“ประยุทธ์” ยันปิดบิ๊กเมาน์เท่น ไม่เกี่ยวการเมือง ทำเพื่อความปลอดภัย ชี้ สสจ.-ผู้ว่าฯ โคราชมีอำนาจ ไม่ห้ามเคานต์ดาวน์ปีใหม่ แต่ขอทำตามกติกา สธ. เตือนหากฝืนกฎหมาย-ไม่ช่วยกัน อาจต้องกลับไปชัตดาวน์
วันนี้ (14 ธ.ค.) เวลา 14.00 น. ที่สโมสรทหารบก.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาสั่งปิดเทศกาลดนตรีบิ๊กเมาน์เท่นว่า เป็นเรื่องของสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดมีสิทธิและมีอำนาจพิจารณา โดยรัฐบาลมีหน้าที่ปลดล็อกต่างๆ เพื่อให้มีการจัดคอนเสิร์ตหรือกิจกรรมต่างๆ แต่ถ้าไม่ดำเนินการตามกติกาก็ต้องปิด เพราะสิ่งสำคัญคือการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หากมีคนเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดใครจะรับผิดชอบ ก็เป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องรับผิดชอบอีก ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของแต่ละพื้นที่ที่ต้องปฏิบัติเช่นเดียวกัน เพราะช่วงระยะเวลาต่อจากนี้จะมีการจัดงานคอนเสิร์ต การแสดงกิจกรรมมากมาย ก็ขอให้ปฏิบัติตามกติกาและทำให้ได้ตามนั้น ตนไม่ได้ขัดข้องกับใครและไม่ใช่การเมือง ตนไม่ต้องสั่ง ทุกคนทำหน้าที่ของตนเองอยู่แล้ว และขอชมเชย สสจ.นครราชสีมา
“ผมทราบว่ามีการแสดงคอนเสิร์ตแล้วสั่งให้ยุติไป ก็เพื่อความปลอดภัยของพวกเรา” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า การจัดงานเคานต์ดาวน์ในช่วงเทศกาลปีใหม่จะสามารถทำได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องทำตามกติกา โดยเมื่อช่วงเช้าตนได้ประชุม ศบค.วงเล็กว่าการจัดงานในช่วงต่อจากนี้จะต้องทำอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุด คือการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด เพราะหากมีการแพร่ระบาดในกรุงเทพฯ มันจะหนัก ต้องไปดูว่าแต่ละงานจะมีมาตรการอย่างไร ถ้าเราทำแบบเดิมๆ แล้วเกิดการแพร่ระบาดขึ้นมา รัฐบาลก็รับอีก แต่เรามีมาตรการการควบคุมและมีเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานเขาพร้อมอยู่แล้ว เพียงแต่ทุกท่านต้องให้ความร่วมมือ ตนไม่ได้ขัดข้องอะไร
เมื่อย้ำว่า มีการนำเรื่องนี้ไปเชื่อมโยงกับเรื่องการเมือง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็พูดไปเมื่อกี๊ว่ามันมีการเมืองอะไรล่ะ จะไปเกี่ยวอะไร แล้วผมก็ไม่รู้ว่าจะมีกิจกรรมอะไรในคอนเสิร์ต เขาก็ไปดูคอนเสิร์ตกันไม่ใช่หรือ ใครที่ทำก็ไปถามคนทำสิ ผมไม่ได้ไปตามเขาด้วยซ้ำไป”
ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง จะมีการแก้ไขอย่างไรเพื่อไม่ให้เป็นการพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องใช้มาตรการที่รัดกุม ทำตามกฎหมาย และอย่าทำผิดกฎหมายเท่านั้นเอง เพราะกฎหมายอยู่เฉยๆ แต่หากคนไปละเมิดกฎหมายก็ต้องถูกลงโทษ
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง เพื่อห้ามชุมนุมเกิน 5 คนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยกเลิกไปตั้งนานแล้ว แต่หากถึงจุดนั้นก็ต้องกลับมาแบบเดิม ต้องย้อนกลับมาใหม่ แต่วันนี้ยังไม่มีสถานการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ตนก็กังวลว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“อย่างเช่นการไปจัดคอนเสิร์ตที่โคราช หากมีการแพร่ระบาดโควิดออกมาข้างนอกจะทำอย่างไร หรือหากในกรุงเทพฯ จัดงานคอนเสิร์ตแล้วมีแพร่ระบาดกันในกรุงเทพฯ จะทำอย่างไร ทุกอย่างก็ต้องกลับไปชัตดาวน์ใหม่ทั้งหมด ฉะนั้น ทุกคนต้องช่วยกัน นายกฯ ไม่ได้เข้าไปทุกงานเพราะรัฐบาลบริหารในภาพรวม การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต้องใช้ในสิ่งที่จำเป็น” นายกฯ กล่าว