“บิ๊กตู่” สวนฝ่ายค้านกล่าวหารัฐบาลไม่มีสมอง ยันใช้สมองคิดมากกว่าคนที่พูดอีก โอดสงสารประชาชนได้รับผลกระทบจากโควิดระบาด เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ถามคนที่กล่าวหาตนมีความสุขอยู่กับโควิด จิตใจทำด้วยอะไร ย้ำไม่เคยมีความสุขเลยตั้งแต่เป็นนายกฯ
วันที่ 16 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านในประเด็นเศรษฐกิจว่า เศรษฐกิจเกี่ยวพันกันหลายอย่าง ทั้งการส่งออกสินค้า ลงทุนในประเทศ การลงทุนในต่างประเทศ ทุกอย่างเดินหน้าไปอย่างดีแม้จะมีการแพร่ระบาดโควิด-19 มีหลายบริษัทติดต่อเข้ามา สิ่งสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจตกมาก คือ เราไปพึ่งการส่งออกและการท่องเที่ยวและการบริการ เศรษฐกิจตกอย่าใช้ตรงนี้มาเป็นประเด็นมากนัก ไม่มีใครมาเที่ยว ถึงจะเปิดประเทศเขาก็ไม่มา คนไทยก็ไม่ไปหาเขา ช่วงโควิด-19 เศรษฐกิจจึงลดลง นักท่องเที่ยว 30 ล้านถึง 40 ล้าน ตอนนี้ลดลงเหลือ 5-7 ล้าน และตอนนี้ก็จะลดลงอีกเพราะสถานการณ์โควิด-19 ยังอยู่
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า คนคาดหวังเรื่องวัคซีนจะใช้เวลาอันใกล้ ตนห่วงทุกคน ไม่ได้คิดเองเออเองทั้งหมด มันทำไม่ได้ แต่บอกเราไม่สนใจใครเลย เก่งแล้ว ทำได้ มันก็ทำไม่ได้ ขณะที่การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกสอง ถ้าเราไม่ทำแบบนั้นจะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อมากเหมือนต่างประเทศ เราต้องเจ็บ ตนสงสารประชาชนอยู่แล้ว ใครจะอยากให้ประชาชนเดือดร้อน ท่านกล่าวหาว่าตนมีความสุขอยู่กับโควิด-19 ท่านพูดได้อย่างไร จิตใจทำด้วยอะไร เราเดินมาถูกทางแล้ว ตนไม่เคยมีความสุขเลยตั้งแต่เป็นนายกฯ เพราะเห็นประชาชนเดือดร้อนจนต้องพยายามให้มากที่สุด คือหาคนที่มีความรู้ความสามารถมาทำงาน ไม่ใช่ใช้อำนาจอย่างที่ท่านพูด
“จะบอกว่ารัฐบาลไม่มีสมองเลยไม่ใช่ คิดแบบนี้ใช้สมองมากกว่าคนที่พูดอีก การเยียวยาประชาชนเราให้คนปรับตัวไปด้วย ไม่ใช่ไม่ให้-ให้ แต่ก็บอกทำไมให้ไม่ครบ เพราะกู้เงิน ก็บอกกู้เงินมากต้องใช้หนี้ร่วมกัน ขอให้เลิกสักทีคำว่าภาษีของเราภาษีของใคร เพราะเป็นภาษีของทุกคน ผมไม่เคยบอกใครไม่เสียภาษี เราต้องดูแลทุกคน ทำไมไม่สร้างความรู้สึกการมีส่วนร่วม หากไม่กู้เงินเราจะเอาเงินที่ไหน ขอให้ลองไปถามคนส่วนใหญ่ว่าเขาพอใจหรือไม่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ที่บอกว่าเศรษฐกิจไทยต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เราลดลงน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน และสัดส่วนการลงทุนมีสงครามการค้ามีโควิด-19 เกิดขึ้น ตนไม่ได้มาแก้ตัว ทุกประเทศก็มีอัตราลดลงทั้งนั้น และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสมัยปี 2556 จีดีพีอยู่ที่ 2.7 ปี 2557 อยู่ที่ 1.0 ตอนเข้ามาในปี 2558 อยู่ที่ 3.1 ปี 2559 อยู่ที่ 3.4 ปี 2560 อยู่ที่ 4.1 ปี 2561 อยู่ที่ 4.7 ปี 2562 เกิดสงครามการค้าลดลง 2.4 ท่านเอาตัวเลขมาดูตารางแล้วเปรียบเทียบ
“ถ้าจะให้ผมพูด ผมก็พูดได้ทั้งวัน อย่าเอาตรงโน้นมาตีตรงนี้ ใช้โอกาส ฉวยโอกาส ท่านบอกผมเป็นนายกฯ ฉวยโอกาส ล้มเหลว ขอให้ไปดูคนใกล้ท่านหลายคนจะย้ายมาอยู่กับผม หาให้เจอแล้วกัน ไม่เช่นนั้นไม่ต้องมาหาผม” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว