นายกฯ เผยต้องตัดสินใจเพื่อความปลอดภัย ปชช. ควบคุมระดับน่าพอใจ ให้ จว.กำหนดมาตรการแต่ละพื้นที่ มาตรการชั่วคราวลงทะเบียนต่างด้าวจ่อเข้า ครม. สอบชื่อผู้มีอำนาจชักใยขนแรงงานเถื่อน ขู่ปลดทันที ย้ำ ห่วงรักคนไทยทุกคน ชู สธ.ไทยมีครบ พร้อมรองรับ
วันนี้ (24 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.10 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ว่า ตนขอพูดในนามของ ศบค.ในนามของรัฐบาล ในเรื่องที่ทุกคนมีความไม่สบายใจเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน จ.สมุทรสาคร และมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในจังหวัดต่างๆ ทั้งนี้ ก็เป็นการหารือกันว่าเราจะทำอย่างไรกันต่อไป ซึ่งที่จริงแล้วเราก็ทำมาโดยตลอดตั้งแต่วันแรกที่ทราบข้อมูล ซึ่งวันนี้เป็นการสรุปข้อมูลว่าในช่วงที่ผ่านมาเกิดปัญหาอะไรมาแล้วบ้าง และดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง ส่ิงสำคัญที่อยากให้ทุกคนเข้าใจ การทำงานมีหลายระดับด้วยกัน ระดับแรก คือ รัฐบาล อันดับที่ 2 คือ รัฐบาลมอบนโยบายไปที่ ศบค.เผอิญว่ารัฐบาล และ ศบค.เป็นคนเดียวกัน และมีการประชุมย่อยเยอะแยะเพื่อหามาตรการที่เหมาะสม ในการที่จะสั่งการลงไปในพื้นที่ ฉะนั้น การทำงานจริงๆ แล้ว มันอยู่ในพื้นที่ คือ ผู้ว่าราชการจังหวัด มีสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ที่อยู่ตรงโน้น มีคณะกรรมการอยู่แล้ว สามารถบูรณาการในระดับพื้นที่ได้ส่ิงสำคัญที่สุดในวันนี้ คือ เราต้องยกระดับความเข้มข้นใน ศบค.ว่า จะมีการย้ายให้กลับมาอยู่ที่ ก.พ.หรือทำเนียบรัฐบาลเหมือนเดิม และให้มีการประชาสัมพันธ์ทุกวัน เพื่อสร้างความเข้าใจ ซึ่งการทำความเข้าใจมี 2 ทาง คือ 1. จาก ศบค. 2. จากสื่อมวลชนที่ลงไปในพื้นที่ ฉะนั้น ก็เอามาประมวลกับส่ิงที่รัฐบาลประกาศมาตรการไปแล้วมาดูว่ามีปัญหาอย่างไร
โดยสื่อต้องช่วยเราด้วยตรงนี้ หากอันไหนดีถ้าไม่พูด แล้วพูดแต่ส่ิงไม่ดี อันไหนที่ไม่ดีก็มาบอกให้ตนแก้ มันจะต้องสื่อสารซึ่งกันและกัน ถึงจะแก้ปัญหาได้ ไม่อย่างนั้นก็กระจายกันไปอยู่อย่างนี้ ตนขอขอบคุณผู้หวังดีตามสื่อโซเชียลมากมาย สิ่งสำคัญวันนี้ได้เน้น ตนไม่ได้ต้องการให้มีปัญหาในเรื่องการปฏิบัติงาน ซึ่งการกำหนดพื้นที่ได้มีการกำหนดแล้ว แต่เป็นการกำหนดแบบคราวๆ ว่า เราจะไปหาพื้นที่กันอย่างไร ส่วนที่ระบุสีเพื่อกำหนดดูแลตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เราจะใช้มาตรการควบคุมสูงสุดอย่างไร พื้นที่ที่มีการเฝ้าระวังสูงอย่างไร ซึ่งกำลงแยกประเภทเหล่านี้ออกมา ซึ่งในแต่ละจังหวัด แต่ละกลุ่มผู้ว่าราชการ สสจ.และคณะทำงานจะพิจารณาเอง
