นายกฯ ขอโทษใจร้อน แต่ตอนนี้เย็นแล้ว เย้ย ส.ส.ก้าวไกลรู้เรื่องพลังงานน้อย ส่วนใหญ่คิดเอาเอง แผนพลังงานอนุมัติก่อนตนเข้ามา ทำอะไรไม่ได้ เรียกผู้บริหารเอกชนเข้าพบแค่ปรับทัศนคติ ย้ำไม่ได้คิดเข้ามาโกงให้ปวดหัว ตัวอย่างมีอยู่แล้ว ไม่ทำ ยอมรับเรื่องพลังงานปวดหัวที่สุด จึงตั้งคนไว้ใจเป็นกรรมการตรวจสอบ
เมื่อเวลา 23.36 น. วันที่ 18 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวชี้แจงการอภิปรายของ น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ที่อภิปรายพฤติกรรมนายกฯ เอื้อประโยชน์นายทุนพลังงาน ยกสัมปทานโรงไฟฟ้าโดยไม่ต้องประมูลให้แก่บริษัทเอกชนว่า ตนขอโทษที่ทำผิดข้อบังคับไปบ้าง แต่ไม่อยากให้เกิดการเข้าใจผิด ตนอาจจะใจร้อน แต่ตอนนี้ใจเย็นแล้ว สิ่งที่ท่านพูดย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 2557 ถ้าจะย้อนต้องย้อนไปก่อนปี 2557 ด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นในเรื่องพลังงาน และท่านกล่าวว่าตนเป็นรัฏฐาธิปัตย์ นั้นนานมาแล้ว วันนี้เข้ามานั่งในสภาพร้อมกับท่านรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกันกับที่ทำให้ท่านเข้ามานั่งในสภาและพูดในวันนี้ และการเข้ามาของตนไม่ได้บังคับใคร เป็นการดำเนินเรื่องของสภา และ ส.ส. และพรรคร่วมรัฐสภา เสนอตนเป็นนายกฯ เพราะท่านบอกว่าตนไปบังคับเขาให้เลือก ถ้าเขาไม่เลือก ตนก็อยู่ต่อไม่ได้ ไม่ได้ใช้คะแนน ส.ว.สักคะแนน เพราะผ่านตั้งแต่แรก
“ผมทราบดีว่าเมื่อผมเข้ามาต้องหาเหตุผลว่าผมเข้ามาเพราะอะไร ถ้าผมเข้ามาเพื่อหาผลประโยชน์ไม่เข้ามาให้ปวดหัว ถ้าคิดแบบท่านคิดมันเหนื่อยมาก กว่าจะใช้สมองทำงาน ถ้าคิดว่าจะโกง ผมไม่ชอบการทุจริต คดโกงเรียกรับผลประโยชน์ พูดมาทั้งหมดหาหลักฐานมา ส่วนการใช้คำสั่ง คสช.เพื่อแก้ปัญหาประเทศ มีเจตนาบริสุทธิ์ และสุจริต ไม่เคยใช้คำสั่ง คสช.ไปสั่งศาล จะไปสั่งได้อย่างไร” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
“ฟังท่านพูดแต่เริ่ม ผมคิดว่าท่านเข้าใจเรื่องพลังงานมากกว่าผมหรือไม่ ผมว่ายังน้อยไป เพราะส่วนใหญ่คิดเอง มโนเอาเอง ก่อนผมเข้ามามีอนุมัติพลังงาน 5,000 เมกะวัตต์ ก่อนที่ตัวเองจะไม่มีอำนาจ ผมทำอะไรไม่ได้เลย เพราะเป็นสัญญาที่รัฐบาลชุดก่อนหน้านั้นทำไว้ ยกเลิกไม่ได้ ส่วนกรณีที่พบผู้บริหารของบริษัทเอกชนนั้น คือ ไม่เคยพบส่วนตัว เป็นการเรียกไปปรับทัศนคติ ไปกินข้าว เห็นมีความสุข คุยกันจ๊อกแจ๊ก ไม่มีทะเลาะกันเลย ผมไม่ได้เข้ามาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ เพราะตัวอย่างมีอยู่แล้วผมไม่ทำ ผมไม่เคยไปเยี่ยมใคร ไม่เคยสนิทกับใคร แต่ต้องสยบความขัดแย้งให้ได้ เรื่องพลังงานเป็นเรื่องที่ปวดหัวที่สุด จึงต้องตั้งกรรมการตรวจสอบโดยตั้งคนที่ไว้ใจที่สุด ไม่ทุจริต ผมรู้จักทุกคนในกองทัพบก หากผมตั้งคนเลว ผมยอมรับ แต่เขาซื่อสัตย์กับกองทัพ ไม่คดโกง ประพฤติผิด ต้องสร้างความเชื่อมั่นด้านพลังงาน
“ใครถูกดำเนินคดีวันนี้หรือวันหน้าก็ดำเนินคดีกันไป ศาลกฎหมายว่าอย่างไร ครั้งนั้นผมเข้าด้วยความจำเป็น ท่านอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีกหรือ ผมไม่แน่ใจ เพราะในสภานอกสภาไปด้วยกันหมด ดูถูกเหยียดหยามมากเกินไป สิ่งที่ท่านพูดผมไม่อยากให้เครดิต เพราะพูดด้วยความมโนทั้งสิ้น ท่านพูดเหมือนผมไม่มีความฉลาดอะไรเลยหรืออย่างไร” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
