xs
xsm
sm
md
lg

สั่งลบคลิปธนาธร ทำหมดมุกซักฟอก !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
เมืองไทย 360 องศา


เรียกเป็นช่วง “ขาลง” ก็ลงแบบเรื่อยๆ แบบไม่มีหูรูดกันเลย สำหรับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับคณะ ตั้งแต่หัวหน้ายันลูกน้อง สะเทือนกันไปทั้งเครือข่าย ล่าสุด ศาลอาญาได้มีคำสั่งให้ลบโพสต์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการไลฟ์สดเกี่ยวกับวัคซีนต่อต้านโควิด-19 ที่มีเจตนาพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว

จากการเปิดเผยของ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ระบุว่า หลังจากเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 64 ได้มอบหมายทีมกฎหมายไปแจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ให้ดำเนินคดีกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กรณีไลฟ์สดเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิดที่พาดพิงสถาบันหลัก ผ่านเพจคณะก้าวหน้า ฐานความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(3) พร้อมกับได้ยื่นให้ศาล พิจารณาการกระทำดังกล่าว

“ล่าสุด ศาลอาญาได้ตรวจสอบพบเว็บไซต์เผยแพร่ข้อความภาพและคลิปวิดีโอ ที่มีเนื้อหาอันเข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงในราชอาณาจักร ปรากฏใน 3 URLs (รายการ) ประกอบด้วย 1. https://progressivemovement.in.th/article/3258/ 2. https://youtube/Oq7KPO5TBc8 และ 3. https://fb.watch/3aiaDnGJTi/ โดยพบว่าเป็นโพสต์ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก และยูทูปของคณะก้าวหน้า ศาลจึงอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(3) ประกอบ มาตรา 20 มีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลาย ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ การไลฟ์สดของนายธนาธร เนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จึงสั่งระงับการทำให้แพร่หลาย 3 URLs ดังกล่าว”

รมว.ดีอีเอส กล่าวว่า สำหรับคดีความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ได้ยื่นแจ้งความนายธนาธร ต่อ บก.ปอท.ไว้นั้น ต้องติดตามความคืบหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท. และที่เกี่ยวข้อง ทราบว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบหลักฐานดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ยืนยันเจ้าหน้าที่รัฐต้องดำเนินการตามกฎหมาย ไม่สามารถละเว้นได้

ก็ต้องบอกว่า นี่คืออีกหนึ่งข่าวร้ายสำหรับคนพวกนี้ ที่ถูกมองว่าเป็นเครือข่าย “ขบวนการล้มเจ้า” หลังจากก่อนหน้านี้ ก็ถูกปฏิกิริยาสังคมปฏิเสธใส่หน้ามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าเป็นการเคลื่อนไหวทั้งในและนอกสภา ในสภาก็มีพรรคการเมืองที่เป็นเครือข่าย อย่างพรรคก้าวไกล ขณะที่นอกสภาก็มีพวก “ม็อบสามนิ้ว” เคลื่อนขบวน โดยมี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ขับเคลื่อนโดยใช้ “คณะก้าวหน้า” เป็นแกน

แต่หากสำรวจสถานการณ์ล่าสุด หากพิจารณาตามความเป็นจริงแบบตรงไปตรงมาก็ต้องยอมรับว่า พวกเขา “ถดถอย” อย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อยังเดินหน้าโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างรุนแรง และหยาบคาย

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากแบ็กกราวนด์แต่ละคน โดยเฉพาะ “ตัวเบิ้มๆ” ระดับ “หัวโจก” อย่าง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เอาเข้าจริง มีแต่เรื่องอื้อฉาว หลอกลวง ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอีกอย่าง รวมไปถึงคนในครอบครัวก็มาแบบเดียวกัน ที่มีแต่เรื่องมีข้อหาทุจริตคิดมิชอบ

ขณะที่น้องชายคือ นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็กำลังโดนข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน จำนวน 20 ล้านบาท จากกรณีต้องการใช้ประโยชน์ที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กลายเป็นว่า ปากบอกต้องการ “ล้มเจ้า” แต่อีกด้านหนึ่งต้องการทรัพย์สินที่ดิน ส่วนแม่คือ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็เจอข้อหารุกป่าสวนแห่งชาติ นับพันไร่

ไม่เว้นแม้กระทั่งในพรรคก้าวไกล ที่กำลังถูกสังคมกำลังเยาะเย้ย ถากถางจนไปไม่เป็น จากการขอพระราชทานเครื่องราชฯ มันก็เหมือนกับว่า “ปากก็ตะโกนศักดินาจงพินาศ แต่เครื่องราชฯก็อยากได้” อะไรประมาณนั้น หรือเปล่า ดังนั้น อย่าได้แปลกใจว่าจะถูกสังคมมองด้วยสายตาขบขัน


อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากเรื่องหลักที่ต่อเนื่องมาจากคำสั่งศาลดังกล่าวข้างต้นที่สั่งระงับการเผยแพร่คลิปของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่พูดจากระทบชิ่ง ในเรื่อง “วัคซีนพระราชทานฯ” มันก็ย่อมส่งผลกระเทือนอย่างรุนแรงไปถึงญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกด้วย เพราะเนื้อหาในญัตติ “ซักฟอก” ดังกล่าว มีการกล่าวถึงเรื่องของ “การจัดหาวัคซีน” อยู่ด้วย ซึ่งหลายคนก็มั่นใจว่า มีเจตนาที่จะ “กระทบชิ่ง”

อีกทั้งยังมีลูกติดพันต่อเนื่องจากการที่ พรรคก้าวไกล ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พยายามเดินเกมคู่ขนาน ล่ารายชื่อ ส.ส.เพื่อขอแก้ไขพระราชบัญญัติประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่หลายคนมองว่ามีเจตนาเพื่อยกเลิก เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เรียกร้องให้ “ปฏิรูปสถาบันฯ” แต่เมื่อพิจารณาจากเนื้อหาแล้ว ก็มีเป้าหมายเพื่อ “ล้มล้าง” นั่นเอง

และที่สำคัญ กรณีเสนอแก้ไข มาตรา 112 ก็สร้างความแยกแยก ส่อหายนะในพรรคตามมาอีก เมื่อมี ส.ส.ของพรรคก้าวไกล อย่างน้อยสองคนในเวลานี้ ที่ประกาศจุดยืนชัดเจนต่อสาธารณะไปแล้วว่าไม่ร่วมลงชื่อแน่นอน และเชื่อว่า มีแนวโน้มตามมาอีกหลายคน เพราะหากร่วมลงชื่อก็ย่อมมองเห็นถึงอนาคตว่าจะต้องเป็นอย่างไร

 ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากคำสั่งศาลดังกล่าวย่อมมีผลกระทบกระเทือนไปถึงการซักฟอกของฝ่ายค้านอย่างแรง โดยเฉพาะบรรดาเครือข่ายในสภาจากพรรคก้าวไกล เพราะทำให้โอกาสในการอภิปรายเรื่อง “วัคซีนพระราชทาน” เพื่อกระทบชิ่ง ก็ถูกปิดลงไปด้วย และเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวน่าจะเป็นเรื่องหลักของบางพรรค บางกลุ่ม ถึงได้บอกว่างานนี้ คงได้แต่ตีอกชกหัวเท่านั้น !!


กำลังโหลดความคิดเห็น