“คุณหญิงสุดารัตน์” ร่วมกับ ส.ส.มอบสิ่งของจำเป็นช่วยเหลือ ปชช.เมืองนนท์ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แนะรัฐเร่งสนับสนุนบุคลากร สาธารณสุข พร้อมย้ำแนวทางการป้องกันตนเอง
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 63 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย ร่วมกับ นายมนตรี ตั้งเจริญถาวร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย, นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย และนายสุรชาติ เทียนทอง อดีต ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อมอบสิ่งของจำเป็นสำหรับการอุปโภคบริโภค ทั้งข้าวสาร อาหารแห้งและน้ำดื่ม เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิค-19 รอบใหม่
โอกาสนี้คุณหญิงสุดารัตน์และคณะยังได้พูดคุยสอบถามถึงปัญหาความทุกข์ยากในการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพ หลายคนระบุตรงกันว่านับแต่มีข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้การประกอบอาชีพได้รับผลกระทบอีกครั้ง การค้าขายมีผลต่อยอดการสั่งซื้อและการจับจ่ายใช้สอยของพี่น้องประชาชน ขณะที่หลายคนยังมีความยากลำบากนับแต่มีสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงปัจจุบันยังไม่ฟื้นตัว แต่กลับต้องมาประสบกับสถานการณ์ในลักษณะเดียวกันซ้ำเติมให้เกิดความยากลำบากมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของภาระหนี้สิน และรายได้ที่ไม่เพียงพอต่อรายจ่ายและการกินอยู่ในครอบครัว
คุณหญิงสุดารัตน์เน้นย้ำว่า โควิด-19 ที่เกิดขึ้นรอบใหม่นี้ต้องไม่ประมาท เพราะจุดเริ่มต้นของการพบการระบาดครั้งนี้มีผู้ติดเชื้อเริ่มต้นถึงกว่า 500 ราย และระบาดขยายวงไปแล้วนับพันคนในหลายจังหวัด จึงต้องระมัดระวังและป้องกันตัวเองโดยการสวมหน้ากาก และหมั่นล้างมือทุกครั้งที่หยิบจับหรือสัมผัสสิ่งของต่างๆ
ขณะเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ยังให้กำลังใจพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ หลังต้องกลับมาเชิญกับวิกฤตด้านเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องอีกครั้ง จึงต้องฝากไปยังรัฐบาลซึ่งเคยย้ำเตือนไปตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย.แล้วว่าต้องจัดสรรกำลังดูชายแดนด้านตะวันตก อย่าปล่อยให้มีการลักลอบของแรงงานเข้ามาภายในประเทศ แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่ายังพบการรับผลประโยชน์เพื่อให้แรงงานเข้ามาภายในประเทศ โดยไม่ผ่านการกักตัวและตรวจตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข และเห็นว่ากลไกของกำนันผู้ใหญ่บ้านที่ช่วยดูแลตรวจตราแรงงานจากเพื่อนบ้านมีศักยภาพและกำลังพลไม่เพียงพอซึ่งรัฐบาลต้องเร่งแก้ไข และต้องเร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อให้มากที่สุด
“โดยเฉพาะการจัดสรรหาสถานที่กักตัว 14 วันให้เพียงพอ ซึ่งต้องทำควบคู่ไปกับการสนับสนุนบุคลากรด้านสาธารณสุขเพื่อให้มีความพร้อมและเครื่องไม้เครื่องมือในการดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของรัฐบาล” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
