“สุดารัตน์” ลุยตั้งพรรคไทยสร้างไทย หวังเป็นสถาบัน ย้ำจุดยืนต้านเผด็จการ รอ กกต.รับรอง เปิดหน้าตัวจริงขับเคลื่อนพรรค คน พท.ไหลออกไม่หยุด “ต่อพงษ์-วิจักร-สาขาภาคใต้” ทยอยไขก๊อกร่วมงานอดีต ปธ.ยุทธศาสตร์ฯ จับตา ส.ส.เด็กเจ๊แห่ซบด้วย
วันนี้ (30 ธ.ค.) แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยเปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ที่ได้ลาออกจากตำแหน่งและลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยไปแล้วว่า คุณหญิงสุดารัตน์ได้ดำเนินกาาตั้งพรรคการเมืองขึ้นเองโดยเป็นการจดแจ้งตั้งพรรคการเมืองใหม่ เบื้องต้นจดทะเบียนในชื่อพรรคไทยสร้างไทย มีชื่อ ว่าที่ ร.ต.สอิสร์ โบราณ เกษตรจังหวัดขอนแก่น ผู้ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค และนายวัลลภ ไชยไธสง อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองบัวแดงวิทยา ต.หนองเม็ก อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น เป็นผู้ยื่นคำขอจัดตั้งพรรคต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 63 และอยู่ระหว่างตรวจสอบรายชื่อสมาชิกตั้งต้น 500 คน ทั้งนี้ ว่าที่ ร.ต.สอิสร์ และนายวัลลภ เป็นคนใกล้ชิดของนายพงศกร อรรณนพพร อดีต ส.ส.ขอนแก่นหลายสมัย ที่ได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทยมาพร้อมกับคุณหญิงสุดารัตน์
อย่างไรก็ดี ชื่อพรรคไทยสร้างไทยยังเป็นชื่อพรรคในเบื้องต้น อาจจะมีการพิจารณาปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสมและข้อกำหนดทางกฎหมายอีกครั้ง เนื่องจากชื่อไปพ้องสถาบันสร้างไทยที่อยู่ภายใต้มูลนิธิไทยพึ่งไทย ที่คุณหญิงสุดารัตน์เป็นประธาน และจดทะเบียนจัดตั้งมาตั้งแต่ปี 2543 อาจกระทบต่อการดำเนินการของมูลนิธิฯ ได้ โดยหลังจากได้รับรับรองจาก กกต. และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาอย่างเป็นทางการแล้วจะได้มีการจัดประชุมใหญ่สามัญของพรรคเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่จะเป็นตัวจริงในการทำงานขับเคลื่อนพรรคต่อไป ตลอดจนการพิจารณาเปลี่ยนชื่อพรรคที่ยังเปิดกว้างและรอระดมความเห็นผู้ที่จะมาร่วมงานด้วยอีกครั้ง
แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า หลังจากที่คุณหญิงสุดารัตน์ลาออกจากพรรคเพื่อไทย ได้มีบุคคลหลากหลายกลุ่มในแวดวงการเมืองทั้งรัฐบาล, ฝ่ายค้าน และกลุ่มการเมืองที่กำลังตั้งพรรคเช่นกัน ได้พยายามติดต่อทาบทามให้คุณหญิงสุดารัตน์เข้าร่วมทำงานการเมืองด้วย แต่คุณหญิงสุดารัตน์ไม่ได้ตอบรับกลุ่มใดเลย เพราะมีความตั้งใจที่จะทำพรรคการเมืองเอง โดยต้องการสร้างพรรคให้เป็นสถาบันการเมือง เป็นที่พึ่งของประชาชน และคนตัวเล็กที่ขาดโอกาสทางสังคม สำหรับแนวนโยบายของพรรคไทยสร้างไทยจะยังคงยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ต่อต้านเผด็จการ และการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลทหาร ตามที่คุณหญิงสุดารัตน์ได้แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนมาโดยตลอด รวมไปถึงมุ่งเน้นการนำเสนอนโยบายแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ และปัญหาปากท้องประชาชนเป็นหลัก ขณะที่ในส่วนของผู้ที่จะมาร่วมงานกับพรรคไทยสร้างไทยนั้นยืนยันว่าไม่มีการดูดคนจากพรรคเพื่อไทย แต่เปิดกว้างสำหรับคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า นอกเหนือจากนายวัฒนา เมืองสุข, นายโภคิน พลกุล และนายพงศกร ที่ได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทยพร้อมคุณหญิงสุดารัตน์แล้ว ช่วงที่ผ่านมายังมีนักการเมืองในพรรคเพื่อไทยหลายคนที่ได้ลาออกจากพรรค รวมทั้งแสดงความตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานการเมืองร่วมกับคุณหญิงสุดารัตน์ ทั้งในภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคใต้ เช่น นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น อดีต รมช.สาธารณสุข, นายวิจักร อากัปกริยา อดีตอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และอดีตผู้สมัครบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงกลุ่มสาขาพรรคภาคใต้ เป็นต้น
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ยังมี ส.ส.ปัจจุบันในพรรคเพื่อไทยจำนวนไม่น้อยที่มีแนวโน้มสูงว่าจะลาออกไปอยู่กับคุณหญิงสุดารัตน์อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นภาค กทม., ภาคเหนือ และอีสาน หรือกลุ่มสายตรงเด็กเจ๊ที่เคยมีบทบาทโดดเด่นในสภาช่วงที่คุณหญิงสุดารัตน์เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ซึ่งรับรู้กันในวงกว้างภายในแล้ว แต่คนที่เป็น ส.ส.ยังไม่สามารถลาออกจากพรรคได้ เพราะจะขาดสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. ต้องรอจนหมดวาระ, ยุบสภา หรือเกิดอุบัติเหตุทางกรรเมือง เช่นเดียวกับ ส.ส.และแกนนำพรรคในภาคเหนือ และภาคอีสานที่ขัดแย้งกับทางพรรคอย่างหนักช่วงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) รวมทั้งในหลายจังหวัดทางภาคอีสานที่คุณหญิงสุดารัตน์ไปช่วยหาเสียง อบจ.ด้วย
