xs
xsm
sm
md
lg

ก่อนเลือก อบจ.ทำ พท.ร้าว แต่หลังเลือกตั้งยิ่งเละ !?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทักษิณ ชินวัตร - เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ - จตุพร พรหมพันธุ์
เมืองไทย 360 องศา



ตอนแรกนึกว่าหลังจาก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นำทีมสมัครพรรคพวก “ลาขาด” จากพรรคเพื่อไทยไปแล้ว น่าจะทำให้ความขัดแย้งภายในพรรคนี้ยุติ หรือสงบลง เพราะถือว่า “ต่างคนต่างไป” ทางใครทางมัน แต่กลายเป็นว่าปัญหาตรงนี้ยังอึมครึมไม่จบ ก็ดันไปปูดตรงที่ใหม่ และอย่างหลังนี่แหละที่ทำท่าว่าอาจจะทำให้ความขัดแย้งขยายบานปลายออกไปแบบกู่ไม่กลับ หรือที่เรียกว่า “แตกเละ” จนอาจกลายเป็นศึกสงครามภายในกันเองก็เป็นได้

พูดกันแบบเข้าเรื่องไม่อ้อมค้อม ก็คือ น่าจับตาจากกรณีความขัดแย้งในระดับ “ขาใหญ่” ในพื้นที่ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ ที่กำลังแข่งขันชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และทีมบริหารในระดับการเมืองท้องถิ่นแห่งนี้ว่าจะ “เอาอยู่” หรือไม่

เพราะหากกล่าวถึงเรื่องดังกล่าวก็ต้องโฟกัสไปที่ภาพความขัดแย้งในปัจจุบันที่บานปลายจากการแข่งขันชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่าง นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ กับ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร โดยรายหลังได้รับการสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย ให้ลงสมัครในนามพรรค ขณะที่ฝ่ายแรกเป็นอดีตนายก อบจ. และเคยอยู่ใน “ทีมเพื่อไทย” มานาน แต่มาคราวนี้กลับไม่ได้รับการสนับสนุน จึงต้องลงสมัครในนามอิสระในชื่อกลุ่ม “เชียงใหม่คุณธรรม”

แม้ว่าจะเป็นการเมืองระดับท้องถิ่น แต่ด้วยชื่อชั้น บารมี และ “คอนเนกชัน” ทั้งคู่ถือว่าไม่ธรรมดา โดย นายพิชัย เคยเป็นอดีตส.ว.เชียงใหม่ มีชื่อเดิมก่อนหน้านี้ว่า “ชูชัย” รวมไปถึงชื่อเล่นว่า “ก๊อง” แต่คราวนี้ได้เปลี่ยนทั้งชื่อจริงและชื่อเล่น เพื่อเอาเคล็ด ถือว่ามีความใกล้ชิดกับครอบครัวชินวัตร โดยคราวนี้ได้รับการสนับสนุน จาก “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของนายทักษิณ ชินวัตร และล่าสุด นายทักษิณ ถึงขั้นเขียนจดหมายด้วยลายมือโพสต์ถึงชาวเชียงใหม่บ้านเกิดเป็นภาษาถิ่นให้ช่วยกันสนับสนุนเลือกนายพิชัย พร้อมทีมผู้สมัคร

ท่าทีและความเคลื่อนไหวแบบนี้ของนายทักษิณ ชินวัตร นับว่าเป็นครั้งแรกที่ถือว่า “ออกตัวแรง” และลงมาเล่นเองในระดับ “ท้องถิ่น” แบบนี้ ขณะเดียวกัน หากให้ “อ่านเกม” ก็ต้องมองได้ว่า “กลัวแพ้” หรือสถานการณ์สูสี หรือเป็นรองคู่แข่งฝ่ายตรงข้าม เพราะถ้าเกิดพลาดท่าพ่ายแพ้ ถือว่า “เสียหาย” กันทั้ง “ครอบครัวชินวัตร” เลยทีเดียว เพราะอย่างที่บอกว่างานนี้ “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ลงมาเต็มตัว และยังลากเอาพี่ชาย คือ นายทักษิณ ชินวัตร แถมยังพ่วงเอา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว ออกแรงช่วยกันเต็มที่

หาก นายพิชัย ยังแพ้ให้กับ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ก็ต้องบอกว่า “ดูไม่จืด” ส่งผลสะเทือนไปไกลแน่นอน เพราะนี่คือความหมายในเรื่อง “บารมี” ของ “นายใหญ่” ว่า จะยังมั่นคงแค่ไหน สำหรับบ้านเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ และในทางการเมืองยังเปรียบเสมือน “เมืองหลวง” ของพรรคเพื่อไทยนั่นแหละ

ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งอย่างที่รู้กันว่า สำหรับ นายบุญเลิศ และตระกูล “บูรณุปกรณ์” ในพื้นที่เชียงใหม่ รวมไปถึงจังหวัดใกล้เคียง ก็ถือว่า “ไม่เบา” และที่ผ่านมา หากพิจารณากันในความเป็นจริงสำหรับในทางการเมือง และ “ฐานเสียง” แล้วกับครอบครัว “ชินวัตร” ยังไม่รู้ว่าใครพึ่งใครกันแน่ แต่ที่ผ่านมาถือว่า “พึ่งพาอาศัยกัน” แบบวิน-วินทั้งสองฝ่าย

จนกระทั่งหลังเหตุการณ์รัฐประหาร คสช. ต่อเนื่องมาถึงการก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ เกิดความเปลี่ยนแปลงและหมางใจกันลึกๆ ระหว่างกัน โดยตามรายงานข่าวบอกว่า ฝ่ายครอบครัวชินวัตร ระแวงว่า ครอบครัวบูรณุปกรณ์ กำลัง “ย้ายข้าง” ไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐนานแล้ว เพียงแต่ยังไม่ออกมาเปิดตัวเท่านั้นเอง

และ “จุดเดือด” สำคัญก็คือ หลังเหตุการณ์ที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยหาเสียงให้กับ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นั่นแหละที่ทำให้ “บานปลาย” ขึ้นมาทันที เพราะมีการพาดพิงไปถึงคนในพรรคเพื่อไทยในทำนองว่า “ทอดทิ้ง” ครอบครัว “บูรณุปกรณ์” ทั้งที่ยังมั่นคง และยังคอยช่วยเหลือมาตลอด คำพูดของนายจตุพร ยังกล่าวพาดพิงไปถึง “เจ๊” อีกด้วย ซึ่งแม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อโดยตรง แต่ก็น่าจะหมายถึง “เจ๊แดง” ที่สนับสนุน นายพิชัย อย่างเต็มที่

หากพิจารณาจากไทม์ไลน์แล้ว การโพสต์จดหมายเขียนด้วยลายมือของนายทักษิณ ชินวัตร อ้อนชาวเชียงใหม่ให้ช่วยสนับสนุนนายพิชัย ก็เกิดขึ้นหลังจากนายจตุพร ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายบุญเลิศ นั่นเอง จึงช่วยไม่ได้ที่จะถูกแซวว่า “ทักษิณกลัวแพ้จตุพร” จึงต้องลงทุนออกตัวแรงแบบนี้ ซึ่งอีกด้านหนึ่งก็เหมือนการ “เดิมพัน” เสี่ยงเสียเครดิตเหมือนกันหากเกิดแพ้ขึ้นมา

อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าจับตาก็คือ พรรคเพื่อไทยนับจากนี้ จะมีสภาพอย่างไร เพราะก่อนการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ก็เกิดความขัดแย้งกันหนักแล้ว จากกรณีการยกทีมลาขาดจากพรรคของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แต่หลังจาก นายจตุพร พรหมพันธุ์ ท้ารบกับทั้งพรรคเพื่อไทย และ “แฉโพย” ไม่หยุด ล่าสุด ยังได้จี้จุดกรณีเสียชีวิตของพยานปากเอกในคดี “บอส กระทิงแดง” ทิ้งปริศนาพาดพิงไปถึงนายพิชัย เต็มๆ อีกทั้งยังเปิดศึกข้ามรุ่น รบกับ “เจ๊” และพุ่งเป้าไปที่นายทักษิณ ชินวัตร โดยตรง เพราะงานนี้ถือหางกันคนละฝั่ง “หน้ามืด” ต้องรบกันแตกหัก ทำให้ประเมินกันว่าหลังจากนี้พรรคเพื่อไทย จะเละกว่าเดิมหรือเปล่า !!


กำลังโหลดความคิดเห็น