โฆษกรัฐบาล แถลง ครม.รับข้อเสนอแนะปรับปรุงกฎหมาย สร้างความเป็นธรรมผู้ติดเชื้อเอชไอวี หวังลดเหลื่อมล้ำ สร้างความเสมอภาคเข้าถึงโอกาสทำงาน
วันนี้ (23 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.รับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน กรณีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี ในการรับเข้าทำงานกับบริษัทเอกชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเสมอภาคในการเข้าถึงโอกาสการทำงาน ประกอบด้วย กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม แต่งตั้งคณะทำงานศึกษาร่างพระราชบัญญัติขจัดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคล พ.ศ. .... ฉบับประชาชน ประกอบด้วย ผู้แทนจากภาครัฐและภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง และมีมติเห็นชอบในหลักการและเห็นควรยกร่างพระราชบัญญัติขจัดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคล พ.ศ. .... เพื่อให้เป็นกฎหมายกลางในการขจัดการเลือกปฏิบัติในทุกรูปแบบ และต่อมาได้แต่งตั้งคณะทำงานยกร่างพระราชบัญญัติขจัดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคล พ.ศ. .... เพื่อศึกษาข้อมูลและสถิติข้อร้องเรียนที่เกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติ รวมทั้งได้ประชุมหารือเกี่ยวกับแนวทางการจัดทำร่างพระราชบัญญัติฯ อย่างต่อเนื่อง
นายอนุชา กล่าวต่อว่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน มีหนังสือถึงสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัดและในกรุงเทพฯทุกพื้นที่ เพื่อให้นายจ้างปฏิบัติตามประกาศกระทรวงแรงงาน และประชาสัมพันธ์ให้นายจ้างทราบเกี่ยวกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ไม่ให้นายจ้างเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการติดเชื้อเอชไอวีของลูกจ้างโดยไม่ได้รับการยินยอมจากลูกจ้าง หากละเมิดจะได้รับโทษตามที่กฎหมายกำหนด และพิจารณาปรับปรุงพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ให้มีการคุ้มครองสิทธิและไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อลูกจ้างผู้ติดเชื้อเอชไอวีและเอดส์ที่ชัดเจนขึ้น ส่วนกระทรวงสาธารณสุข แจ้งแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิของผู้ป่วยให้กับผู้ประกอบการ และผู้ดำเนินการสถานพยาบาลประเภทคลินิก เกี่ยวกับแนวปฏิบัติเรื่องการปกปิดข้อมูลความลับด้านสุขภาพของผู้ป่วย ให้ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติโดยทั่วกัน