xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ท้อนับวันสภามีแต่ให้ร้ายเหยียดหยามหนักขึ้น ห่วง “นักเรียนเลว” ถามคนแอบข้างหลังไม่สงสารเด็กหรือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกฯ ไม่สบายใจ คิดว่าสภาจะดีกว่านี้ กลับมีแต่ให้ร้ายดูถูกเหยียดหยามกันมากขึ้น ห่วงคำ “นักเรียนเลว” เป็นอนาคตของชาติไปเรียกแบบนี้ได้อย่างไร ลั่นสมัยตนเป็นเด็กไม่เคยมีเรื่องร้ายแรงทำผิดกฎหมายแบบนี้ ถามคนแอบอยู่ข้างหลังไม่สงสารเด็กบ้างหรือ เผยสังเกตเห็นมาตลอด บางคนที่อยู่ในสภาพูดจาสอดคล้องข้างนอกทั้งสิ้นลั่นถ้าบานปลายใครจะเอาอยู่

วันนี้ (18 ก.พ.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวาระการพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวชี้แจงถึงกรณีปัญหาด้านการศึกษาตามที่พรรคฝ่ายค้านอภิปราย โดยระบุว่า ตนสังเกตว่า เวลาฝ่ายรัฐบาลจะชี้แจงอะไร ต้องมีการคัดค้านอยู่บ่อยครั้งมากเกินไป จนหาสาระไม่ได้ การตั้งคำถามในสภาจะถามอะไรก็ได้ แต่ตอบต้องตอบด้วยหลักการและเหตุผล ไม่ใช่การตอบกลับเป็นคำ ๆ แบบนี้ คงไม่ใช่ โดยเฉพาะตนเองที่บอกว่าตอบไม่ตรงคำถาม ก็คงไม่ใช่ เพราะตนต้องบริหารในภาพใหญ่

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า สิ่งสำคัญคือ วันนี้ยอมรับหรือไม่ว่า การศึกษามีปัญหา หากถามจากผู้ปกครอง ครู และเด็ก ก็จะรู้ว่ามีปัญหา จึงต้องมีการปฏิรูปการศึกษา ตนขอยืนยันว่า พ.ร.บ.การศึกษา จะเข้าในวาระแรกของการเปิดประชุมสภาสมัยหน้า และสิ่งสำคัญที่สุด คือ การปฏิรูปการศึกษา ซึ่งถือเป็นเหตุจำเป็น ซึ่งทุกคนอยู่ในห้องนี้ประกอบด้วยคนอยู่ในหลายช่วงวัยที่หลากหลาย และหลากหลายด้านการศึกษา

ยอมรับว่า ตนเรียนระบบเก่ามา แต่ก็เรียนรู้ระบบใหม่ ช่วงของการเปลี่ยนผ่าน เพราะฉะนั้นแน่นอนย่อมมีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงแก้ไขแต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบ อยากให้การแก้ไขปัญหาของการศึกษา หรืออะไรก็ตาม ไม่อยากให้ทุกเรื่องกลับไปที่เดิม เพียงแค่เปลี่ยนรัฐมนตรีเป็นคนละ 2 เดือน 3 เดือนหรือ 6 เดือนทุกอย่างคงแก้ไขไม่ได้ เพราะเป็นปัญหาที่เชิงโครงสร้าง ต้องแก้ทั้งวงจร แก้ทั้งระบบ

พร้อมกับมองว่า หากมองปัญหามองเป้าหมายคืออะไร ปัญหาอยู่ที่ไหน ต้นทางกลางทางเป็นอย่างไร เราจะต้องเอาตัวออกจากตรงนั้น เช่นเดียวกับตนเอาออกจากปัญหาเหล่านั้น มองจากข้างนอกเข้าไปว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร และได้กระบวนการแก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้วจึงเอาตัวเราเข้าไป จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาอุปสรรคได้ คนได้ประโยชน์เสียประโยชน์อะไรต่างๆ ก็จะดูแลอย่างไรจึงจะเรียกว่าการปฏิรูปการศึกษา ตนคิดว่าหลายเรื่องคงตอบแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการไม่ได้ แต่ในฐานะกำกับดูแล ตนก็จะติดตามในการคัดสรรคน กฎหมายทำได้ก็ว่าไป หากผิดก็ต้องยอมรับอยู่แล้ว

นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า สิ่งที่ตนไม่สบายใจอยู่ 1 อย่าง คือ การเข้ามาครั้งนี้เป็นรัฐบาลประชาธิปไตยมา 2 ปี ครั้งแรก ตนคิดว่าในสภาดีกว่านี้ แต่ครั้งนี้ตนไม่สบายใจเท่าไร ตนให้เกียรติทุกคนเสมอมา แต่ครั้งนี้การกล่าวอ้าง ให้ร้ายดูถูกเหยียดหยามมากขึ้น แต่ตนก็พยายามอดทน ตนเป็นนายกรัฐมนตรีต้องทนได้เสมอ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เป็นห่วงอยู่ 1 คำ คือ คำว่านักเรียนเลว หรือครูชุดดำ เราไม่เคยมองอย่างนั้น ไม่เคยยุแยงให้เด็กเป็นอย่างนั้น เราจะเรียกเขาเป็นนักเรียนเลวได้อย่างไร เขาเป็นนักเรียน เป็นอนาคตของชาติ เพราะฉะนั้นมีอยู่หลายคนในนี้ ตนไม่ขอว่าใคร อย่ามาประท้วงตน เพราะทุกคนก็รู้ดีอยู่ ก่อนหน้านี้ สมัยอายุเท่าตนไม่มีหรอกเรื่องแบบนี้ เรื่องร้ายแรงแบบนี้ไม่เคยมี ทำไมจะต้องให้เขาไปมีปัญหากับกฎหมายตนไม่เข้าใจ แล้วมีคนไปแอบอยู่ข้างหลัง ไม่สงสารเด็กบ้างหรือ เมื่อถึงเวลาเขาก็มีเวลาของเขา วันนี้เขาต้องเรียนหนังสือ ไม่เคยมีปัญหาเหล่านี้มาก่อน ตนสังเกต ในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรีและฝ่ายความมั่นคง ตนสังเกตความเคลื่อนไหว การพูดจาต่าง ๆ สอดคล้องสถานการณ์ภายนอกทั้งสิ้น ถามว่าถ้าบานปลายใครจะเอาอยู่ ไม่ว่าใครเป็นนายกฯ หรือเป็นรัฐบาลใครจะเอาอยู่


กำลังโหลดความคิดเห็น