่างทอง ซึ่งผลจากการไปออกันแบบนั้นโดยไม่สามารถวางมาตรการรักษาระยะห่างได้ สิ่งที่น่ากังวลต่อไปคือ บรรดาผู้ที่ต้องไปรวมตัวกันเพื่อลงทะเบียนในโครงการเราชนะที่ธนาคาร ส่วนใหญ่ก็คือผู้สูงอายุ และมาจากหลายถิ่น เนื่องจากธนาคารกรุงไทยมีไม่กี่สาขาในแต่ละจังหวัด ซึ่งผู้สูงอายุก็คือกลุ่มเสี่ยงที่สุดในกรณีได้รับเชื้อ และหากนำไปสู่การกระจายเชื้อจนเกิดเป็นคลัสเตอร์เราชนะ ก็ต้องบอกว่านี่เป็นอีกผลงานจากนโยบายรัฐที่ทำให้สถานการณ์เข้าสู่ความน่าเป็นห่วงอีกครั้ง หลังจากได้ปล่อยปละละเลยจนเกิดคลัสเตอร์บ่อนและคลัสเตอร์แรงงานต่างชาติมาแล้ว” น.ส.ดวงพรกล่าว

น.ส.ดวงพรกล่าวอีกว่า ในเรื่องนี้คงต้องฝากนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึง ศบค. และทีมเศรษฐกิจ ว่าอย่าทำงานกันแบบติดนิสัยราชการจนมองไม่เห็นความเป็นจริงของคนตัวเล็กตัวน้อย เวลานี้ประชาชนกำลังเดือดร้อนหนักและไฟกำลังลามมาจ่ออยู่ที่เท้าท่าน ควรรู้ตัวรู้ปัญหาให้เร็วแล้วรีบกำหนดมาตรการใหม่อย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาได้แล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น