ส.ส.ก้าวไกล แถลงจี้รัฐหยุดใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม ยันลงพื้นที่สังเกตการณ์ทำหน้าที่ ส.ส. แขวะไม่เคยขึ้นเวทีคว้าไมค์ปราศรัยยั่วยุเหมือน ส.ส.ซีกรัฐบาล
วันนี้ (25 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.40 น. ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล แถลงถึงสถานการณ์ชุมนุมของราษฎร ว่าเราต้องยอมรับข้อเท็จจริงก่อนว่าประชาชนมีสิทธิชุมนุมเรียกร้องที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ไม่มีการชุมนุมใดที่ผู้ชุมนุมจงใจมาก่อความรุนแรงตั้งแต่แรก เว้นแต่รัฐได้สร้างเงื่อนไขยั่วยุ และเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเงื่อนไขการชุมนุมอย่างไม่เป็นธรรม สองมาตรฐาน การทำนิติสงครามกับผู้ชุมนุมโดยบังคับใช้กฎหมายอย่างเลือกปฏิบัติ ยัดข้อหาร้ายแรงต่างๆ และกลั่นแกล้งด้วยการจับกุมซ้ำไปซ้ำมาไม่เว้นแต่ยามวิกาล หลายครั้งที่เราเข้าไปสังเกตการณ์ชุมนุม เราพบว่าหลายครั้งรัฐบาลใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมก่อนทั้งที่ผู้ชุมนุมไม่มีท่าทีใช้ความรุนแรง มีการอ้างถึงการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ของผู้ชุมนุมบางคนซึ่งไม่ได้เข้าข่ายการก่อจลาจล และใช้เหตุการณ์หนึ่งมาเหมารวมประชาชนเพื่อใช้ความรุนแรง ที่สำคัญเราพบตามหน้าข่าวโซเชียลมีเดียโดยพบบันทึกข้อความต่างๆ จำนวนมาก มีการเกณฑ์ประชาชน ใช้ยุทธิวิธีข่าวไอโอ ล็อกสเปกแฮชแท็กปลุกปั่นสร้างความเกลียดชังเพื่อให้เกิดลักษณะม็อบชนม็อบ ที่ผ่านมารัฐบาลมักจะสร้างวาทกรรมโยนบาปให้ผู้ชุมนุมคือเหยื่อ โดยที่รัฐไม่เคยยอมรับผิดทั้งที่ตัวเองสร้างความรุนแรงขึ้นเอง รัฐไม่เคยสำเหนียกว่าตัวเองเป็นต้นตอของปัญหา พรรคก้าวไกลจึงเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการการชุมนุมให้เป็นไปตามหลักสากลอย่างแท้จริง และเรียกร้องให้รัฐบาลนี้ที่กำลังจะมอดม้วยมรณายุติการใช้นิติสงคราม การใช้กฎหมายกับประชาชนอย่างเลือกปฏิบัติ ยุติการยั่วยุด้วยขบวนการไอโอ รวมทั้งยุติกระบวนการเกณฑ์คนเพื่อหมายให้เกิดการปะทะกับประชาชนแบบม็อบชนม็อบเพื่อให้ได้ใช้กฎหมายพิเศษคืออัยการศึก เพื่อเข้ามาจัดการประชาชนโดยไม่คำนึงถึงหลักนิติรัฐ และหากมีการทำรัฐประหารเกิดขึ้นหรือใช้กฎหมายแบบไม่สมเหตุผล มีแต่จะพาประเทศไปสู่กาลวิบัติ สังคมขัดแย้งร้าวลึก เกิดการล่มสลายทางเศรษฐกิจ เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชนทุกหย่อมหญ้า และประเทศไทยจะถูกขีดฆ่าทิ้งจากอารยประเทศ เราจะไม่ยอมให้เกิดการรัฐประหาร และเกิดการใช้กฎหมายแบบไร้เหตุผลอีกแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะหัวหน้าคณะติดตามการชุมนุมของนักศึกษาและประชาชน กล่าวว่า พรรคก้าวไกลมีการมอนิเตอร์เหตุการณ์และมีการลงพื้นที่ภาคสนามโดย ส.ส.ของพรรคด้วย การชุมนุมในวันนี้ก็เช่นกัน ทั้งนี้ สิทธิเสรีภาพของการชุมนุมเป็นของปวงชนชาวไทยอย่างชัดเจน ไม่ใช่จัดเครื่องกีดขวางมาขวางประชาชน ผู้ชุมนุมมีเจตนาชัดเจนว่าไม่ต้องการให้เกิดการปะทะหรือเกิดปมประเด็นทางการเมืองให้รัฐบาลหยิบยกไปใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินการอย่างเฉียบขาด
เมื่อถามว่า ภาคีเครือข่ายปกป้องสถาบันยื่นประธานรัฐสภาให้ตรวจสอบ ส.ส.ที่ร่วมชุมนุมกับคณะราษฎร โดยเฉพาะ ส.ส.พรรคก้าวไกล นายวิโรจน์กล่าวว่า เราเป็นผู้แทนราษฎร ทุกครั้งที่ไปสังเกตการณ์ชุมนุม เราจะดูว่าเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติกับผู้ชุมนุมเป็นไปตามหลักสากลหรือไม่ เราต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน ที่สำคัญเราไม่เคยขึ้นเวทีเหมือน ส.ส.รัฐบาล เราไม่เคยมีพฤติกรรมยั่วยุปลุกปั่น ไม่เคยใช้ไมค์ผู้ชุมนุมไปปลุกปั่นยั่วยุใคร เราครองตนในฐานะผู้แทนราษฎรพิทักษ์สิทธิประชาชน เราจึงไม่กังวล อย่างไรก็ตาม เรากำลังพิจารณาว่าจะยื่นตรวจสอบ ส.ส.ของพรรครัฐบาลที่ขึ้นเวทีกับที่ผู้ชุมนุมอีกฝ่ายหรือไม่ แต่ก็เชื่อว่าวันนี้ประชาชนก็พิพากษาเขาอยู่แล้ว