กสม.เรียกร้องม็อบเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน เลี่ยงเผชิญหน้า-สื่อสารสร้างความขัดแย้ง เกลียดชัง แนะรัฐห้ามใช้มาตรการสลายชุมนุม หากไม่ปรากฏเหตุว่าจะรุนแรง จี้เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเสมอภาค วอนสมาชิกรัฐสภาใช้กลไกสภาแก้ปัญหาก่อนสถานการณ์บานปลาย
วันนี้ (18 พ.ย.) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์เรียกร้องขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมยึดมาตรฐานสากลและหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง โดยระบุว่า การที่กลุ่มประชาชนได้ชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภาระหว่างที่มีการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวานนี้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้ยุทธวิธีควบคุมฝูงชนโดยมีการฉีดน้ำและน้ำผสมแก๊สน้ำตาเพื่อสกัดผู้ชุมนุม ต่อมาเกิดเหตุปะทะกันของผู้ชุมนุม จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บหลายสิบรายนั้น กสม.รู้สึกเป็นกังวลและห่วงใยต่อสถานการณ์การชุมนุมที่อาจมีแนวโน้มนำไปสู่ความรุนแรง เสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงระหว่างกลุ่มที่มีความเห็นต่าง จึงขอเรียกร้องให้ผู้ชุมนุม ประชาชนที่เห็นต่างทุกฝ่ายควรเคารพในสิทธิและเสรีภาพในความคิด ความเชื่อ และการแสดงออกของบุคคลอื่น โดยหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากัน การสร้างเงื่อนไข และการสื่อสารด้วยวิธีการใดๆ ที่สร้างความขัดแย้ง ความเกลียดชัง และหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงต่อกันในทุกกรณี
ส่วนรัฐบาลต้องเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้แนวทางสันติวิธีในการเจรจาแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าอย่างเป็นธรรมแก่ผู้ชุมนุมทุกฝ่าย หากไม่ปรากฏเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ความรุนแรงจะต้องไม่ใช้มาตรการในการสลายการชุมนุมจนกระทบต่อสิทธิในชีวิตและร่างกายของทุกฝ่าย โดยควรนำมาตรฐานสากลมาปรับใช้ตามสมควรแก่กรณีเพื่อให้มีลำดับขั้นตอน สัดส่วนและวิธีการที่จะใช้ในการควบคุมการชุมนุมอย่างเหมาะสม และรัฐบาลควรเร่งเยียวยาทุกฝ่ายที่ได้รับบาดเจ็บหรือได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การชุมนุมอย่างรวดเร็วและเสมอภาค รวมทั้งเพิ่มมาตรการป้องกันการปะทะกันของกลุ่มผู้ชุมนุม โดยขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บมาดำเนินคดีโดยเร็ว และสมาชิกรัฐสภาซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน ควรร่วมกันใช้กลไกรัฐสภาในการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญและรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายร่วมด้วย เพื่อมิให้สถานการณ์บานปลายและนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้น