“เรากำหนดในเรื่องของกิจกรรม ซึ่งบางพื้นที่ทำได้ บางพื้นที่ทำไม่ได้ ซึ่งอยู่ในกลุ่มเหล่านี้ การจัดงานก็ต้องไปดูและมีการชี้แจงมาตรการที่ชัดเจนว่า อะไรจัดได้ และจัดไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานสาธารณะที่ไม่รู้ที่มาของคน เพราะเมื่อจัดงานคนจะมาร่วมงานเท่าไหร่ไม่รู้ เรื่องนี้มันคุมไม่ได้ ทุกคนก็กังวลตรงนี้ ตนจำเป็นที่จะต้องตัดสินใจ ซึ่งตนไม่อยากตัดสินใจตรงนี้ แต่มันต้องตัดสินใจ เพื่อความปลอดภัยของคนทั้งประเทศ เพื่อบริหารความเสี่ยง ความตื่นตะหนกให้ได้ วันนี้หลายอย่างมันไปด้วยกัน การท่องเที่ยว ความสุข ปีใหม่ เศรษฐกิจใหม่ๆ ต้องหาวิธีการอย่างเหมาะสม ข้อสำคัญวันนี้อยากจะยืนยันว่า ทั้งจากคณะแพทย์ และกรมควบคุมโรคต่างๆ เขายืนยันว่า ยังสามารถควบคุมได้ในระดับเป็นที่น่าพอใจ” นายกฯกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต่อไปนี้ก็เหลือแต่ความร่วมมือในพื้นที่ต่างๆ อย่างไร มาตรการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดไปออกละเอียด มาตรการยิบย่อยจะทำอย่างไร วันนี้ก็เป็นห่วงสถานศึกษา ที่ทำงาน สถานที่ประกอบการค้าสัตว์น้ำ และบางพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดจากคนตรงนี้ไปตรงโน้น เขาทำงานกันแบบนี้ ไม่ใช่ประกาศคุมไปทั้งหมด คนเดือดร้อนไปทั้งหมด ส่วนเรื่องสัตว์น้ำ ขณะนี้กรมควบคุมโรคกำลังพิสูจน์ทราบอยู่ แต่เท่าที่พิสูจน์ทราบมา บางทีก็ไม่ใช่ข้อเท็จจริง คือ มันยังไม่พบ และจะทำให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะจะมีผลต่อการส่งออกสินค้า เป็นจำนวนมาก หากเราสามารถสร้างความชัดเจนตรงนี้ได้ และมีมาตรฐานรับรองก็จะโอเค ฉะนั้น ก็ขอผ่านสื่อด้วยแล้วกัน กรุณาลงรายละเอียด และตามที่ศบค.แถลงว่าทำไมถึงออกมาอย่างนี้ ถ้าไม่คิดตามตรงนี้แล้วไปดูตรงปลายทางว่าเกิดอะไรขึ้น แสดงว่าไม่ได้ผลเลยหรือไม่ ซี่งมันไม่ใช่ เพราะทั้งหมดทั้งมวลมันเกี่ยวข้องคนในประเทศ ถ้าคนทั้ง 70 ล้านคน ปฏิบัติตามระเบียบและมีวินัยของตัวเอง สวมหน้ากาก รักษาระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ไม่ไปแหล่งที่มีคนจำนวนมาก ไม่ไปตะโกนใส่กัน ไม่ไปฟังอะไรที่มีน้ำลายออกมา สิ่งเหล่านี้คือ ส่วนที่เราจะช่วยกันได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดจะไม่มีการแพร่เชื้อใหม่ได้ คือ การทำมาตรการป้องกันด้านสาธารณสุข