โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจรัฐบาลยังคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้ สั่งเข้มเพิ่มสิ่งกีดขวาง-โดรนตรวจจับตรึงแนวชายแดน ลั่นคนทำผิดกฎหมายต้องถูกดำเนินคดี วอนคนไทยกลับเข้าช่องทางปกติรัฐพร้อมดูแลเต็มที่
วันนี้ (9 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญต่อการดูแลควบคุมโควิด-19 และขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจในการดูแลสถานการณ์โควิดหลังพบช่วงที่ผ่านมามีการลักลอบข้ามชายแดนเข้ามา ทั้งเข้ามาแบบปกติและลักลอบเข้ามาแบบผิดกฎหมาย โดยใช้ช่องทางธรรมชาติและไม่เข้าระบบคัดกรองกักตัว 14 วัน ยืนยันว่าขณะนี้ยังสามารถติดตามและควบคุมได้ และผู้ที่ลักลอบต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ทั้งนี้ อยากให้คนไทยที่อยากกลับเข้ามาเข้ามาอย่างถูกต้อง รัฐบาลยินดีที่จะดูแลและมีสถานที่กักตัวในการดูแลคนไทยอยู่แล้ว ดังนั้น คนที่กังวลขอให้เข้าใจว่าถ้าเข้ามาช่องทางปกติรัฐบาลจะดูแลอย่างดี ขอให้มั่นใจ และขอให้คนไทยทั่วไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ ไม่ตื่นตระหนกจนเกินเหตุ แต่สิ่งที่ยังต้องดำเนินการ คือ ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลหรือสบู่ และรักษาระยะห่าง
เมื่อถามว่า ในการร่วมประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ครั้งที่ 9 (ACMECS Summit) ในวันเดียวกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้หารือกับผู้นำประเทศเพื่อนบ้านถึงการเดินทางเข้าออกชายแดนแบบผิดกฎหมายหรือไม่ โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า ในเวทีดังกล่าวไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องนี้ แต่ในส่วนของไทยเองได้เพิ่มมาตรการเข้มงวดมากขึ้น ทั้งการเพิ่มสิ่งกีดขวางตามแนวชายแดนที่อาจมีผู้ลักลอบเข้าทางช่องทางธรรมชาติ และการใช้โดรนตรวจจับสิ่งผิดปกติ และตรวจจับคนที่ลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดน