xs
xsm
sm
md
lg

หน้าแหกซะ! ก้าวไกล-หม่องทอน หวังกระชากเรตติ้ง ถึงกับปล่อยข่าวดึง “บี๋-อริยะ” ลงชิงผู้ว่าฯ กทม.เรียกคะแนนคนรุ่นใหม่ **ศึกซักฟอกรอบนี้ นอกจาก “ลุงตู่” เป้าหลัก แล้วยังมี “ครูตั้น” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ที่ทั้งฝ่ายค้านและคนในพรรค “รัก” เป็นพิเศษ!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว



**หน้าแหกซะ! ก้าวไกล-หม่องทอน หวังกระชากเรตติ้ง ถึงกับปล่อยข่าวดึง “บี๋-อริยะ” ลงชิงผู้ว่าฯ กทม.เรียกคะแนนคนรุ่นใหม่

ช่วงนี้พลพรรค “หม่องทอน” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ตลอดจนพรรคก้าวไกล โหนกระแสรัฐประหารในเมียนมากันน่าดู เนื่องเพราะเล็งผลเลิศ หวังยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

ทางหนึ่งนั้นก็ว่ากันว่า หวังจะใช้สัญลักษณ์ “3 นิ้ว” ที่ตอนนี้แพร่ระบาดข้ามฝั่งประเทศแคนนอนกลับมาแซะ “รัฐบาลลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ขับเคลื่อนด้วยสายสัมพันธ์ท็อปบูต “พี่น้อง 3 ป.” ที่มาจากบิ๊กทหารไม่เป็นประชาธิปไตยเหมือนกัน
อีกทางหนึ่ง เพื่อเรียกเรตติ้งของคณะก้าวหน้าและก้าวไกล ที่อยู่ในช่วงขาลง เท้าก่ายหน้าผากคะแนนนิยมตกฮวบๆ โดนมรสุมรุมเร้า ทั้งเรื่องคดีของครอบครัวธนาธร แม่ และ น้อง พร้อมๆ กับความเสื่อมศรัทธาในพรรค จากการหนุนม็อบ 3 นิ้ว ล้มเจ้า จนกระแสสังคมรับไม่ได้ โอกาสที่กลับมาครองใจบรรดาคนชั้นกลาง และคนรุ่นใหม่อีกครั้งก็ลางเลือน ริบหรี่

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
“ก้าวไกลและหม่องทอน” เรตติ้งตก อาการน่าเป็นห่วงแค่ไหน ก็ต้องดูจากคนเคยรักกัน “ทัดดาว ตั้งตรงเจริญ” อดีตนักร้อง สมาชิกพรรค ที่เพิ่งลาออกมาหมาดๆ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก SangdaoHyatt ของเธอ ระบายเหตุผลบางส่วนที่ขอยุติบทบาทการเป็นว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตราชเทวี ในนามพรรคก้าวไกล และสิ้นสุดการเป็นสมาชิกของพรรค ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2564 โดยสิ่งที่เธอได้เจอด้วยตัวเองว่า ...ในพรรคที่เชิดชูประชาธิปไตย แต่กลับมีลำดับชั้น มีทั้งคนมีสิทธิ์ และไม่มีสิทธิ์ ช่องว่างชนชั้นห่างกันมาก เสียงคนล่างขึ้นไปไม่ถึงข้างบนเลย
มันชัดมากว่า “พรรคนี้ไม่ใช่ของทุกคนจริงๆ” ซ้ำร้ายคือ ไม่รู้จักการให้เกียรติกัน แถมนึกจะยัดบัตรโต๊ะจีนมูลค่า 30,000 ใส่มือผู้สมัครแต่ละคน โดยการบอกว่า หางบเข้าทีม กทม. ให้ผู้สมัครไปหาคนซื้อนี่ก็ไม่ถูก ผู้สมัครทุกคนใช้ทุนทรัพย์ตัวเอง 100% ในการทำพื้นที่อยู่แล้ว พรรคต้องช่วยแบ่งเบา ไม่ใช่เพิ่มภาระ ทำอะไรไม่เคยปรึกษา ภาพการทำงานจากบนลงล่างชัดมากๆ

