ประมาทไม่ได้! “สุทิน” จับไต๋ “แทมมี-ส.ว.มะกัน” ถือหางกลุ่มปลดแอก การคืนชีพปีศาจร้าย หวังแทรกแซงไทย “ปวิน” ดี๊ด๊า ขอบคุณผู้สนับสนุน ให้สหรัฐฯขยับ “หมอวรงค์” ถึงบางอ้อ ปลุก “สาธารณรัฐ” คำตอบทำไม “จ้องล้มสถาบัน”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (5 ธ.ค. 63) นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า
“กวาดบ้านเสียก่อนปีศาจร้ายอเมริกาคืนชีพขึ้นมาเป็นทางการ
รัฐบาลและผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินคดีกับกลุ่มขบถทรยศชาติพยาบาทมาดร้าย มุ่งทำลายสภาบันหลักของชาติ อย่ามัวแต่เงื้อง่าราคาแพง
จะฟ้องร้องดำเนินคดีหรือใช้ยุทธวิธีปราบปราม ป้องปรามอย่างไรก็ให้ลงมือทำเสียแต่นาทีนี้ วันนี้ ก่อนที่ปีศาจร้ายมุ่งทำลายสถาบันในสหรัฐอเมริกาจะเข้ามาบริหารเป็นทางการ
อย่าลืมว่า กลุ่มปีศาจร้ายที่ชนะเลือกตั้งในอเมริกา คือ ตัวการใหญ่ที่เคยแทรกแซงประเทศไทยตามแผนการร้ายที่เรียกว่า “ปักหมุดเอเชีย”
การแทรกแซงกิจการภายในของไทยในยุคสมัยประธานาธิบดีทรัมป์ ในแง่ของการสนับสนุนคนร้ายที่มุ่งทำลายสถาบันหลักของชาติ ถือว่าลดน้อยถอยลงไปพอควร
แต่พอ นายโจ ไบเดน ชนะเลือกตั้ง สัญญาณอันตรายแสดงให้เห็นทันทีจากสิ่งที่ #แทมมี ดักเวิร์ธ # วุฒิสภา พรรครีพับลิกันสำรอกออกมาว่า #เรียกร้องให้รัฐบาลไทยฟังเสียงผู้ประท้วง#
คำพูดของ นางแทมมี คือ การส่งสัญญาณให้ฝ่ายขบถว่า รัฐบาลพรรคเดโมแครตได้กลับมาสนับสนุนฝ่ายทรยศชาติเต็มที่เหมือนกับที่เคยสนันสนุนในยุคนายโอบามา
การแสดงออกของ นางแทมมี จึงเหมือนกับพฤติกรรมของนางคริสตี เคนนี อดีตทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย ที่สนับสนุนฝักใฝ่ให้ท้ายเสื้อแดงออกหน้า
จึงแนะนำว่า ถ้าจริงใจดำเนินคดีก็รวบรัดเสียก่อนที่แผนการแทรกแซงจากอเมริกาจะทำเป็นทางการ”
ทั้งนี้ ถ้าสังเกต เฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun ของ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ รองศาสตราจารย์ประจำศูนย์วิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ลี้ภัยในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีพฤติกรรม “ล้มเจ้า” โพสต์เมื่อ 3 ธันวาคม เวลา 16:45 น. ระบุว่า
“แจ้งข่าวสำคัญ คณะวุฒิสมาชิกจำนวนหนึ่งได้เปิดการอภิปรายในวุฒิสภา เรื่องการชุมนุมของไทยที่ถูกสถาบันกษัตริย์และรัฐบาลปราบปรามอย่างรุนแรง โดยเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯตอกย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมประชาธิปไตยและการเคารพสิทธิมนุษยชน และบอกด้วยว่า ผู้ชุมนุมไม่ได้ต้องการทำการปฏิวัติ เพียงแต่เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนการปกครองให้เป็นประชาธิปไตยและมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นทางการเมือง เอาแล้วค่ะ สหรัฐฯเริ่มขยับแล้ว ขอขอบคุณ advocates (ผู้สนับสนุน) ทุกคนที่มีส่วนร่วมในการผลักดันท่าทีสหรัฐฯในครั้งนี้”
ด้าน เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom “หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี โพสต์หัวข้อ “#กบฏสาธารณรัฐ”
เนื้อหาระบุว่า “วันนี้ทุกอย่างก็เป็นตามคาด เพราะม็อบปลดแอกประกาศถึงความต้องการระบอบสาธารณรัฐ
ช่วงแรกๆ ก็รู้สึกแปลกใจว่า ทำไมเขาไม่แก้ปัญหาให้ตรงจุด ในเมื่อปัญหาประเทศเกิดจากนักการเมืองโกง ใช้อำนาจไม่ชอบ เมื่อได้อำนาจแล้วกดหัวประชาชน แต่ม็อบไม่พูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเลย
แต่ไปขุดคุ้ยเรื่องในอดีต สร้างความเกลียดชัง พร้องพุ่งเป้าตรวจสอบสถาบันพระมหากษัตริย์ โกหก บิดเบือน ใส่ร้าย ทั้งๆ ที่งบประมาณ อำนาจทุกอย่างอยู่ที่นักการเมือง
และแล้วก็เป็นไปตามคาด จ้องล้มล้างสถาบันเพื่อตอบสนองนักการเมืองทะเยอทะยาน สถาปนาประธานาธิบดีขึ้นมา ให้น้องชายทำมาหากินกับสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์
อีกไม่นาน คงได้ปราบกบฏสาธารณรัฐ”
สำหรับ ประเด็น “สาธารณรัฐ” ที่มาของการประโคมกระแสนี้ เกิดจากเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 63 เพจเฟซบุ๊ก “เยาวชนปลดแอก-Free YOUTH” ซึ่งเป็นเพจหลัก ของ ม็อบปลดแอก ก็ว่าได้โพสต์ข้อความทำนองปลุกระดมแนวคิดการปกครองแบบสาธารณรัฐ โดยระบุว่า
“รัฐที่มหาชนเป็นใหญ่” สาธารณรัฐ (Republic) เป็นรูปแบบการปกครองที่แพร่หลายทั่วโลก เน้นการกระจายอำนาจการปกครอง ผู้ปกครองต้องมาจากการเลือกตั้งอย่างเสรีและเป็นธรรม มิใช่ตกทอดทางสายเลือด ไม่มีเลือดสีน้ำเงิน ไม่มีเลือดสีอื่นใด มีเพียง “สีแดง”
“มนุษย์ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน ไม่มีมนุษย์คนไหนพึงมีสิทธิแต่กำเนิดในอันที่จะยกยอตระกูลของตนให้มีอภิสิทธิ์ถาวรเหนือคนทั้งปวงตลอดไป”
- Thomus Paine เพื่อประโยชน์สุข แก่มหาชนชาวสาธารณรัฐ ในสาธารณรัฐ เสียงของประชาชนจะดังก้องฟ้า แต่สาธารณรัฐจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจากประชาชนผู้ลุกขึ้นปลดเปลื้องพันธนาการทั้งปวง
#สาธารณรัฐ
ขณะที่ เพจกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย Democracy Restoration Group - DRG มี นายกรกช แสงเย็นพันธ์ หรือ ปอ และ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงม็อบเยาวชนปลดแอก และอยู่ในกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) ที่ก่อตั้งโดย รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กว่า เวลานี้รัฐไทย RE อะไรดี? โปรดติดตาม เร็วๆ นี้
#ไม่มีอะไรเหมือนเดิม
หลังจากนั้น นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นต่อกรณีเพจเฟซบุ๊ก “เยาวชนปลดแอก” โพสต์ข้อความปลุกระดมแนวคิดล้มล้างการปกครองเปลี่ยนเป็นแบบสาธารณรัฐว่า
“เลอะเทอะไปกันใหญ่แล้ว ม็อบเด็กอย่าล้อเล่นครับ เจอประมวลอาญามาตรา 113 หนักแน่ #ความผิดฐานเป็นกบฏต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต” (จากไทยโพสต์)
