xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : เปิดลับ "ทักษิณ-บุญเลิศ" ใครทิ้งใครแน่!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ”ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 8 ธันวาคม 2563 ตอน เปิดลับ "ทักษิณ-บุญเลิศ" ใครทิ้งใครแน่!



ยุทธการชิงเก้าอี้ “นายกเล็ก” จ.เชียงใหม่ หรือนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เปิดศึกช่วงชิงกันอย่างดุเดือดร้อนแรง บรรยากาศการหาเสียงไม่แพ้การเมืองระดับชาติไปแล้ว

หลังจาก นาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง ออกโรงมาช่วย “ส.ว.ก๊อง” นาย พิชัย เลิศพงษ์อดิศร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย

ทักษิณออกมาจากที่กบดาน แอ๊คชั่นส่งเสียงอ้อนขอคะแนนไปถึงชาวเชียงใหม่ ด้วยการโพสต์ข้อความยาวเหยียดผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว เพราะกลัวเด็กสร้างส. ว. ก๊อง จะแพ้ “พ่อเลี้ยงโต๊ะ” นาย บุญเลิศ บูรณุปกรณ์ อดีตนายกอบจ. เชียงใหม่

บุญเลิศ เป็นอดีตคนกันเองกับตระกูลชินวัตร ที่เป็นเครือข่ายการเมืองให้กับทักษิณ มานานนับตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ซึ่งตระกูลบูรณุปกรณ์ เล่นการเมืองท้องถิ่นในนามกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม มาก่อนที่ทักษิณจะตั้งพรรคไทยรักไทย

แต่วันนี้ บุญเลิศที่เหมือนตะเกียงไม่ขาดน้ำมัน เดินออกจากร่มเงาของทักษิณ ตัดสินใจลงสมัครนายก อบจ. ในนามกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม ของตนเอง อีกครั้ง

พ่อเลี้ยงโต๊ะ นักธุรกิจระดับหมื่นล้านแห่งเมืองเชียงใหม่ ลงสมัครพร้อมทีมสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ ส. อบจ. ในนามกลุ่มการเมืองท้องถิ่น เพราะไม่อยากเลือกข้าง แต่ก็เหมือนจะรู้การณ์ล่วงหน้าถ้าลงสมัครอิสระ
ไม่อยู่เพื่อไทย ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะสู้กับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งเป็นงานหนักแน่

ด้วยที่รู้ดีว่า เมื่อไม่เอาเพื่อไทย ก็เท่ากับแข็งข้อกับ ทักษิณ และคนในตระกูลชินวัตร ซึ่งถ้าไปผูกความแค้นแล้วจะต้องถูกตอบโต้ด้วยความอาฆาตรุนแรง และจะต้องเจอกลยุทธ์ทุกรูปแบบเข้าขยี้

ดังนั้น ถ้าไม่อยากตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ จึงต้องเปิดฉากบุกใส่เพื่อไทยก่อน การหาเสียงของพ่อเลี้ยงโต๊ะ จึงเลือกใช้บริการ “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งจากเมื่อ8 ปีก่อน จตุพรก็มาปราศรัยหาเสียงให้

คราวนี้ ลงทุน ให้จตุพรพร้อมคณะตัวแสบนปช. อย่าง เจ๋ง ดอกจิก และอีกหลายคน ขึ้นไปช่วยหาเสียง ถึงถิ่นล้านนา เหมือนเอาเกลือจิ้มเกลือ ซึ่งได้ผลลัพธ์เกินขาด ด้วยการเปิดประเด็น ลากไส้ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ประจานต่อชาวเชียงใหม่

กลายเป็นว่า อีกด้านหนึ่งเป็นล่อเสือออกจากถ้ำ ที่ได้ผล จนทักษิณหลงกล รีบออกมาอ้อนชาวเชียงใหม่

มิหนำซ้ำ ทักษิณ ยังส่ง นปช. เสื้อแดงเชียงใหม่ ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าว ขับไล่ตู่ จตุพร ออกไปจากสนามเลือกตั้งเชียงใหม่ แผนนี้เป็นการแก้หมากต่อไป ที่ไม่รู้ตู่ จตุพรจะปล่อยหมัดเด็ดมาอย่างไร

การจะปิดปาก ตู่ จตุพร ก็คงทำไม่ได้แล้ว และจะให้ถอนตัวจากบุญเลิศก็คงทำไม่ได้เช่นกัน เพราะเวลานี้ ทักษิณไม่ใช่นายใหญ่ของเขาแล้ว สำหรับตู่ จตุพร มันเป็นจังหวะเวลาที่จะเอาคืนมากกว่า หลังจากที่กุมความไม่พอใจมานาน ตั้งแต่ทักษิณตั้งรัฐมนตรีข้ามหัวเขา ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์

ศึกชิง นายก อบจ.เชียงใหม่หนนี้ เป็นการตอกย้ำว่า ความสัมพันธ์ของสองตระกูลผู้ยิ่งใหญ่ในเชียงใหม่ อย่าง “ชินวัตร” กับ “บูรณุปกรณ์” ที่เคยเกื้อหนุนจุนเจือ น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่ากันมาตลอดหลายปี ได้ขาดสะบั้นลงโดยสิ้นเชิง

กลับไปดูรอยร้าวก่อนที่จะลงเอยด้วยการตัดขาดกันในวันนี้ของ “บุญเลิศ” กับตระกูลชินวัตร และพรรคเพื่อไทย เกิดขึ้นในช่วงที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บริหารประเทศ ที่หมายหัว กลุ่มนายทุนและฐานกำลังเพื่อไทยในเขตภาคเหนือ

ในเดือนกรกฎาคมปี 2559 คสช.ได้ใช้มาตรา 44 ควบคุมตัวบุญเลิศ และพวกรวม11 คน ในฐานความผิด เป็นผู้เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่จดหมายบิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ ที่จะมีการนำไปทำประชามติ ในวันที่7 สิงหาคม 2559 “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. จะใช้มาตรา 44 พักงานบุญเลิศ เป็นดาบแรก

ต่อมา คสช. ฟันดาบสอง บุญเลิศและทัศนีย์ กับพวกรวมทั้งหมด 11 คน ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำกลางเชียงใหม่และเจ้าหน้าที่ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ ในข้อหากระทำความผิดกรณีจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ (รธน.)

กล่าวหา เป็นความผิดอาญา ร้ายแรง เป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 116 ยุยง ปลุกปั่น ก่อให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง ยังพ่วงข้อหาความผิดตาม มาตรา 210 หรือความผิดซ่องโจร นั่นเอง และ ปิดท้ายด้วยความผิดตามพ.ร.บ.ประชามติ ก่อนที่ปลายเดือนสิงหาคม 2559 ตุลาการศาลทหารจะให้ประกันตัว

หลังได้รับการปล่อยตัวออกมา คนในตระกูลบูรณุปกรณ์ถูกมองว่า จะเปลี่ยนอุดมการณ์หรือจุดยืนเหมือนกับนักการเมืองอื่นๆ ที่ถูกจับไปหรือไม่ กระทั่งในเดือนมิถุนายน 2561 “บิ๊กตู่” ได้ใช้อำนาจมาตรา 44 คืนตำแหน่งให้กับ นายก อบจ. 4 ราย ซึ่งมีบุญเลิศรวมอยู่ด้วย

ทำให้คนในตระกูลชินวัตร และพรรคเพื่อไทย หวาดระแวงว่า บุญเลิศถูกทหารบีบให้เข้าไปเป็นฝ่ายตรงข้ามเรียบร้อย

ขณะที่มีรายงานว่า มีความพยายามเกลี่ยกล่อมบุญเลิศและคนในตระกูลบูรณปกรณ์ ให้มาอยู่กับพรรคการเมืองที่ทหารจะตั้งขึ้นมา ซึ่งคือ พรรคพลังประชารัฐในปัจจุบัน เพื่อหวังจะเจาะไข่แดง แย่ง ส.ส.เชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย

ปรากฏว่า บุญเลิศปฏิเสธ เพราะไม่สามารถทำได้ เนื่องจากกระแสคนเชียงใหม่ไม่เอาทหาร และยังรักตระกูลชินวัตร ซึ่งในทางคดีบุญเลิศถูกสอบให้ซัดทอดถึงคนและขบวนการ ร่วมรณรงค์ไม่รับรัฐธรรมนูญ โดยเป้าหมายต้องการให้บุญเลิศโยนความผิดให้พรรคเพื่อไทย

แต่ บุญเลิศ ไม่ได้ให้การซัดทอดใคร ถ้าหากคิดจะเอาตัวรอด ก็ทำได้ และพรรคเพื่อไทยจะต้องรับกรรมไป ถึงกระนั้นพรรคเพื่อไทยก็ยังไม่ไว้ใจบุญเลิศ ในทางลับจึงหันไปสนับสนุน “ส.ว.ก๊อง” ที่อยากจะลงเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ ในนามพรรคเพื่อไทยแทน ก็ได้โอกาสเหมาะที่จะเขี่ยบุญเลิศออกจากเพื่อไทย

แต่หารู้ไม่ว่า จุดแตกหักระหว่างบุญเลิศกับทักษิณ จริงๆแล้วบุญเลิศคิดมาก่อนหน้านั้นแล้ว โดยจุดตัดสินใจอยู่ที่หลักฐานภาพถ่ายใบหนึ่งที่แชร์กันว่อน ในระหว่างวันที่บุญเลิศนอนในคุก คือภาพที่ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ คนในตระกูลชินวัตร ที่สนิทกับตระกูลบูรณุปกรณ์มากที่สุดคนหนึ่ง

ไปยกมือสนับสนุน “ส.ว.ก๊อง” ในร้านอาหารแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ และประกาศ ให้ส. ว. ก๊อง พิชัย ลงชิงนายก อบจ.เชียงใหม่ ในนามพรรคเพื่อไทย ในสมัยต่อไป แทนบุญเลิศ โดยหาว่าบุญเลิศแปรพักตร์ ซึ่งส. ว. ก๊องก็สมใจในครั้งนี้

บุญเลิศเห็นภาพ ชอกช้ำใจมาก เพราะร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานาน แม้จะถูกทหารบีบอย่างไร ต้องติดคุกตะราง ก็ไม่คิดทรยศเพื่อน แต่อีกฝั่งกลับหันไปช่วยคนอื่น เพื่อมาล้มตัวเอง เจ็บนี้ต้องจำ บุญเลิศจึงตัดสินใจ ตั้งแต่วันนั้น จะไม่ขอร่วมเส้นทางการเมืองกับทักษิณ ชินวัตร อีกต่อไป

ทักษิณส่งสารมาอ้อนคนเชียงใหม่ว่าถูกบุญเลิศตีจาก ส่วนบุญเลิศก็ว่าเพื่อไทยทิ้งเขา ปมนี้ใครทิ้งใคร ใครจริงใครเท็จ คงจะรู้กันแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น