ทัดดาว ตั้งตรงเจริญ
แน่นอนว่า เรื่องนี้พอแพร่กระจายออกสื่อโซเชียล ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความเห็น ตอกย้ำว่า “หม่องทอนและพวก” บรรดาชนชั้นผู้นำ ก้าวไกล และก้าวหน้า นับวันมีแต่สาละวันเตี้ยลง ขีนปล่อยไว้ฐานเสียงที่เคยได้จาก คน กทม. และคนรุ่นใหม่ จะหายหด กู่ไม่กลับแน่ๆ
ว่าแล้วจึงมีข่าวปล่อยออกมาว่า ในสนามรบศึกชิงผู้ว่าฯ กทม. ที่ปี่กลองกำลังเริ่มโหมโรง พรรคก้าวไกลผนึกกำลังคณะก้าวหน้า อยู่ระหว่างทาบทามคนมีชื่อเสียงของสังคม เป็นเซเลป “บิ๊กเนม” ที่เอ่ยชื่อคนยอมรับนับถือ นั่นคือ “บี๋-อริยะ พนมยงค์” คนหนุ่มไฟแรง ที่ฝากผลงานเป็นอดีตผู้บริหารหลายองค์กร เช่น Google ประเทศไทย, บริษัท LINE ประเทศไทย, ช่อง 3 ลงชิงชัยสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.
ตามข่าว ว่ากันถึงขึ้นที่มีสัญญาณดีจาก “บี๋-อริยะ” ที่จะตอบรับเทียบเชิญของ “บิ๊กก้าวไกล-ก้าวหน้า” ที่เที่ยวไล้เที่ยวขื่อ จีบมาถึงสองครั้ง ครั้งแรกมีคำตอบปฏิเสธกลับมา แต่ครั้งที่สองสัญญาณเริ่มดี เพราะไม่มีคำปฏิเสธสิ้นเชิง แต่ขอเวลาตัดสินใจ
ข่าวดูเป็นตุ เป็นตะ ซึ่งถามว่า ทำไมต้องเป็น “บี๋-อริยะ” ก็เพราะเขาเป็นคนรุ่นใหม่ มีความรู้-ความสามารถ ที่ “หม่องทอน” เห็นว่า เข้ากับภาพลักษณ์ของพรรคได้เป็นอย่างดีนั่นเอง

อริยะ พนมยงค์
พลพรรคหม่องทอน ที่ปล่อยข่าวมาก็คงกะว่าจะกระชากเรตติ้ง เรียกเสียงฮือฮากับคน กทม. และคนรุ่นใหม่ แต่ฟังว่าทาง “บี๋-อริยะ” ตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกอ้างชื่อ โมเมไปร่วมกับก้าวไกล-ก้าวหน้า เขาก็ยืนยัน “เซย์โน” ปฏิเสธข่าวมาตลอด ครั้งนี้ก็เช่นกันไม่มีอะไรไปมากกว่าการมั่วชื่อของก้าวไกลไปเอง
งานนี้ ก็ต้องบอกว่า “หม่องทอน” และพวกคงต้องหน้าแหกไปตามระเบียบ!!




** ศึกซักฟอกรอบนี้ นอกจาก “ลุงตู่” เป้าหลัก แล้วยังมี “ครูตั้น” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ที่ทั้งฝ่ายค้านและคนในพรรค “รัก” เป็นพิเศษ!!

ประเด็นการเมืองในช่วงนี้ คงไม่มีเรื่องใด “ฮอต” ไปกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายฯ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กับอีก 9 รัฐมนตรี รวมเป็น 10 คน
บางคนอาจมองในภาพรวมว่า “ศึกซักฟอก” ครั้งนี้คงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ไม่มีผลกระทบอะไรกับรัฐบาล เนื่องจากมี “จำนวนมือ” มากกว่าฝ่ายค้านเยอะ พอถึงเวลาลงมติก็ผ่านฉลุย “ลุงตู่” ก็นำคณะรัฐมนตรีบริหารประเทศต่อไป

ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปในรายละเอียด และจับปัญหาภายในพรรค มาเป็นองค์ประกอบด้วยแล้ว การอภิปรายครั้งนี้ ก็น่าจะตื่นเต้น เร้าใจ ชวนติดตามอยู่ไม่น้อย... โดยเฉพาะถ้าโฟกัสไปที่ “พรรคพลังประชารัฐ” แกนนำรัฐบาล ซึ่งเป็นที่รวมของกลุ่มก๊วนน้อยใหญ่ ต่างก็รอการปรับ ครม.ที่จะตามมาหลังเสร็จศึกซักฟอก
จึงมีการแสข่าวออกมาว่า...งานนี้ให้จับตา จะมีรายการ “แทงข้างหลัง” จากคนในพรรคด้วยกันเอง!!
และดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ “ข่าวโคมลอย” เมื่อ “วิโรจน์ ลักขณาอดิสร” ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ออกมาพูดแบบ “เอาเกียรติ ส.ส.เป็นประกัน” ว่า มีแกนนำในพรรคพลังประชารัฐ ระดับ “รัฐมนตรี” กำลังล็อบบี้คะแนนโหวต หวังเขย่ารัฐมนตรีบางคนให้หลุดจากตำแหน่ง โดย “วิโรจน์” บอกว่าไม่ต้องเดาให้ยากว่ารัฐมนตรี “เป้าหมาย” คนนั้นคือใคร... ชี้เปรี้ยงได้เลยว่าคือ “ครูตั้น” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ
เพราะแม้แต่ ส.ส.ต่างพรรค ตอน “ถอดหัวโขน” คุยกันยังส่ายหัวกับ “ครูตั้น” บางคนถึงกับตำหนิเอาแรงๆ ...โดยเฉพาะเรื่องร้องเรียนด้านการศึกษา ที่ ส.ส.เเต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัด ขอให้ช่วยแก้ปัญหาความทุกข์ ความเดือดร้อนของครู การแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม แก้ปัญหาโควิด-19 ระบาด และการเเสดงออกตามสิทธิ เสรีภาพของนักเรียนในโรงเรียน แต่ “ณัฏฐพล” ไม่เคย “เทกแอกชัน” ...
งานนี้เรียกว่า ผู้บริหารสถานศึกษา ครู นักเรียน ต่างร้อง “ยี้” ...ส.ส.ฝ่ายค้าน ก็ไม่เอา รมว.ศึกษาธิการ คนนี้ !!

วิโรจน์ ลักขณาอดิสร
ขณะที่ ส.ส.ร่วมพรรคบางส่วนก็ออกอาการ “หมั่นไส้” ที่เจ้าตัวชอบคุยโวโอ้อวด กับการได้เป็น “ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 ของพรรค” แต่ไม่มีผลงานที่พอจะหยิบมาเป็นเรื่องเชิดหน้าชูตาของรัฐบาลได้ ... แถมยังพยายามกดดันผู้หลักผู้ใหญ่ ให้ส่ง “เมียรัก” ทยา ทีปสุวรรณ ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรค จน “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องออกมาประกาศ จะไม่มีการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ในนามพรรค
“ส.ส.วิโรจน์” ยอมรับแบบไม่กลัวเสียฟอร์มว่า การอภิปรายครั้งนี้ ขอมูลส่วนหนึ่งเขาเตรียมไว้แล้ว... แต่ก็มี “ส.ส.พลังประชารัฐ” หลายคนช่วย “ทำการบ้าน” ส่งมาให้ บอกว่า “จัดหนัก” ไปเลย!!...ดังนั้น ขอฟันธงล่วงหน้าว่าเมื่อถึงเวลาโหวต “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ” จะได้คะเเนนไว้วางใจน้อยที่สุดในศึกซักฟอกครั้งนี้
ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า ปฏิบัติการ “แทงข้างหลัง” แบบประกาศให้รู้ล่วงหน้าครั้งนี้ จะทำให้ “ครูตั้น” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ต้องตกจากเก้าอี้ รมว.ศึกษาธิการ หรือไม่ เพราะทั้งฝ่ายค้าน และคนในพรรคต่างก็ “รัก” เป็นพิเศษ !
พูดถึงเรื่อง “แทงหลัง-เลื่อยเก้าอี้” ในพรรคพลังประชารัฐ ทำให้นึกถึง “กลุ่มสี่กุมาร” ที่ว่ากันว่าเพราะถูกคนใน “แทงข้างหลัง” จนต้องยกทีมออกจากพรรค... หรือว่านี่จะเป็นเรื่อง “กงเกวียนกำเกวียน” เวียนมาถึงครูตั้น !!




กำลังโหลดความคิดเห็น