“ยุทธพงศ์” เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญปมรถไฟฟ้าสายสีเขียว หลังปิดจ็อบศึกซักฟอก ยันไม่เคยเฉลยข้อสอบ บอกเนื้อในยังไม่เคยพูด
วันนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.15 น. ที่รัฐสภา นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พร้อมด้วย น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย และนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงภายหลัง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ออกประกาศกรุงเทพมหานคร ชะลอการขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว 104 บาท
โดยายยุทธพงศ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2564 ให้ยับยั้งการขึ้นค่ารถไฟฟ้าสายสีเขียว เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบปัญหาจากวิกฤตโควิด-19 พร้อมขอให้นายกรัฐมนตรีสอบสวนกระทรวงมหาดไทย และ กทม.ว่าเหตุใดจึงไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้กระทรวงการคลังไปกู้เงินมาให้ กทม.ชำระหนี้บีทีเอส ซึ่งเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา กทม.ก็ได้ออกหนังสือประกาศให้ชะลอการขึ้นค่าโดยสายรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปก่อน โดยหนังสือระบุว่า กทม.ได้รับนโยบายมาจากทางรัฐบาลให้พิจารณาทบทวนอัตราค่าโดยสารตามประกาศ โดยให้คำนึงถึงภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และภาระของ กทม.ให้เกิดความเหมาะสม ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งที่ก่อนหน้านี้กรมขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม เคยส่งหนังสือไปท้วงติงกับทาง กทม.ในเรื่องดังกล่าวนี้ แต่ พล.ต.อ.อัศวินกลับไม่สนใจ บอกว่าเรื่องนี้เป็นนโยบายของทางมหาดไทย ซึ่งเป็นคนละหน่วยงานกันกับทางกระทรวงคมนาคม ตนจึงเห็นว่าเรื่องนี้มีความย้อนแย้งอยู่ เพราะหาก รมว.คมนาคมเป็นคนใน ครม.ซึ่งก็ถือว่าเป็นพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่รู้นโยบายของรัฐบาลเลยหรือ แล้วตกลงผู้ว่าฯ กทม.ใช้อำนาจอะไรมาดำเนินการเรื่องทั้งหมดที่ผ่านมา
นายยุทธพงศ์กล่าวว่า ขณะนี้ กทม.เป็นหนี้ในส่วนของกรก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ และเขียวใต้ อยู่อีกกว่า 6 หมื่นล้านบาท และค่าจ้างบีทีเอส วิ่งรถอีกกว่า 98 ล้านบาท ทั้งที่ ครม.มีมติให้กระทรวงการคลังกู้เงินให้ กทม.ยื่นไปชำระหนี้ดังกล่าว แต่จนถึงวันนี้ กทม.ยังไม่ปฏิบัติตามมติ ครม. อย่างไรก็ตาม รถไฟฟ้าสายสีเขียววิ่งผ่านจุดสำคัญของ กทม. เชื่อว่ามีกำไรอยู่แล้ว แต่เหตุใด กทม.ไม่พยายามหาทางแก้ไขให้เป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะเป็นเรื่องหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ และจะเป็นเรื่องที่หลังจากอภิปรายแล้วจะมีการยื่นร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญต่อ เนื่องจากขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 186 ในการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ทั้งนี้ที่ผ่านมาเนื้อในเรื่องนี้ที่จะใช้ในการอภิปรายตนไม่เคยนำมาแถลงข่าว ที่ผ่านมาการแถลงที่ถูกมองว่าเป็นการเฉลยข้อสอบก็ไม่เป็นเป็นความจริง ทั้งนี้ หัวใจของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เราคิดถึงหัวใจของประชาชน วันนี้หากไม่ออกมาทำอะไรเลย หากปล่อยไปก็คงไม่มีการชะลอขึ้นค่าโดยสารดังกล่าว
