xs
xsm
sm
md
lg

“ชาญวิทย์” ขู่ พังกันหมด! “หมอวรงค์” ยกคำพูด สมศักดิ์ เจียม 3 นิ้วไม่รอด “อั้ม อิราวัต” แฉแกนนำติดพนัน อมเงิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ นักข่าวต่างประเทศรายงานเหตุการณ์ 13 ก.พ. จากแฟ้ม
เสมอต้นเสมอปลาย “ชาญวิทย์ เกษตรศิริ” ขู่ ไม่ประนีประนอม พังกันหมด! “หมอวรงค์” อ้างคำ “สมศักดิ์ เจียม” ฟันธง ม็อบ 3 นิ้ว ไม่รอด “อั้ม อิราวัต” แฉ แกนนำบางคนติดพนัน อมเงินบริจาค “การ์ด” 16 เข็ม เผย พวกเดียวกันก่อรุนแรง

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (15 ก.พ. 64) เฟซบุ๊ก การเมืองไทย ในกะลา โพสต์การให้สัมภาษณ์ใน Voice Online ศ.ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ ระบุว่า

ภาพ ศ.ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ขนาบข้าง ปิยบุตร แสงกนกกุล และธนาธร จึงรุ้งเรืองกิจ จากแฟ้ม
“ผมอยากเชื่อว่า ผู้มีอำนาจ ผู้มีบารมี คนที่อยู่ในชนชั้นปกครอง เขาจะ compromise (ประนีประนอม) เมื่อเขารู้ว่าถ้าไม่ compromise เขาก็อาจจะพัง เพราะฉะนั้นปรากฏการณ์ที่ผ่านมา ผมว่าสังคมอาจจะมาถึงจุดนี้ก็ได้แล้ว ถ้าเราไม่ compromise เราพังกันหมด ไม่มีใครได้” https://www.voicetv.co.th/read/ESp9WAHLg...

ภาพ จาก เฟซบุ๊ก  Warong Dechgitvigrom ของ “หมอวรงค” นพ.วรงค์  เดชกิจวิกรม
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ของ “หมอวรงค” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ หัวข้อ “#สามนิ้วไปไม่รอด”

โดยระบุว่า การที่ม็อบสามนิ้ว พยายามยั่วยุให้เกิดความรุนแรง การปั่นกระแสการทำร้ายแพทย์อาสา การออกมาตำหนิการใช้ความรุนแรงของดาราบางคน ของชมรมแพทย์ชนบท สมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์

การกระจายข่าวม็อบของสื่อรับจ้างบางกลุ่ม การปั่น hashtag ทำร้ายแพทย์อาสา การยื่นแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคการเมือง การเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่โยงไปสถาบันเบื้องสูง การเสนอหน้าออกมาพูดเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ของนายทักษิณ

การขู่กลับมาของม็อบสามนิ้ว ในวันที่ 20 ก.พ. หลังช่วงเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจ 16-19 ก.พ.นี้ เหล่านี้ล้วนเชื่อมโยงเป็นเรื่องเดียวกัน ภายใต้การเชื่อมโยงกับต่างชาติ

ต้องขอขอบคุณนักข่าวต่างประเทศบางท่าน ที่ยืนบนความถูกต้องเสนอแต่ความจริง เช่น Channel News Asia จากสิงคโปร์ ที่เอาความจริงไปตีแผ่ให้ชาวโลกรับรู้ว่า พวกม็อบเป็นผู้ใช้ความรุนแรง ไม่ได้ชุมนุมโดยสงบตามปากที่พูด

อยากเตือนพวกสามนิ้ว ว่า สิ่งที่พยายามกระทำในวันนี้ ประชาชนเขารู้ทันกันทั้งประเทศ เขาเอือมระอากับสิ่งที่เกิด ถ้าไม่ฟังประชาชน ก็ควรจะฟัง Somsak Jeamteerasakul ตัวจริงเสียงจริง ที่บอกว่า

“ตอนนี้ ไม่ว่าจะประเมินอย่างไร ต้องบอกว่า เรายังไม่พร้อม ยังมีคนจำนวนมหาศาลที่ยังไม่เอาด้วยกับเรา”

