ศาลปกครองไม่รับคำฟ้อง อดีต พนง.สกสค.ขอเพิกถอนคำสั่งเลิกจ้างพนักงาน 961 คน ชี้คำสั่งเลิกจ้าง เป็นเรื่องสภาพการจ้างอยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลแรงงาน
วันนี้ (26 พ.ย.) ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา กรณีนางอาจินต์ ไตรสุวรรณ และพวกรวม 136 คนซึ่งเป็นอดีตพนักงานเจ้าหน้าที่องค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ยื่นฟ้อง สกสค., ผอ.สกสค., คณะกรรมการ สกสค. ขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งเลิกจ้างพนักงาน สกสค.จำนวน 961 คนที่มีผลเมื่อ 1 ส.ค. 63 ที่ผ่านมา
โดยศาลฯ ให้เหตุผลว่า คณะกรรมการ สกสค.ได้ออกข้อบังคับคณะกรรมการ สกสค.ว่าด้วยการบริหารงานองค์การค้าของ สกสค.2549 และข้อบังคับคณะกรรมการ สกสค.ว่าด้วยการบริหารงานองค์การค้าของ สกสค.ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2550 ใช้กับ สกสค.โดยเฉพาะ สกสค.จึงมีการจัดระบบบริหารจัดการรูปแบบพิเศษ มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาประโยชน์ให้กับ สกสค. นอกเหนือจากงบประมาณแผ่นดิน เงินเดือน หรือค่าจ้างของ นางอาจินต์และพวก ที่เป็นผู้ฟ้องคดีแต่ละราย ได้มาจากเงินรายได้ของ สกสค.ไม่ใช่จากงบประมาณแผ่นดิน นางอาจินต์และพวกจึงไม่ใช่พนักงานเจ้าหน้าที่ของ สกสค.โดยตรง การออกคำสั่งเลิกจ้างนางอาจินต์และพวกแต่ละรายนี้ได้โต้แย้งความชอบด้วยกฎหมายของคำสั่งเลิกจ้างดังกล่าว โดยอ้างว่า สกสค., ผอ.สกสค.กระทำการโดยไม่ชอบด้วย พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 2541 พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ 2518 คำสั่งเลิกจ้างจึงเป็นเรื่องสภาพการจ้างตามมาตรา 5 พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ 2518 เหตุแห่งการฟ้องคดีจึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาจ้างแรงงานที่อยู่ในอำนาจของศาลแรงงานตามมาตรา 8 วรรคหนึ่ง (1) พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน 2522 จึงไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง