“สิระ” ย้อนถาม “ภาคีนักกฎหมายสิทธิฯ” คนไทยลุกขึ้นมาปกป้องสถาบันฯ ถือเป็นความผิด? เย้ย ไปมุดหัวอยู่ที่ไหนตอนม็อบละเมิดคนอื่น จี้อย่าเอาเรื่องสิทธิฯ มาบังหน้าเพื่อรับใช้นักการเมืองชั่ว
นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน เตรียมยื่นหนังสือต่อประธานและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งประธาน กมธ.กฎหมายฯ เนื่องจากมีพฤติกรรมยุยงปลุกปั่นสร้างความขัดแย้ง และละเมิดสิทธิมนุษยชน ว่าเหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา บริเวณแยกเกียกกาย ที่มีกลุ่มมวลชนเสื้อเหลืองมาชุมนุมให้กำลังการทำหน้าที่ของ ส.ส.และ ส.ว.นั้น ตนได้ออกไปเยี่ยมประชาชนและพูดคุยในฐานะประชาชนคนหนึ่ง การแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยที่จะมีคนลูกผสม รับเงินต่างชาติ มาร่างรัฐธรรมนูญให้คนไทยใช้ เป็นจุดยืนที่ตนต่อต้านมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นตนอยากถามว่า การแสดงความเห็นในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วย มีความผิดตรงไหน
“การที่บอกว่าผมไปยุยงปลุกปั่น หากการกระทำของผมเป็นการยุยงให้คนไทยรักชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามที่ได้กล่าวคำปฏิญาณตนเมื่อรับตำแหน่ง เป็นเรื่องที่ไม่สมควรกระทำหรือ หรือกลุ่มภาคีเห็นว่า การลุกขึ้นทำหน้าที่คนไทยคนหนึ่งที่อาศัยแผ่นดินไทยอยู่ โดยการปกป้องสถาบันฯ และทำให้ประเทศไทยดำรงอยู่ด้วยความสงบสุข เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ วันนี้ถึงเสนอหน้ามาบอกว่าผมทำผิด” นายสิระกล่าว
นายสิระกล่าวต่อว่า อยากจะถามไปถึงกลุ่มภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ว่าการกล่าวอ้างเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชน เมื่อเวลากลุ่มผู้ชุมนุมแสดงพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันฯ ก่อความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนจำนวนมาก กลุ่มภาคนี้ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน หูหนวก ตาบอด เป็นใบ้ หรืออย่างไร ถึงไม่เห็นภาพเหล่านี้ อย่างล่าสุดภาพของนางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ก็ไปร่วมการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ทำไมถึงไม่ออกมาต่อต้าน หรือเป็นเพราะว่ากลุ่มภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนก็คือกลุ่มที่รับใช้นักการเมืองชั่วๆ จัดการกับผู้เห็นต่างทางการเมือง โดยการเอาเรื่องสิทธิมนุษยชนมาบังหน้าใช่หรือไม่ และฝากให้ไปถามตัวเองว่ายังเหมาะสมที่จะเป็นนักกฎหมายต่อไปอีกหรือไม่