ภาพ นายอิราวัต อารีกิจ หรือ “หมออั้ม” จากแฟ้ม
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เฟซบุ๊ก อั้ม อิราวัต ของ นายอิราวัต อารีกิจ หรือ “หมออั้ม” อดีตนักร้อง และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองแนวร่วมม็อบราษฎร โพสต์ข้อความ พร้อมอ้างถึงโพสต์ของ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ระบุว่า

“ผมเคยเตือนน้องๆ แล้ว แต่โดนแกนนำเอาไปเสียบ เอาไปให้ร้ายสารพัด (ซึ่งผมไม่แคร์นะ และไม่เดือดร้อน) พวกเขาสร้างข่าวโจมตีคนเห็นต่าง ทั้งๆ ที่หลายคนสนับสนุนน้องๆ มาตลอด
#ผลักมิตรเป็นศัตรู เป็นว่าเล่น ท่ามกลางกระแส แกนนำโกงเงินบริจาคม็อบ

ท่ามกลางกระแส ที่แกนนำบางคนติดพนัน ติดหนี้ติดสิน เลยเอาเงินม็อบไปใช้ส่วนตัว

ร่ำรวยจากเงินบริจาค ท่อน้ำเลี้ยงคนอื่น เป็นนักบุญ ไม่สิ #นักต้มตุ๋น_ทุนคนอื่น

ไม่กล้าแจงบัญชี ไม่กล้าเปิดที่มารายได้ ไม่เคยจ่ายภาษีเข้ารัฐ แต่หน้าเพจโพสต์อวดรวย ซื้อคอนโด ซื้อรถ ฯลฯ

ต้องโง่เขลาเบาปัญญาแค่ไหน ถึงทำอะไรย้อนแย้งแบบนั้นได้?

เขารู้ดีว่า กำลังถูกเปิดโปง ในไม่ช้า ทั้งคดีจากรัฐ คดีหากินกับม็อบ และคดีส่วนตัว ยาวเป็นหางว่าว หนาเป็นดินพอกหางหมู

ภาพ จาก เฟซบุ๊ก อั้ม อิราวัต ของ นายอิราวัต อารีกิจ
หลายคนคิดแบบอาจารย์ครับ และหลายคน คิดเหมือนผม
เขาถอยมา เพราะเห็นอะไรที่มันแย่ๆ
เจอพวกบ่อนทำลายขบวนการประชาธิปไตยที่ดี ที่อุตส่าห์สร้างมาจนจุดติด

แต่ก็ยังไม่หมดกำลังใจนะครับ จะช่วยน้องๆ เท่าที่ทำได้
ในฐานะคนรักประชาธิปไตยครับ.”

อย่างไรก็ตาม เฟซบุ๊ก The METTAD ก็ได้โพสต์ ระบุว่า

“เมื่อวานทางท่านปูติน เรียกประชุมด่วนเรื่องอิเสี่ยบุ๊ง ที่โดนแฉว่า เอาเงินบริจาคไปใช้ส่วนตัว ว่าควรจะแหกหนักๆ มั้ย แอดเสนอไปว่า ในทางกลับกัน เราควรสนับสนุนเสี่ยบุ๊งให้เป็นนายทุนม็อบต่อไป

ท่านปูติน สงสัย ว่าทำไมไม่ใช้จุดนี้มาโจมตี เพราะเราสามารถกดดันให้สรรพากรเข้าไปตรวจสอบเส้นทางการเงินได้เลย ก็จะรู้หมดว่า เงินเข้าออกเท่าไหร่ และมาจากพรรคไหนบ้าง สามารถตัดท่อน้ำเลี้ยงได้ทันที
.
แอดบอกว่า ถ้าอิบุ๊งยังเป็นถุงเงินของม็อบ เราก็มั่นใจได้ว่า เงินลงม็อบสิบล้าน มาถึงม็อบแสนเดียว เพราะอิบุ๊งเป็นคนบีบท่อน้ำเลี้ยงให้กะปริดกะปรอยอยู่แล้ว (แอดใช้คำว่า капидкапой )

ท่านปูตินขำก้าก แล้วบอกว่า งั้นพวกมึงหนุนมันกันให้เต็มที่

#รายงานจากเคลมลิน”

นอกจากนี้ เฟซบุ๊ก ซึ่งต้องพิสูจน์ ยังโพสต์เรื่องราวที่น่าสนใจ กรณีเหตุการณ์รุนแรง และยังเป็นข้อถกเถียง กันว่า ใครกันแน่ ก่อความรุนแรง ระบุว่า

“การ์ดกลุ่มราษฎร เย็บ 16 เข็ม
เล่าเหตุการณ์ กลุ่มผู้ชุมนุมขว้างปาสิ่งของ
การ์ดแนวร่วมประชาธิปไตย ในนามทีม mayhem
ถึงบ้านแล้วนะครับ ขอบคุณที่เป็นห่วง
เรื่องวันนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่หน้าม็อบ คือมีการปะทะ ใครอยากรู้ข่าวไปตามในทวิสเตอร์ น่าจะมีคนลงอยู่
ผมยังไม่อยากอธิบายและให้ข่าว เดี๋ยวเกิดประเด็นกันยาว

เอาเป็นว่า วันนี้โดนไป 16 เข็ม
กลับถึงบ้านแล้วเรียบร้อยดี
ให้ทีมผมประชุม ไฟเขียวเรื่องนี้ก่อน เดี๋ยวกู เจียพวกมึง แน่นอน

ปล.ขอบคุณแพทย์โรงพยาบาลมิชชั่นด้วยครับ เย็บแผลนิ่มมาก น่าจะหล่อเหมือนเดิม (หมอเชียร์ฝั่งม็อบ)
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=950289262461287&id=100024406664967

ภาพ จากเฟซบุ๊ก ซึ่งต้องพิสูจน์
ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ระบุวา “การ์ดแนวร่วมประชาธิปไตย ในนามทีม mayhem
เหตุการณ์วันที่ 13

ขณะที่ ครูใหญ่ เดิน มาเจรจากับตำรวจ ผมอยู่แนวหน้า กั้นพื้นที่แนวหลังให้ครูใหญ่เพื่อ ไม่ให้นักข่าว เข้ามาแออัดจนเกินไป เพื่อเซฟความปลอดภัย
ทีมการ์ดได้ประเมินสถานการณ์ครั้งนี้แล้วว่า การบุกเข้าใกล้พื้นที่ วัดพระแก้ว จะมีความเสี่ยงเช่นไร

เนื่องจากเป็นเขตพระราชฐาน สามารถ ใช้อาวุธจริง ปราบปราม ม็อบได้

แนวทางดีสุดคือ ให้แกนนำ เจรจา เพื่อให้ตำรวจ และม็อบ ต่างฝ่ายต่างยุติ ซึ่งจะเป็นผลดี กับทั้ง2ฝ่าย และม็อบก็ได้ทำกิจกรรม แสดงออกได้โดยสมบูรณ์แล้ว

ขณะมีการเจรจา จนตำรวจยอมรับข้อตกลง และยอมอ่อน ท่าที แต่มีกลุ่ม วัยรุ่น หัวรุนแรงทาง ด้านขวามือของ คฟ. พยายาม ยั่วยุ และปะทะ จะพยายามบุก ทำร้ายเจ้าหน้าที่ คฟ. ซึ่งตั้งกองกำลังอย่าง นิ่งเฉย

จนทีมการ์ดม็อบ ไประงับเหตุ ก็เกิดการณ์กระทบกระทั่งด่าทอ และจะเข้ามาทำร้ายทีมการ์ดม็อบ

หลังจากนั้น ครูใหญ่ จึงเดินมาหน้ารั้ว หลังลวดหนามเพื่อพยายาม บอกกลุ่มวัยรุ่น หน้าลวดหนามให้ใจเย็นๆ แต่ไม่เป็นผล หลังจากนั้นมีการขว้างปาขวดน้ำและสิ่งต่างๆ ตามมาทันที

ทั้งๆ ที่ นักข่าว และแกนนำ ยังอยู่ด้านหน้าตำรวจ !!!

