“ประเสริฐพงษ์” ยันเอกสารจริงแน่นอน ท้า “นิพนธ์” หากบริสุทธิ์ใจต้องยอมเปิดข้อมูลการซื้อขายที่ดินจะนะ พร้อมแจงรายได้ครอบครัวจากการซื้อขายที่ดินชุดนี้
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 ที่รัฐสภา นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จากกรณีการใช้อำนาจหน้าที่และข้อมูลภายในในฐานะรัฐมนตรี เอื้อประโยชน์เครือข่ายครอบครัว ทำกำไรจากการซื้อขายที่ดินในโครงการสร้างนิคมอุตสาหกรรมจะนะที่ตนเองเป็นผู้ผลักดัน ซึ่งในการอภิปรายของตนรัฐมนตรียังตอบคำถามไม่ตรงประเด็น จึงอยากจะสื่อสารผ่านสื่อมวลชนไปยังพี่น้องประชาชนเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง
ประเด็นแรก นายประเสริฐพงษ์ กล่าวว่า จากการที่ท่านรัฐมนตรีกล่าวหาว่าตนโกหกใช้เอกสารเท็จ หรือนำเอกสารตัดแปะมาอภิปรายนั้นไม่เป็นความจริง เอกสารที่ตนนำมา มาจากข้อมูลรายละเอียดพื้นที่ซึ่งเป็นการเข้าไปดำเนินการของศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน จ.สงขลา-นครศรีธรรมราช ประจำปี 2563 ซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 เป็นช่วงเวลาที่ นายนิพนธ์ บุญญามณี ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว และเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการดำเนินงานโครงการเขตพัฒนาพิเศษจะนะ จังหวัดสงขลา หนังสือที่ตนนำมาอ้างอิงฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจออกโฉนดที่ดินทั่วประเทศ มีการตั้งงบประมาณ มีการระบุบุคลากรชัดเจน ไม่ใช่หนังสือสั่งการลอยๆ ตามที่ท่านรัฐมนตรีอ้าง ซึ่งหนังสือที่ท่านรัฐมนตรีอ้างอิงมาตอบคำถามเป็นหนังสือเก่าตั้งแต่ปี 2561 แต่หนังสือของตนที่นำมาอภิปรายและเตรียมยืนให้กับประธานสภา เป็นรายระเอียดของปีงบประมาณ 2563
ประเด็นที่สอง นายประเสริฐพงษ์ กล่าวว่า การที่ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงอย่างยืดยาวถึงเรื่องในอดีต ถึงแม้ไม่ได้ลงรายละเอียดแต่ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไร ซึ่งสาเหตุที่นำเรื่องนี้มาอภิปรายตนเพียงจะสื่อแค่ว่า นายนิพนธ์ เป็นผู้มีมลทินติดตัวมัวหมองเท่านั้น และอยากให้พี่น้องประชาชนได้รู้ว่า หากข้อมูลของนายนิพนธ์ถูกต้อง ทำไมข้อเท็จจริงเหล่านั้นเมื่อไปสู้คดีแล้วจึงแพ้ทุกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นข้อต่อสู้ของนายนิพนธ์ ที่ทำหนังสือโต้แย้งไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาและศาลปกครอง แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่เพียงแต่ ป.ป.ช. เท่านั้นที่ชี้มูลความผิด แต่องค์กรอื่นก็มองว่าผิดด้วย
ประเด็นที่สาม ประเด็นหลักที่ตนอภิปรายในวันนี้ คือ เรื่องที่คนใกล้ชิดของนายนิพนธ์ ได้ประโยชน์จากการซื้อขายที่ดินในพื้นที่อำเภอจะนะ การที่ท่านรัฐมนตรีพูดดักคอเอาไว้ว่า เป็นเรื่องระหว่างเอกชนกับเอกชนนั้นซื้อขายไปว่ากันเองนั้น ขอยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะเอกชนที่ว่านั้นก็คือ ลูกชาย ลูกสาว ครอบครัว และคนใกล้ชิดท่านรัฐมนตรีทั้งนั้น และเป็นท่านรัฐมนตรีเองที่ใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ในการผลักดันโครงการ ตั้งแต่สมัยเป็นนายก อบจ.สงขลา ปี 2556 จนถึงเป็นรัฐมนตรี และถึงท่านจะอ้างประกาศ ครม. ในการผลักดันโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ในเดือนพฤษภาคม 2562 ว่า ตอนนั้นท่านยังไม่เป็นรัฐมนตรี แต่อย่าลืมว่าประกาศเปลี่ยนสีผังเมืองจากพื้นที่เกษตรเป็นอุตสาหกรรม เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 ซึ่งตอนนั้นท่านดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทยแล้ว และข้อมูลการซื้อขายที่ดินเห็นได้ชัดว่า เครือข่ายเครือญาตินายนิพนธ์ เร่งซื้อ-ขาย โอนที่ดิน ก่อนมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 21 มกราคม 2563 จะออกมาว่าจะเปลี่ยนพื้นที่นั้นให้เป็นโครงการพิเศษจะนะ และเปลี่ยนสีผังเมือง ซึ่งทำให้สามารถฟันกำไรจากการขายที่ดินต่อให้กลุ่มทุนมากขึ้นหลายเท่า
“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย แต่ผิดจริยธรรม เพราะเป็นการเอื้อประโยชน์กับครอบครัวและพวกพ้อง เป็นเรื่องขัดกันแห่งผลประโยชน์ เอาข้อมูลภายในมาเอื้อประโยชน์แก่พวกพ้อง นั่นคือประเด็นหลักในการอภิปรายของผมในวันนี้”
ส่วนประเด็นสุดท้าย นายประเสริฐพงษ์ ได้ท้านายนิพนธ์ ว่า หากคิดว่าตนเองบริสุทธิ์ใจและเครือญาติทำธุรกิจตรงไปตรงมา ก็ขอให้เปิดข้อมูลสารบบที่ดิน ตั้งแต่ปี 2562-2563 และให้บอกมาชัดๆ ว่า ครอบครัว ลูกชาย ลูกสาวและคนใกล้ชิด ได้รับเงินจากจากการซื้อขายที่ดินไปแล้วเท่าไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว นายประเสริฐพงษ์ ได้ฝากถึงเพื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรที่อยู่ในสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ว่า หากได้ฟังตนอภิปรายประกอบกับหลักฐานแล้ว ในวันลงมติไม่ไว้วางใจ ขอให้ร่วมลงมติไม่ไว้วางใจกับฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่มีอคติใดๆ เราใช้ข้อมูลที่ได้จากข้อมูลข้อเท็จจริงมีเอกสารยืนยันชัดเจน ขอยืนยันว่า เราจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างมีคุณภาพ ไม่ใช่ตอบคำถามอย่างรัฐมนตรีท่านนี้ที่เลี่ยงไปเลี่ยงมา เพราะการตอบของท่านรัฐมนตรีวันนี้เปรียบเหมือน “ขี่ม้าเลียบค่าย” ตอบไม่ตรงคำถามเลยแม้แต่น้อย