ไม่รับเชื้อและแพร่เชื้อให้คนอื่น และถ้ารู้ตัวว่าไปพื้นที่เสี่ยงขอให้กักตัวเอง ทำไมต้องให้บังคับ และถ้ามีอะไรสงสับก็ให้ไปหาหมอ เพราะตรวจให้ฟรีอยู่แล้ว สิ่งสำคัญวันนี้คือการบริหารแรงงานต่างด้าว ท่านก็รู้แรงงานต่างด้าวมีเท่าไหร่ กี่ล้านคน แล้วทำไมต้องมีแรงงานต่างด้าว เพราะคนไทยไม่ทำงานเหล่านี้ จึงต้องมีแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมาย ทุกรัฐบาลที่ทำมาย้อนกลับไปดูมีใครทำไหม รัฐบาลนี้ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อ 2 ปีที่แล้ว วันนี้ก็ต้องดูที่เล็ดลอดเข้ามา เพราะความต้องการมากขึ้น คนเห็นแก่ตัวมากขึ้น จ้างแรงงานราคาถูก พอเดือดร้อนขึ้นมาก็ขอให้รัฐบาลเยียวยา ตนว่ามันช่วยกันไม่ได้เหรอ ก็ให้รับแรงงานที่มันถูกต้อง ยอมเสียค่าแรงให้เขาหน่อย มันเป็นเรื่องของความเป็นธรรม การดูแลเขา เพราะเป็นเพื่อนบ้านกัน พอเราไม่ปฏิบัติตามกฎกติกา กฎหมาย มันก็คือปัญหา เพราะมีคนที่แสวงหาประโยชน์ตรงนี้ เราต้องช่วยสร้างความเข้าใจ นี้คือรวมใจไทยสร้างชาติ
นายกฯกล่าวว่า ทุกกิจกรรมถ้าบอกว่ารัฐบาลได้ผลหรือไม่ได้ผล ทำดีไม่ได้ดี ต้องไปดูซิว่า คนไทยทั้งหมดร่วมกันได้ไหม ผมไม่ได้ไปโทษคนไทยเลย ไม่ได้โทษใครทั้งสิ้นจะแรงงานต่างด้าวหรือคนไทยก็ไปหาดูว่า ใครที่เกี่ยวข้องตรงนี้จะต้องทำตัวอย่างไร ปรับตัวอย่างไร รัฐบาลมีหน้าที่ในการดูแล เมื่อมีคนได้รับผลกระทบก็ต้องดูแล มีผู้เจ็บป่วยก็ต้องช่วยดูแลแก้ปัญหาไป ทุกอย่างมันคือปัญหาคน 70 ล้านคน ใช่ไหม จะทำให้ถูกใจทุกคนเป็นไปได้ไหม มันยากเหมือนกัน เพราะทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเอง วันนี้โลกโซเซียลมันก็ไกล ทุกคนเป็นห่วงกันหมด ท้ายที่สุดใครจะด่าจะว่าผม รับได้ทั้งหมด แต่ผมก็ไม่โกรธเขาหรอก มันบาป ไม่โกรธหรอก"นายกฯกล่าวและว่า ฉะนั้น ขอให้ทุกคนช่วยกันทำให้บ้านเมืองปลอดภัยในระยะนี้ ต่อไปนี้ทุกวันแถลงตรงนี้ ถ้ามีอะไรที่ไม่ตรงกับที่แถลงก็ถามหมอทวีศิลป์แล้วจะไปหาคำตอบให้ ถ้าไปฟังตรงโน้นมาแล้วมีตีตรงนี้ โดยที่ไม่บอกว่าคืออะไรมันแก้ไม่ได้
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้แรงงานต่างด้าวข้างในก็ควรจะอยู่ในพื้นที่ และมีการแยกกันให้ชัดเจน วันนี้มาติดคนไทย จากการติดแรงงานต่างด้าว จะแยกกันอย่างไร ใครตรวจแล้วจะทำอย่างไร ใครยังไม่ตรวจจะทำอย่างไร และจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้าในเรื่องของการมาตรการในการให้ทำงานได้เป็นการชั่วคราว พวกที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน เพราะความต้องการของบริษัท ผู้ประกอบการต้องการแรงงานเยอะ วันนี้มีกิจกรรมมากมายเกิดขึ้น ต้องไปดูว่าที่ขึ้นทะเบียนครั้งที่แล้วมันพอหรือยัง ก็ต้องให้สถานประกอบการทั้งหมดได้ระบุว่าต้องการแรงงานเท่าไหร่ เพื่อจะตรวจสอบขึ้นบัญชีให้เรียบร้อย วันนี้คนที่ถูกต้องเท่าไหร่ คนที่ไม่ถูกต้องเท่าไหร่ ทำอย่างไรที่จะให้คนกลุ่มนี้เข้ามาสู่ระบบให้ได้ นี่แหละคือความต้องการของตลาดแรงงานอย่างแท้จริง ต้องบริหารแบบนี้ ถ้าจิ๊บจ๊อยทุกเรื่องมันเป็นไปไม่ได้หรอก
“ที่ผมมาพูดวันนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลจะดูแลอย่างเต็มที่ และให้คำยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุขว่าสามารถดูแลได้หากทุกคนให้ความร่วมมือ ขณะนี้มีทั้งจังหวัดที่มีมากบ้างน้อยบ้าง ตรงไหนที่แรงมากหน่อยก็อยู่ในพื้นที่ควบคุมในระดับที่สูงสุด ส่วนที่เหลือก็อาจจะเฝ้าระวังมากบ้างน้อยบ้าง ก็แล้วแต่สถานการณ์ ไม่เช่นนั้น ก็ตื่นตระหนกกันไปทั้งหมด ถ้าบอกเป็นสีเดี๋ยวก็ตกใจกันอีก แต่นี่เขากำหนดบางพื้นที่ บางอำเภอ บางตำบล บางชุมชน วันนี้ในที่ประชุมถือว่าได้ข้อสรุปเยอะเพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้ปฏิบัติได้ ผมได้เน้นย้ำไปกับผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นผบ.ในระดับพื้นที่อยู่แล้ว และมีอำนาจสั่งการ ผมได้มอบไปแล้ว ไม่ใช่ว่าผมจะไปโยนให้ผู้ว่าฯ แต่เป็นการมอบอำนาจจากผมลงไป เพราะฉะนั้นผู้ว่าก็ต้องทำให้เต็มที่ ทำให้ดีที่สุด รวมถึงข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ทุกเรื่องช่วยกันปราบปรามการทุจริตให้ผมด้วย ถ้าพูดกันลอยๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ที่ผ่านมา เขาก็จับแต่ไม่มีการแถลงข่าว วันนี้ก็จะต้องให้รับรู้ข้อมูลกันให้มากยิ่งขึ้น เพราะมีคนสงสัยเยอะ ก็ต้องไปดูที่บอกว่ามีผู้มีอำนาจสั่งให้รถตู้เข้ามา ก็ต้องไปดูว่าใครคือผู้มีอำนาจที่ว่า ใครจะกล้าสั่งบอกมาเลย ผมจะปลดมันเดี๋ยวนี้ เอามาเลย จะส่งแบบลับๆมาก็ได้ ชื่อใครบอกมาผมจะสอบให้หมด และผมก็ดูในโซเชียลก็เห็นมีส่งชื่อมา ผมก็กำลังสอบอยู่หลายคนเหมือนกัน ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทั้งหมดผมจะสอบหมด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับสื่อด้วยว่า สื่อต้องระวังตัวเอง เวลาไปในพื้นที่คนเยอะๆ ถ้าเห็นใครไม่ใส่หน้ากาก ก็ต้องถามว่าทำไมไม่ใส่หน้ากาก ช่วยฉันอย่างนี้ได้ไหม ใครที่รู้ว่าไปพื้นที่เสี่ยงถ้าไม่ต้องการจะเป็นภาระก็ควรหยุดอยู่บ้าน 14 วัน ทางการแพทย์บอกว่าจะดีขึ้น แต่ถ้ายังไม่ดีให้หาหมอ รักษาได้หมด ไม่ถึงตาย ที่ตายตอนแรกเพราะยายังไม่พร้อม แต่วันนี้ยาพร้อมแล้ว และไม่ได้หวังให้ใครตาย ทางการแพทย์ยืนยันว่าถ้ารักษาทัน ให้ยาทัน หายหมด ซึ่งบางคนไม่ต้องใช้ยา ภูมิต้านทานก็เกิดขึ้นมาเอง โดยเฉพาะคนที่แข็งแรง แต่คนที่มีความเสี่ยงสูงคือคนชรา ผู้ที่มีโรคประจำตัว ส่วนเรื่องวัคซีนกำลังพัฒนาและติดตามของต่างประเทศ ซึ่งมีข่าวว่าหลายประเทศฉีดอยู่ ต้องติดตามด้วยว่าหลังการฉีดแล้วเกิดอะไรขึ้น เราต้องมีมาตรการทุกที่และต้องตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยต้องไม่มีผลข้างเคียง ตรงนี้ต้องถามหมอ
“วันนี้ถ่ายทอดสดใช่ไหม ต้องขอโทษทีเขาเพิ่งมาบอกผม ผมไม่อยากจะดุเดือดอะไร พูดกับสื่อ ขอกราบเรียนพ่อแม่พี่น้อง ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ผมไม่อยากให้ทุกคนตื่นตระหนก เราเคยตื่นตระหนกมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเริ่มมีการแพร่ระบาด เราก็สามารถทำทุกอย่างให้มันสงบลงในระดับที่หน้าพอใจ วันนี้เมื่อเกิดมาอีกตราบใดที่โลกยังแก้ปัญหาตรงนี้ไม่ได้ วัคซีนยังไม่มี มันก็อาจจะมีโอกาสเกิดขึ้นอีก แต่เมื่อเกิดแล้วความพร้อมของเราพร้อมหรือไม่ แพทย์ พยาบาล ระบบคัดกรอง ครบหรือไม่ เรามีครบพร้อมรองรับได้ ต่อมาต้องดูว่าเมื่อวัคซีนมาแล้วจะทำอย่างไร แต่ตอนนี้เราต้องอยู่กับโควิดไประยะหนึ่งก่อน ประคองตัวไปให้ได้รัฐบาลจะดูแลตรงนี้ เราต้องดูแลเรื่องเศรษฐกิจด้วย จากปัญหาตรงนี้หลายคนรอว่าจะล็อกดาวน์ทั้งประเทศหรือเปล่า เราต้องดูความรุนแรงของพื้นที่ กิจกรรมที่เกิดขึ้น คนไทยวันนี้ลุงตู่ห่วงใยนะจ๊ะ ห่วงใยทุกคน รักทุกคน เป็นห่วงทุกคนในทุกๆเรื่อง เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการเพื่อพี่น้องคนไทย 70 ล้านคนโดยประมาณ ดังนั้นขอให้รอดูอาจมีพื้นที่ที่ต้องใช้มาตรการสูงสุด เช่นที่ จ.สมุทรสาคร แต่ไม่ได้หมายความว่าถูกรังเกียจทั้งจังหวัด มันก็ไม่ดี ที่ปลอดภัยมันก็มี อย่าไปบอกว่าสีแดงเปื้อนทั้งจังหวัด มันเป็นแค่บางอำเภอ บางตำบล มีความเสี่ยงมากเสี่ยงน้อย เสี่ยงสูง ต้องว่ากันมา ตรงนั้นระดับพื้นที่เขาจะทำ ขอบคุณสวัสดี ขอให้มีความสุข เรื่องกิจกรรมปีใหม่ เขามีมาตรการอยู่จัดได้หรือไม่ได้ งานสาธารณะจัดได้หรือไม่ งานกลุ่มเล็กจัดได้หรือไม่ ต้องไปดู ซึ่งต้องรู้ที่มาของคนมาร่วมงานก็จัดได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว