วันนี้ (15 ม.ค.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” โดยระบุว่า ตนได้รับข้อมูลจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ส่งข้อมูลมาให้กรณี นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า หลังโพสต์เฟซบุ๊กเรื่องการให้ยกเลิก มาตรา 112 โดยตนรู้สึกตกใจมากกับสิ่งที่ นายปิยบุตร โพสต์ข้อความดังกล่าวและยอมกลืนเลือดเพื่อที่จะไม่พูดถึง มาตรา 112 ในการหาเสียงเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 62 ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ก็ไม่ยอมพูดออกมาตั้งแต่ช่วงก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ เพราะหวังประโยชน์ชักนำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าตัวเองเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ และทำการเมืองแก้ไขปัญหาในสิ่งที่ผ่านมา จนได้รับคะแนนเสียงกว่า 6 ล้านคะแนน ทำให้เข้ารับสู่สภาผู้แทนราษฎร มีจำนวน ส.ส. 55 กว่าคน แบบบัญชีรายชื่อ อีก 26 คน เป็นแบบแบ่งเขต รวมมี ส.ส. จำนวน 81 คน ถือเป็นพรรคอันดับ 2 ของพรรคฝ่ายค้าน แต่สิ่งที่นายปิยบุตรเป็นผู้แทนของประชาชนกลับไม่ได้ทำตัวเป็นประโยชน์อะไรเลย
นายสามารถ กล่าวอีกว่า หากจำกันได้ นายปิยบุตร ค้านทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการสถาบัน ซึ่งต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่อ้างว่าต้องการปฏิรูป อย่างไรก็ตาม นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง เพราะทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งในกรณีการกู้ยืมเงิน โดยศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเด็ดขาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ตัวนายปิยบุตรก็ไม่เคยทำตามคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญเสียเลย พร้อมยังลงพื้นที่ช่วยหาเสียงนายก อบจ. ที่ผ่านมา จนรองเท้าขาดไปหลายคู่ และก็ไม่ได้ตำแหน่ง นายก อบจ. แม้แต่ที่เดียว เนื่องจากประชาชนแสดงให้เห็นแล้วว่าไม่สนับสนุนแนวความคิดเห็นของ นายปิยบุตร จากคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. ได้มา 6,330,617 คะแนน เหลือเพียง 2,670,798 คะแนนเท่านั้น ถือว่าลดลงอย่างมาก แสดงให้เห็นแล้วว่าประชาชนไม่เอาแนวคิดล้มเจ้าของนายปิยบุตร
“ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า ส.ส. ท่านใดที่จะกล้ายกเลิก มาตรา 112 ออกไป เพราะถ้ามีคนทำจริง ผมคิดว่าต้องดูกรณีอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 64 นายโดนัลด์ ทรัมป์ ยุยงปลุกปั่นผู้สนับสนุนให้มีการจลาจลบุกรัฐสภา แต่เมื่อวานนี้ ส.ส.ของสหรัฐอเมริกา ได้มีมติถอดถอน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วยคะแนน 232 เสียง ซึ่งเป็น ส.ส. พรรคเดียวกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ถึง 10 คน ฉะนั้น หาก นายปิยบุตร แสดงจุดยืนแบบนี้ ผมคิดว่า คงมี ส.ส.พรรคก้าวไกล หลายท่านที่จะโหวตสวนมติแนวคิด นายปิยบุตร ไม่ยกเลิก มาตรา 112 แต่กลับจะแก้ให้มีโทษรุนแรงมากขึ้น เช่น ฟันคอริบเรือน เป็นต้น”
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ฝากเตือน นายปิยบุตร อย่าคิดเอาแต่ได้ โดยไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชน เพราะคนไทยทั้งประเทศ รักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และ มาตรา 112 ไม่ได้ลงโทษใครเลย ถ้าไม่มีบุคคลใดก้าวล่วง หากประชาชนปฏิบัติตามกฎหมายและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ตนมั่นใจว่า มาตรา 112 ไม่ได้ทำความเดือดร้อนใครได้แน่ อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ นายปิยบุตร ไปอ่านรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 เรื่องหน้าที่พลเมือง ซึ่งคาดว่าคงไม่เคยอ่านเลย โดยรัฐธรรมนูญมาตราบัญญัติไว้ว่า บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ถ้านายปิยบุตรอยากให้ยกเลิก ป.วิอาญา มาตรา 112 ตนจะสนับสนุนให้เพิ่มโทษ โดยให้นำกฏหมายเดิมมาใช้ คือ ฟันคอริบเรือน
“สิ่งที่ นายปิยบุตร ยกคำว่า “รัฐบุรุษ” กับ “นักการเมือง” ต่างกันตรงที่นักการเมืองคิดถึงการเลือกตั้งครั้งถัดไป แต่รัฐบุรุษคิดถึงอนาคตของชาติ คิดถึงคนรุ่นถัดไป ผมจึงอยากบอกนายปิยบุตร ว่า รัฐบุรุษประเทศไทยคนล่าสุดที่ได้ คือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ โดยท่านมีคำพูดเป็นคติสอนใจลูกหลานเสมอว่า เกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน ผมจึงอยากให้นายปิยบุตรหัดเอาท่านเป็นแบบอย่าง และนายปิยบุตร ควรหัดพูดความจริง และ พูดให้ครบ เพื่อผลดีต่อตัวนายปิยบุตรเอง”