แน่นอน, ประเด็นอยู่ที่ม็อบคณะราษฎร 2563 หรือ ม็อบเยาวชนปลดแอก ในเวลานี้เริ่มเสียขบวนไปอย่างมาก และข่าวอื้อฉาวที่เกิดขึ้นในม็อบก็เริ่มปิดไม่มิด รวมทั้งการทะเลาะเบาะแว้งของคนกันเอง ของการ์ดที่มีอยู่หลายกลุ่ม ไม่นับว่าการชูธงที่ผิดมาแต่ต้น คือ “ปฏิรูปสถาบัน” ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ไม่เล่นด้วย สุดท้ายการชุมนุมจึงเคว้งคว้าง หาที่ยึดเหนี่ยวไม่ได้ นอกจากหาวิธีหลอกล่อ หล่อเลี้ยงกระแสไปวันๆ จนจาบจ้วงสถาบันทะลุเพดานไปแล้ว ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่ถึงกระนั้น ก็ประมาทไม่ได้ แม้ลำพังภายในประเทศไทย อาจไม่มีปัญหาอะไรให้หนักใจ ยังแก้ปัญหาที่หน้างานได้ หรือ เอาอยู่ เพราะนอกจากม็อบแล้ว ก็แค่ “อีแอบ” ทางการเมือง ที่ยังมุดชายกระโปรงเด็ก
แต่ลองถ้า “สหรัฐฯ” ขยับ อย่างที่ “ลุงสุทิน” ชี้ให้เห็นว่า อาจมีแผนร้าย ที่ก่อนหน้านี้ หลายคนก็เคยออกมาเตือน รวมทั้งแฉแผนเป็นขั้นเป็นตอนก็มี ซึ่งถ้าไม่มีความเคลื่อนไหว ก็ยังต้องฟังหูไว้หู
แต่เวลานี้ สิ่งที่ “ปวิน” หยิบยกเอามาโพสต์ว่า “คณะวุฒิสมาชิกจำนวนหนึ่งได้เปิดการอภิปรายในวุฒิสภา เรื่องการชุมนุมของไทยที่ถูกสถาบันกษัตริย์และรัฐบาลปราบปรามอย่างรุนแรง โดยเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯตอกย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมประชาธิปไตยและการเคารพสิทธิมนุษยชน และบอกด้วยว่า ผู้ชุมนุมไม่ได้ต้องการทำการปฏิวัติ เพียงแต่เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนการปกครองให้เป็นประชาธิปไตยและมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นทางการเมือง...”
กรณีดังกล่าว มีสองประเด็นให้วิเคราะห์ หนึ่ง มีการเคลื่อนไหวในคณะวุฒิสมาชิกสหรัฐฯจริง สอง “ปวิน” หลุดขอบคุณผู้สนับสนุนที่ช่วยทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น นั่นแสดงว่า มีการ “ล็อบบี้” และข้อมูลที่ว่า ปราบปรามอย่างรุนแรง ก็เป็นความเท็จ เป็นการบิดเบือนความจริง ที่คนไทยต่างรู้ดีว่าไม่จริง ความจริงรัฐบาลแค่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดเท่านั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้ “วิชามาร” ที่อาจมีการ “ล็อบบี้” ให้ข้อมูลเท็จ หรือ บิดเบือนความเป็นจริง เป็นเรื่องที่น่ากลัว และอันตรายต่อประเทศไทย รวมทั้งคนไทย จึงเป็นเรื่องที่ต้องหาทางแก้ไขให้ได้
อย่าลืมว่า การพูดถึงการเมืองไทย การประท้วงในประเทศไทย ไม่น่ากลัวสำหรับกระแสในต่างประเทศ ถ้าข้อมูลเป็นความจริง ไม่มีการบิดเบือน เพราะคนไทยที่ไม่เห็นด้วย และต่อต้านม็อบปลดแอก ก็เปิดเผยอยู่แล้วว่า คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยในประเด็น “ปฏิรูปสถาบัน” หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอม
แต่การเล่นเกมบิดเบือนข้อเท็จจริง ใช้ข้ออ้างเรียกร้องประชาธิปไตย อ้างปราบปรามอย่างรุนแรง ตั้งแต่คนไทยคิดร้ายกับประเทศชาติ จนถึงประเทศที่ต้องการแทรกแซงกิจการภายในไทย เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง หลายคนพูดเอาไว้แล้วว่า อันตราย และถึงขั้นประเทศชาติล่มสลายได้เลย เรื่องนี้น่าคิดหรือไม่ ฝากคนไทยช่วยกันคิดก็แล้วกัน