“สุภรณ์” ชี้ การใช้ ม.112 ดำเนินคดีกับแกนนำเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ขอม็อบราษฎร อย่าเรียกร้องขอให้ทบทวนเพราะทำผิด กม.แล้วต้องกล้ายอมรับความจริง คนเลวๆ ที่คิดชั่วต่อบ้านเมือง ต้องติดคุก หรือไล่ออกนอกประเทศให้หมด
วันนี้ (10 ธ.ค.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคณะราษฎร ออกแถลงการณ์ เรียกร้องยกเลิกกฎหมายมาตรา112 จี้ยุติใช้เป็นเครื่องมือดำเนินคดีผู้ชุมนุม ซึ่ง นายสุภรณ์ กล่าวว่า ที่มีการดำเนินคดีมาตรา 112 กับผู้ชุมนุมถือว่าเป็นการทำตามกฎหมายที่มีอยู่มีความเหมาะสมที่สุดแล้ว และที่ก่อนหน้านี้ นายกฯระบุว่าจะไม่ใช้มาตรา 112 เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระเมตตา มีพระมหากรุณาธิคุณ ไม่อยากให้มีการดำเนินคดี แต่มาถึงตอนนี้จะเห็นได้ว่า ผู้ชุมนุมทำการจาบจ้วงก้าวล่วงสถาบันอย่างหนัก คนเลวๆ พวกนี้ไม่เคยมีจิตสำนึกที่ทรงพระเมตตาประทานให้ตลอดเวลาที่ผ่านมา ดังนั้น รัฐบาลและเจ้าหน้าที่จึงจะต้องดำเนินการตามกฎหมายที่มีอยู่ทั้งหมด ทั้งนี้ มองว่า หากผู้ชุมนุมกระทำผิดกฎหมายอย่างหนักเช่นนี้ต่อไป คนในประเทศก็ยอมรับไม่ได้เช่นกัน
“ทั้งนี้ ที่ผ่านมา นายกฯไม่เคยห้ามการชุมนุม และตักเตือนด้วยความห่วงใยในฐานะลูกหลานว่าอย่าทำผิดกฎหมายบ้านเมือง แต่ผู้ชุมนุมได้ทำผิดซ้ำซาก อีกทั้งจาบจ้วงสถาบันอย่างมาก และนับวันยิ่งกระทำมากขึ้น ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ก็ต้องบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ทั้งหมด ดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม ซึ่งตนมั่นใจว่า คนส่วนใหญ่ในประเทศ ที่รักประเทศ รักสถาบัน ต้องการให้บังคับใช้มาตรา 112 กับผู้ชุมนุม เพราะทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของแกนนำผู้ชุมนุมที่กำลังต้องการให้เกิดความรุนแรง วุ่นวายในบ้านเมือง หวังเพียงสร้างสถานการณ์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหมดความอดทน ใช้กำลังสลายการชุมนุมตามที่แกนนำต้องการ เพื่อเรียกร้องความเห็นใจและใส่ร้ายรัฐบาลใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ใครก็อ่านแผนการเกมตื้นๆ ของแกนนำเหล่านี้ออก รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่ตกหลุมพราง ซึ่งต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ใช้ความนิ่มนวลอดทนถึงที่สุดและหันมาบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่รวมถึงใช้มาตรา 112 กับพวกคนเลวๆ เช่นนี้ ถือว่าทำถูกต้องและได้รับเสียงเรียกร้องปรบมือให้กำลังใจจากประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศ ว่า รัฐบาลและเจ้าหน้าที่เดินมาถูกทางแล้ว
นอกจากนี้ ผู้ชุมนุมก็ควรมีจิตสำนึกด้วยว่า กฎหมายคือกฎหมาย หากไม่อยากให้ถูกดำเนินคดี ก็ควรหยุดจาบจ้วงสถาบันและยุติการชุมนุมไป อย่าพูดหรือคิดเอาแต่ใจตัวเอง ต้องฟังเสียงจากคนอื่นบ้าง กล้าทำแล้วก็ต้องกล้ารับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง และยอมรับผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย
และที่ผ่านมา รัฐบาล เจ้าหน้าที่บ้านเมือง รวมถึงประชาชนในประเทศ ก็พยายามใช้ความอดทนที่จะไม่ดำเนินคดีกับแกนนำผู้ชุมนุม แต่มาถึงตอนนี้ ก็คงไม่มีใครที่จะทนกับพฤติกรรมของกลุ่มผู้ชุมนุมได้อีกต่อไป คนเลวๆ คิดล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ถือว่าเป็นพวกคิดกบฏต่อประเทศ กล้าหาญชาญชัยคิดจะเปลี่ยนการปกครองประเทศให้เป็นสาธารณรัฐ สมควรต้องจับแกนนำเหล่านี้เข้าคุกให้หมด หรือไม่ก็ต้องช่วยกันขับไล่ออกนอกประเทศโดยเร็ว” นายสุภรณ์ กล่าว