xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ไร้กังวล 2 รมต.จ่อถูกฝ่ายค้านยื่น ป.ป.ช. เล็งอภิปราย กมธ.แก้ รธน.เปิดช่องเยาวชนร่วมร่าง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โฆษก ปชป.ไม่กังวล 2 รมต.พรรคถูกฝ่ายค้านจ่อยื่น ป.ป.ช.สอบ ป้องทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ชาติ ไม่เอื้อพวกพ้อง เตรียมอภิปรายให้ กมธ.แก้ รธน.ทบทวนความเป็นไปได้ ให้นิสิต นศ. เยาวชน มีส่วนร่วมร่าง รธน. เพื่อบันทึกเป็นหลักฐาน

วันนี้ (21 ก.พ.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงกรณีผลสืบเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่พรรคฝ่ายค้าน ที่จะไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบการทำสัญญาซื้อขายถุงมือยางภายหลังจากจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ขอให้ฝ่ายค้านตรวจสอบให้เต็มที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีบัญชาให้มีการยื่นเรื่องดังกล่าวต่อ ป.ป.ช.ตั้งแต่โอกาสแรกที่ทราบเรื่องนี้ไปตั้งนานแล้ว พร้อมทั้งสั่งระงับเรื่องดังกล่าว และยังดำเนินการอีกหลายส่วนตั้งแต่การแจ้งความต่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) การดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินกับ ปปง.ไปแล้ว โดยขอให้ตรวจสอบทั้งหมดตั้งแต่นักการเมือง, บอร์ด อคส., อดีต ผอ.อคส. รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยไม่มีข้อยกเว้น ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันหมด สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ก็จะได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อให้เร่งตรวจสอบให้ถึงที่สุดตามที่หัวหน้าพรรคฯ ได้เริ่มกระบวนการทันทีหลังจากทราบปัญหาดังกล่าว

ส่วนเรื่องของนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ฝ่ายค้านจะยื่นต่อ ป.ป.ช.เช่นกันนั้น นายราเมศกล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าฝ่ายค้านจะไปยื่นในประเด็นไหน แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่เมื่อครั้งที่นายนิพนธ์ดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลานั้น ยืนยันว่านายนิพนธ์ไม่ได้กระทำการทุจริต แต่มีเจตนารมณ์แน่วแน่เพื่อปกป้องประโยชน์ของงบประมาณแผ่นดิน เพราะเมื่อมีการทำสัญญาซื้อขายก่อนที่นายนิพนธ์จะเข้ารับตำแหน่งนายก อบจ. ดังนั้น เมื่อเข้ารับตำแหน่งนายก อบจ.แล้วได้รับทราบข้อมูลว่ามีการกระทำที่ไม่ถูกต้องจึงไม่ได้อนุมัติโครงการดังกล่าว ส่วนเรื่องโครงการจะนะนั้นก็เป็นโครงการที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2559 ก่อนที่นายนิพนธ์จะรับตำแหน่ง รมช.มหาดไทย และการกล่าวหาว่ามีการเอื้อให้มีการออกโฉนดที่ดินก็มีการชี้แจงไปแล้วว่าที่ดินทั้ง 3 แปลงที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปราย มีการตั้งต้นประกาศเดินสำรวจตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งนายนิพนธ์ยังไม่ได้รับตำแหน่ง รมช.มหาดไทย แต่เมื่อกระบวนการสอบเขตเสร็จเรียบร้อยจึงมีกระบวนการออกโฉนดในปี 2563 ฉะนั้นจึงไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับนายนิพนธ์แต่อย่างใด

“สิ่งเหล่านี้ต้องถือว่าเป็นการทำงานของคนที่เป็นผู้นำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก ไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้แก่พวกพ้องแต่อย่างใด ดังนั้น หากฝ่ายค้านจะยื่นประเด็นเหล่านี้ต่อ ป.ป.ช.ก็พร้อมที่จะชี้แจงต่อทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยไม่มีความกังวลแต่อย่างใด” นายราเมศกล่าว

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้ประธานรัฐสภาได้นัดให้มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาญัตติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256 และให้เพิ่มหมวด 15/1 ในวันที่ 24-25 ก.พ.นี้

สำหรับในส่วนของพรรคฯ ได้มีการเรียกประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 23 ก.พ. เวลา 13.30 น. เพื่อเตรียมความพร้อมในการอภิปรายญัตติดังกล่าว เพราะในร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมนั้น แม้จะมีการใช้ร่างของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นหลัก แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในชั้น กมธ.ก็มีหลายส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมไปจากร่างเดิม อีกทั้งมี ส.ส.และ กมธ.เองก็ได้มีการสงวนความเห็นไว้ เพราะมีหลายมาตราที่มีการแก้ไข และมีรายละเอียดแตกต่างไปจากร่างเดิม

โดยในการประชุม ส.ส.จะได้มีการเตรียมข้อมูลเพื่อการอภิปราย เช่น เรื่องการกำหนดให้มีภาคส่วนของนิสิต นักศึกษา เยาวชน ที่ได้กำหนดไว้ในสัดส่วนของ ส.ส.ร. เนื่องจากในร่างฯ ที่นำมาพิจารณานั้นได้มีการตัดในเรื่องการมีส่วนร่วมของภาคนิสิต นักศึกษาออกไป ดังนั้นก็จะได้มีการอภิปรายเพื่อให้ กมธ.ได้ทบทวนถึงความเป็นไปได้ที่จะให้ภาคนิสิต นักศึกษา เยาวชน ให้สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในชั้น กมธ.ยกร่างฯ หรือจะเข้ามามีส่วนร่วมกับสภาร่างรัฐธรรมนูญด้วย

นายราเมศกล่าวถึงเหตุผลที่จะต้องมีการอภิปรายนั้นก็เพื่อให้มีบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และเพื่อให้เป็นเจตนารมณ์จากแต่ละภาคส่วนในการตั้งต้นแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และหากสามารถตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นได้ก็จะได้นำเจตนารมณ์ทั้งจากของสมาชิกรัฐสภา และจากแต่ละภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการร่างรัฐธรรมนูญ ผู้เชี่ยวชาญจากฝ่ายนิติบัญญัติ นักวิชาการ อาจารย์ รวมถึงนิสิต นักศึกษา ได้มีส่วนร่วมในการยกร่างรัฐธรรมนูญ

สำหรับญัตติของนายไพบูลย์ ที่ได้มีการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ และศาลฯ ก็มีคำสั่งให้รับคำร้องดังกล่าวไว้แล้วนั้น นายราเมศกล่าวว่า กระบวนการดังกล่าวเป็นไปตามกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อศาลฯ ไม่ได้มีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ดังนั้น ในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญในวาระที่ 2 ก็จะมีการดำเนินการไปตามปกติ ดังนั้น พรรคฯ จะได้ยืนยันตามเจตนารมณ์เดิม คือ ผลักดันให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้เป็นรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยจะได้ผลักดันต่อไปทั้งในวาระ 2 และวาระ 3

นอกจากนี้ ในส่วนที่ กมธ.มีการแก้ไขมาตรา 256 ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงคะแนนเสียง 3 ใน 5 เป็น คะแนนเสียง 2 ใน 3 นั้นก็ยังมีสมาชิกฯ บางส่วนที่ติดใจในเรื่องดังกล่าวซึ่งก็จะได้มีการอภิปรายเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย

นายราเมศยังกล่าวถึงเรื่องที่สืบเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นถือเป็นกระบวนการในการตรวจสอบตามครรลองและเป็นสิ่งสวยงามในระบอบประชาธิปไตย พร้อมทั้งขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ

สำหรับในส่วนของรัฐมนตรีทั้ง 2 คนของพรรคฯ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ถูกอภิปรายนั้น นายราเมศได้ยืนยันว่า พรรคฯ เชื่อมั่นในตัวรัฐมนตรีทั้ง 2 ท่านว่าเป็นผู้ที่ทำหน้าที่โดยยึดหลักความซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีการสมคบทุจริต หรือเอื้อประโยชน์ให้แก่บุคคลใด


กำลังโหลดความคิดเห็น