“สิระ” แจ้งความจับ “เก่ง การุณ” พร้อมพวก 55 คน กรณีแจ้งความเท็จต่อประธานรัฐสภา และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังจากที่ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านร่วมกันเข้าชื่อยื่นขอให้ประธานรัฐสภา ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะความเป็น ส.ส. ลั่นคิวต่อไป “ยุบพรรคเพื่อไทย” หลังมีมติไฟเขียว ส.ส.ลงชื่อถอดถอน เชื่อครอบงำ
วันนี้ (14 ม.ค.) นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อนายการุณ โหสกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย พร้อมพวก 55 คนที่ยื่นถอดถอนตนเองต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวหาว่าตนเองใช้อำนาจแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐกรณีลงพื้นที่ ตรวจสอบโครงการเดอะ พีค ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต แต่สุดท้ายศาลได้วินิจฉัยว่าการกระทำของตนเองสามารถกระทำได้ตามรัฐธรรมนูญและไม่เป็นการแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐตามรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด ที่จำเป็นต้องเดินทางมาเพื่อดำเนินคดีต่อบุคคลดังกล่าวฐานหมิ่นประมาท แจ้งความเท็จและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พร้อมยืนยันว่าการมาแจ้งความดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิส่วนบุคคลเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง และเป็นการสะท้อนให้สอนทุกคนก่อนที่จะลงชื่อถอดถอนใครให้ตรวจสอบข้อมูลและคำร้องให้ดีและครบถ้วน เนื่องจากบางคนไม่เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว แต่เมื่อลงชื่อแล้วต้องรับผิดชอบ จะอ้างว่าไม่รู้เห็นไม่ได้ พร้อมขอให้สมาชิกสภาผู่แทนราษฎรทำหน้าที่ผู้แทนฯ ให้สมกับที่ประชาชนเลือกมา ไม่ใช่รวมตัวเพื่อกลั่นแกล้งบุคคลใครก็ได้
ส่วนกรณีที่นายการุณอ้างว่าการดำเนินการถอดถอนนายสิระเป็นการใช้สิทธินั้น ตนคิดว่าการใช้สิทธิ ส.ส.ต้องไม่บิดเบือนหรือแจ้งความเท็นเพราะเอกสิทธิ์ ส.ส.ไม่สามารถอยู่เหนือกฎหมาย และทุกอย่างก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่หากนายการุณจะดำเนินคดีกลับก็เป็นสิทธิที่จะดำเนินการได้ตามกฎหมาย
นอกจากนี้ นายสิระยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องกรณีขอวินิจฉัยคุณสมบัติความเป็น ส.ส.ของตน ซึ่งลายมือชื่อของ ส.ส.จำนวน 2 คน ไม่เหมือนที่ให้ไว้กับต่อสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนจะขอข้อมูลมาเพื่อทำการตรวจสอบลายเซ็นตามขั้นตอนทางนิติวิทยาศาสตร์ว่าจริงๆ แล้วความแตกต่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความแตกต่างของโต๊ะที่เซ็นเอกสารอย่างที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวอ้าง หรือเป็นเพราะมีการปลอมแปลงลายเซ็นกันแน่ ถ้าพบว่ามีการปลอมแปลงเกิดขึ้น ผู้ยื่นเรื่องอย่าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ต้องรับผิดชอบ และก็คงหนี้ไม่พ้นโทษจำคุก รวมไปถึงการยุบพรรคเสรีรวมไทยด้วย โดยจะได้รับลายเซ็นจากสภามาตรวจสอบใน 1-2 วันนี้
นายสิระยังเปิดเผยด้วยว่า ในสัปดาห์หน้าจะไปยื่นยุบพรรคเพื่อไทยต่อนายทะเบียน เพื่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบว่าการที่พรรคเพื่อไทยมีมติพรรคให้ยื่นถอดถอนตนเองตามคำร้องของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์นั้นถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 114 ที่ระบุว่า ส.ส.ย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยย่อมไม่อยู่ในอาณัติหรือการครอบงำของใคร
พร้อมกันนี้เรียกร้อง ส.ส.ทั้ง 12 คนที่ถูกกล่าวหาว่ารับเงินจากตนและถอนชื่อจากคำร้องให้ออกมาชี้แจงและปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง เพราะหากไม่ออกมาชี้แจงประชาชนในพื้นที่ก็คงคิดว่าโง่ ขี้ขลาด กลัวสิระ ไม่กล้าออกมา อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการตรวจสอบแล้วว่าตนเองได้รับความเสียหายหรือไม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“พรรคเพื่อไทยใกล้ล่มสลายหรือยัง มีศักดิ์ศรีหรือไม่ วันที่ยื่นถอดถอนผมไม่มีพรรคเสรีรวมไทยเลย แต่วันนี้หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยไปด่าพรรคเพื่อไทยว่าถอนชื่อออก พรรคเพื่อไทยยังอยู่เฉย ปล่อยให้อีกพรรคมาด่าคนในพรรคโง่ รับสินบน คนในพรรคเป็นงูเห่า คนในพรรคขี้ขลาด ใกล้ล่มสลายใช่มั้ยพรรคเพื่อไทย” นายสิระกล่าว