มีขวด หิน แก้ว แม้แต่ระเบิดประทัด โยนใส่เข้ามา ด้านหน้า ซึ่งก็มีผู้บาดเจ็บหลายราย

สิ่งเหล่านี้ ไม่มีใครอยากให้เกิด คิดว่าถ้ามวลชนบุกเข้าไปเขตวัดพระแก้ว อะไรจะตามมา กลุ่ม วัยรุ่น ระงับอารมณ์ตัวเองได้หรือ ถ้าเกิดตำรวจใช้กระสุนจริง ในเขตพระราชฐาน คุ้มไหม

ผมไม่อยากโทษใคร ผมอาสา มาจุดนี้ มันมีความเสี่ยง ที่จะต้องปะทะ ผมรับได้
แต่ ...หากจะปะทะ ก็ขอปะทะอย่างมีเหตุผล ถ้าตำรวจ ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ถ้าตำรวจใช้กำลังเกินกว่าเหตุ หรือ ใช้สิทธิ อย่างไม่ถูกต้อง กับประชาชน ผมพร้อมยืนหยัด สู้เคียงข้างอย่างเต็มที่แน่นอน

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าฝ่ายใดก็ตาม ที่ใช้ความรุนแรงหรือสร้างสถานการณ์ ถ้าไม่ชอบแนวทางสันติวิธี ก็แยกไปรวมเฉพาะ ดีไหมครับ

การขว้างปา อย่างไร้สติ โดยไม่คำนึงว่า จะถูกพวกเดียวกันหรือไม่

หรือการใช้อารมณ์ บางอย่างที่ทำให้เหตุการณ์เกินเลย ซึ่งมันไม่น่าเป็นผลดี ในแนวทางการต่อสู้ ที่ใช้คำว่า “สันติวิธี”

เพราะคนที่เขาต้องการมาแสดงออก อย่างสันติ ก็ไม่ได้อยากเห็น การถูกกระทำไม่ว่าจะฝ่ายไหนโดนกระทำ ก็ตาม

ผมเคารพการตัดสินใจของทุกกลุ่ม และยังพร้อมร่วมทุกกิจกรรม เหมือนเดิม
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=950880032402210&id=100024406664967

แน่นอน, สิ่งที่เห็นชัดก็คือ แกนนำเริ่มนำม็อบไม่ได้ เอาไม่อยู่ แต่การเคลื่อนไหวที่สุ่มเสี่ยงและล่อแหลมต่อการเกิดความรุนแรงยังคงมีอยู่ หรือ ยังมีการนัดชุมนุมใหญ่อย่างต่อเนื่อง

ประเด็นก็คือ หากมีการสร้างสถานการณ์จากกลุ่มคนที่ต้องการให้เกิดจลาจล หรือ นองเลือด เพื่อแทรกแซงทางการเมือง ไม่ว่า กลุ่มคนในประเทศ หรือต่างประเทศ ที่แม้แต่คนในม็อบก็อาจไม่รู้ตัว อะไรจะเกิดขึ้น ซึ่งทำได้ง่ายนิดเดียว เพราะการป้องกันดูแลคัดกรองคนเข้าร่วม แทบจะพูดได้ว่า หละหลวม เนื่องจากม็อบเองก็ต้องการมวลชนเข้าร่วมจำนวนมาก ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี จึงไม่รู้ใครเป็นใคร?

เหนืออื่นใด แม้แต่คนที่เป็นฝ่ายเดียวกับม็อบ และหนุนหลังมาตลอด อย่าง อ.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ซึ่งลี้ภัยในฝรั่งเศส ก็ยังออกมายอมรับความเป็นจริงว่า ประชาชนส่วนใหญ่ของไทย ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหว ดังนั้น ขืนดันทุรังมากเท่าไร ก็ยิ่งเท่ากับเดินไปสู่ความรุนแรงเท่านั้น ถ้าคาดหวัง สถานการณ์สุกงอม

และแม้แต่การก่อความรุนแรง ก็ยังยากที่จะ “สุกงอม” จนดึงมวลชน หรือประชาชนให้ลุกฮือได้ เพราะประชาชนที่ไม่เห็นด้วยมีจำนวนมากมายมหาศาล นี่คือ ประเด็นที่แกนนำม็อบจะต้องคิด และทบทวน ก่อนที่จะสายเกินไปนั่นเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น