“ประยุทธ์” ย้ำผ่านเพจไทยคู่ฟ้า ไม่มีมือถือโหลดหมอชนะ ให้ใช้วิธีการทำบันทึกต่อเจ้าหน้าที่แทน วอนทุกฝ่ายร่วมมือ ปัดต้องการลงโทษใคร คาด ก.พ.เริ่มฉีดวัคซีน 2 แสนโดส ขอรออีกนิดมาตรการเยียวยา ปัดแจก 4 พัน ชี้ รพ.สนามจำเป็น อย่ารังเกียจ
วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวช่วงหนึ่งในรายการ PM PODCAST ผ่านเพจไทยคู่ฟ้าว่า ในส่วนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้ทุกคนทราบดีว่ามีการแพร่ระบาดจนมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น จึงอยากให้ทุกคนตระหนักรู้ว่าเราจะต้องร่วมมือกับรัฐบาลและดูแลตัวเองอย่างไรครอบครัว ชุมชนและประเทศ ทั้งนี้ ถ้าเราร่วมมือกันในลักษณะรวมไทยสร้างชาติ ร่วมต้านโควิด-19 โดยเริ่มจากตัวเราเองก่อน ที่ไหนที่เป็นจุดเสี่ยงถ้าไปแล้วจะเกิดการติดเชื้อก็ต้องระมัดระวังอย่าเดินทางเข้าไป หรืออย่าไปสนุกสนานในสถานที่เหล่านั้น เพราะเราไม่สามารถควบคุมได้ 100% ทั้งหมดขึ้นอยู่กับประชาชนทุกคน จึงขอร้องว่าอยากเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงที่จะติดเชื้อระบาดสูง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีสถิติติดเชื้อจำนวนมาก หรือสถานที่อโคจรซึ่งทุกคนทราบดีอยู่แล้ว หรือถ้าเดินทางไปมาแล้วเกิดความสงสัยขอให้ชี้แจงให้ข้อมูลต่อหน่วยแพทย์และสาธารณสุขที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบคัดกรองจะได้ติดตามถึงคนอื่นๆ ด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในการออกข้อกำหนดในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 5 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดสมุทรสาคร จันทบุรี ชลบุรี ระยอง และตราด โดยผู้ใดที่จะเดินทางเข้าหรือออกจำเป็นต้องมีเอกสารรับรองตามความจำเป็น เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ไม่ต้องการที่จะลงโทษใคร แต่ก็จำเป็นเพราะกฎหมายได้กำหนดไว้แล้วว่าหากมีการฝ่าฝืนต้องได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้ที่ปกปิดข้อมูลการเดินทางด้วย ทั้งนี้ ทุกอย่างจะต้องอยู่บนพื้นฐานของการควบคุมโรค และต้องไม่ละเลยเรื่องการใช้ชีวิตตามปกติ และปัญหาปากท้องของทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องหาเช้ากินค่ำ ขอความร่วมมืออีกครั้งที่ผ่านมาเราเคยทำมาได้ดีแล้วในระยะที่ 1
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในเรื่องของวัคซีนรัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมากและคาดว่าในปี 2564 นี้ประเทศไทยจะเริ่มได้รับวัคซีนเข้ามา ระยะแรกประมาณ 2 แสนโดส ในเดือนกุมภาพันธ์ เดือนมีนาคม 8 แสนโดส เดือนเมษายน 1 ล้านโดส และเดือนพฤษภาคมอีก 26 ล้านโดส นอกจากนั้นเรายังได้จองวัคซีนเพิ่มเติมแล้วอีกสาม 15 ล้านโดส เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยระยะแรกจะฉีดให้จำนวนยังไม่ครบ แต่อย่าลืมว่าเรามีบริษัท สยามไบโอฯ ซึ่งเมื่อเราได้วัคซีนมาก็จะมีการผลิตวัคซีนของเราเองเพื่อฉีดให้กับประชาชนได้ทั้งประเทศ ระยะต่อไปเราจะดูแลประเทศสมาชิกอาเซียนด้วย หากเราทำสำเร็จก็เป็นความคาดหวังของเรา จึงขอให้ทุกคนเชื่อมั่น ศรัทธา รัฐบาลก็จะดูแลให้ดีที่สุด ในส่วนของคนไทยตั้งเป้าไว้ว่าจะฉีดให้ฟรีตามระยะตามความเสี่ยงไปก่อนจนกว่าวัคซีนจะมีเพียงพอซึ่งจะฉีดให้แก่คนทั้งประเทศ เราเป็นห่วงคนที่อยู่หน้างานทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ความมั่นคง อสม. ผู้สูงอายุ แต่เราก็ต้องระมัดระวังในเรื่องของผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นซึ่งขณะนี้เราได้มีการติดตามจากต่างประเทศที่มีการฉีดวัคซีนแล้วแต่ขออย่าเพิ่งตื่นตระหนก ทุกอย่างต้องมีการตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่คนไทยทุกคน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สำหรับมาตรการเยียวยา รัฐบาลทราบดีว่าทุกคนลำบาก ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมามีการแชร์ข้อมูลและแสดงความคิดเห็นในการช่วยเหลือประชาชนโดยใช้เงินกู้ต่างๆ ยืนยันว่าการให้เงิน 4,000 บาท ยังไม่มีการประกาศออกไปเป็นข่าวที่ถือว่าไม่จริง ทุกคนอาจจะอยากได้แต่ขอให้เข้าใจว่ารัฐบาลจำเป็นต้องใช้เงินอย่างระมัดระวัง แต่เราก็มีงบประมาณค่อนข้างเพียงพอ ทั้งงบรายจ่ายที่เตรียมไว้กรณีฉุกเฉิน งบเงินกู้ และงบสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบ คาดว่ายังเพียงพออยู่ แต่ขณะนี้กระทรวงการคลัง สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาภาพรวม คงไม่ใช่แค่เฉพาะประชาชน เพราะยังมีอีกหลายภาคส่วนที่มีปัญหาเช่นกัน ก็ขอให้รออีกสักนิด
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับการจัดหาสถานที่เพื่อตั้งโรงพยาบาลสนามนั้น ยืนยันว่ามีความจำเป็น เนื่องจากบางพื้นที่ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนมาก หากเราเคลื่อนย้ายคนเหล่านี้ไปที่อื่นหรือจังหวัดอื่นก็อาจไม่พอใจกัน เป็นเรื่องที่ทุกจังหวัดจะต้องเตรียมพื้นที่สำหรับจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ซึ่งก็มีมาตรการเช่นเดียวกับโรงพยาบาลทั่วไป ทั้งมาตรการการควบคุมการเข้าและออก ความปลอดภัย สิ่งที่ดีคือเราสามารถขัดแยกบุคคลเหล่านี้ออกไปอยู่ในพื้นที่ที่สามารถควบคุมได้ในโรงพยาบาลสนามก็จะสามารถลดการแพร่กระจายในพื้นที่ส่วนรวม จึงขอความร่วมมือและขอชื่นชมหลายคนที่บริจาคสถานที่โกดังที่จะตั้งเป็นโรงพยาบาลสนาม ขอร้องว่าอย่ารังเกียจกันเลย ตราบใดถ้าเราสามารถควบคุมเป็นพื้นที่ได้ มีการตรวจสอบคัดกรอง รักษาได้ ก็ต้องช่วยกัน ขอให้เข้าใจกันบ้าง ไม่เช่นนั้นมันก็จะทำอะไรไม่ได้ ต่อไปก็จะเดือดร้อน
“ในการตรวจเชื้อโควิด-19 นั้น อยากขอให้ทุกคนอย่าวิตกจนเกินไป บางคนไม่ได้ไปไหน ไม่ได้ไปในพื้นที่สุ่มเสี่ยง ไม่มีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อหรือเคยเดินทางไปยังพื้นที่ระบาด แพทย์แนะนำให้เฝ้าสังเกตอาการ เก็บตัวอยู่ที่บ้าน 14 วัน และถ้ามีเหตุผิดปกติก็ไปพบแพทย์ ซึ่งในการตรวจเชื้อแต่ละครั้งต้องช่วยกันเพราะใช้น้ำยาที่มีราคาสูง และเราจำเป็นต้องจัดลำดับความสำคัญของผู้ที่มีความเสี่ยงให้ตรวจก่อนเพื่อที่จะได้ควบคุมโรคได้ถูกจุด ขอเพียงอย่างเดียวให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่และต้องดูแลตัวเอง อย่าปกปิดซึ่งกันและกัน ขณะนี้มีข่าวว่าหลายคนมีความกังวลว่าโทรศัพท์ตัวเองนั้นไม่ทันสมัย ไม่สามารถที่จะโหลดแอปพลิเคชันได้แล้วจะมีความผิด ผมได้สอบถามไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแล้ว ได้รับการยืนยันว่าไม่ได้มีความผิดอะไร ถ้ามีโทรศัพท์ที่โหลดแอปไม่ได้ก็ต้องลงทะเบียนเพื่อควบคุมได้ว่าจะไปไหนต่อไปอย่างไร ก็ต้องเขียนแผนต่างๆ เพื่อที่จะได้ตรวจสอบได้ ขอร้องว่าให้ช่วยกัน ใครมีโทรศัพท์ที่สามารถโหลดแอปพลิเคชันได้ก็ขอให้โหลด ขอร้องว่าอย่าไปอ่านหรือฟังข่าวที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ก็จะเกิดความตกใจกันไปทั้งหมด ผมเองก็ไม่ทราบว่าจะเขียนกันไปเพื่ออะไร” นายกรัฐมนตรีกล่าว