xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ เตรียมร่วมประชุมผู้นำ ACMECS ผลักดันฟื้นฟู ศก. ส่งเสริมพัฒนาอนุภูมิภาค

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
โฆษกรัฐบาล เผย “ประยุทธ์” เตรียมเข้าร่วมประชุมผู้นำ ACMECS ผ่านระบบการประชุมทางไกล พร้อมผลักดันความร่วมมือร่วมกันเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโรคโควิด-19 และส่งเสริมการพัฒนาในอนุภูมิภาค

วันนี้ (8 ธ.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (Ayeyawady - Chao Phraya - Mekong Economic Cooperation Strategy : ACMECS) ครั้งที่ 9 ผ่านระบบการประชุมทางไกล ร่วมกับผู้นำประเทศสมาชิกอีก 4 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และเลขาธิการอาเซียน ในวันที่ 9 ธันวาคม 2563 ระหว่างเวลา 08.30-10.00 น. โดยมีกัมพูชาเป็นเจ้าภาพการประชุมภายใต้หัวข้อ “หุ้นส่วนเพื่อความเชื่อมโยงและความยืดหยุ่น” (Partnership for Connectivity and Resilience)

การประชุม ACMECS เป็นข้อริเริ่มของไทย จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2546 ประกอบด้วยประเทศสมาชิก 5 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีหารือเฉพาะของประเทศลุ่มน้ำโขงที่เป็นสมาชิกอาเซียน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนุภูมิภาค ทั้งนี้ ACMECS ขับเคลื่อนโดยแผนแม่บทระยะ 5 ปี พ.ศ. 2562-2566 (ค.ศ. 2019-2023) ซึ่งได้รับการรับรองในการประชุมผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 8 เมื่อปี 2561 ที่ไทยเป็นประธาน เป็นแผนแม่บทที่เน้นการส่งเสริมความร่วมมือใน 3 สาขาหลัก ได้แก่ 1) การเสริมสร้างความเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อ (Seamless Connectivity) 2) การสอดประสานด้านเศรษฐกิจ (Synchronized ACMECS Economies) และ 3) การพัฒนาภูมิภาคในลักษณะยั่งยืนและมีนวัตกรรม (Smart and Sustainable ACMECS) นอกจากนี้ ไทยยังเป็นผู้เสนอให้ริเริ่มผลักดันประเด็นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้ ACMECS มีพลวัตและสามารถรับมือกับความท้าทายของโลก คือ การจัดตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนา ACMECS และการมีปฏิสัมพันธ์กับหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กรอบการประชุม ACMECS จะสร้างผลประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนและ MSMEs ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจมหภาคในอนุภูมิภาค ลดอุปสรรคและเพิ่มพูนการค้า การขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างกัน นอกจากนี้ การประชุม ACMECS ยังช่วยยกระดับสถานะของไทยในเวทีระหว่างประเทศเรื่องการรับมือกับโควิด-19 สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นานาประเทศถึงขีดความสามารถในการรับมือกับวิกฤตสาธารณสุขในปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งส่งเสริมศักยภาพในการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้ประชาชนและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมีความเข้มแข็งร่วมกัน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะกล่าวถ้อยแถลงเพื่อสนับสนุนผู้นำทุกคนที่มีความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อน ACMECS ให้ก้าวหน้า มีพลวัต และพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์และความท้าทายรูปแบบใหม่ ตลอดจนจะนำเสนอข้อเสนอของไทยในหลักการ “อนุภูมิภาค ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้” (Safe, Secure and Trustworthy ACMECS) ให้เป็นอีกหนึ่งสาขาความร่วมมือภายใต้แผนแม่บท ACMECS ทั้งนี้ คาดว่าในการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมฯ จะรับรอง “ร่างปฏิญญาพนมเปญ” ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น