“นิพิฏฐ์” ชี้คำพิพากษาคดีสินบน 20 ล้าน ระบุชัดน้องชาย “ธนาธร” เป็นคนจ่ายเพื่อให้ได้สิทธิเช่าที่ดินทรัพย์สินฯ โดยไม่ต้องประมูล แต่ทำไมอัยการไม่แจ้งข้อหาให้สินบนเจ้าพนักงาน หรือจะซ้ำรอยคดีกระทิงแดง พร้อมระบุสำนักทรัพย์สินฯ ดำเนินการเรื่องนี้อย่างเอาจริงเอาจัง “กลุ่มราษฎร” ควรชื่นชมในความโปร่งใส
วันนี้ (7 ธ.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ แสดงความเห็นต่อคำพิพากษาคดีที่ นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ น้องชายนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จ่ายเงิน 20 ล้านบาท เพื่อแลกเปลี่ยนกับการได้สิทธิเช่าที่ดินทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ในย่านชิดลม โดยมีรายละเอียดดังนี้ “วิเคราะห์คำพิพากษาคดีน้องนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ระยะนี้ มีการวิจารณ์/ให้ความเห็น ต่อคำพิพากษากรณีการให้สินบนเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และมีน้องนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เข้าไปเกี่ยวข้องอยู่ด้วย
- ศาลอาญาทุจริตฯ มีคำพิพากษา คดีหมายเลขแดงที่ อท.228/2562 ลงวันที่ 27 พ.ย. 2562 จำคุกเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และผู้เกี่ยวข้อง มีผู้สงสัยว่า ทำไมน้องนายธนาธร จึงไม่ถูกฟ้องด้วย
- ผมอ่านคำพิพากษามา 2-3 รอบแล้ว มีความเห็นทางวิชาการ ดังนี้
1. ตามคำฟ้องและคำพิพากษาตอนต้น ศาลใช้คำว่า “สำนักงานทรัพย์สินฯ, นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ และประชาชนเป็นผู้เสียหาย” จึงฟังได้ว่า ในตอนแรก นายสกุลธร ถูกเจ้าหน้าที่หลอกลวง จึงเชื่อว่า เอกสารที่ออกมาจากสำนักงานทรัพย์สินฯ เป็นเอกสารที่แท้จริง ความจริงแล้วเอกสารที่ออกมาเป็นเอกสารปลอม นายสกุลธร จึงเป็นผู้ถูกหลอกลวงไปด้วย ตอนนี้นายสกุลธรจึงยังเป็นเพียงผู้เสียหายไม่ได้ทำผิดอะไร
2. แต่เมื่อนายสกุลธร ถูกหลอกด้วยเอกสารปลอม ต่อมานายสกุลธร ก็เกิดอยากเช่าที่ดินนั้นขึ้นมา แต่ “ต้องการเช่าโดยไม่ผ่านการประมูลตามขั้นตอนปกติ” จึงจ่ายเงินผ่านคนกลางไป 3 งวด เป็นเงิน 20 ล้านบาท ในตอนนี้ ศาลวินิจฉัยโดยใช้คำว่า “ทำให้สำนักงานทรัพย์สินฯ และประชาชนได้รับความเสียหาย” โดยตัดคำว่า นายสกุลธร เป็นผู้เสียหายออกไป ในตอนนี้ จึงฟังได้ว่า นายสกุลธร ให้เงินเจ้าหน้าที่เพื่อติดสินบนโดยไม่ต้องการประมูลตามวิธีปกติ อีกทั้งศาลลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 โดยวินิจฉัยว่า “จำเลยทั้งสองร่วมกันเป็นตัวกลางในการเรียกรับสินบน” ดังนั้น เงิน 20 ล้านก็อนุมานได้ว่า คือเงินสินบนเพื่อไม่ต้องเข้าประมูลด้วยวิธีการปกตินั่นเอง
“ผมจึงมีความเห็นทางกฎหมาย ว่า
1. อัยการต้องชี้แจงว่า เมื่อตอนท้ายของคำฟ้องและคำพิพากษาที่มีการจ่ายเงิน 20 ล้าน ไม่ได้ระบุว่า นายสกุลธร เป็นผู้เสียหายอีกต่อไป แต่ฟังได้ว่า เป็นผู้ให้เงินจำนวนนี้เพื่อติดสินบนเจ้าพนักงาน เหตุใด อัยการจึงไม่แจ้งข้อกล่าวหานายสกุลธรว่าร่วมกันให้สินบนเจ้าพนักงาน อันนี้จะซ้ำรอยคดีกระทิงแดงหรือเปล่า?
2. สำนักงานทรัพย์สินฯ ได้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างโปร่งใส เอาจริงเอาจัง เห็นควรให้ “กลุ่มราษฎร” ชื่นชมในความโปร่งใสบ้าง และถือว่า นี่คือการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างหนึ่ง และเป็นการปฏิรูปที่ไม่ต้องมีใครมาชุมนุมเรียกร้อง ถ้าเราไม่มีอคติ หรือมีเจตนาแอบแฝงในเรื่องอื่น ผมหวังจะได้คำชมจาก “กลุ่มราษฎร” และกลุ่มผู้ชุมนุมบ้าง เล็กน้อยก็ยังดีครับ"