xs
xsm
sm
md
lg

“เนฉายทีวี” ยุค “อดิศักดิ์” กุมบังเหียน เกิดอาการพระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก ทั้งเกิดคลื่นใต้น้ำภายใน **#ฟรียูธชี้แจงงบ ถาม “เยาวชนปลดแอก” เงินบริจาคหลักสิบล้าน เอาไปทำอะไรหมด **“ตู่ จตุพร” ฟันธง! แก้รัฐธรรมนูญ 60 ไม่สำเร็จ สุดท้ายมวลชน 2 ฝ่ายปะทะกัน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์







ข่าวปนคน คนปนข่าว

** “เนฉายทีวี” ยุค “อดิศักดิ์” กุมบังเหียน เกิดอาการพระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก ทั้งเรตติ้งวูบ ทั้งเกิดคลื่นใต้น้ำภายใน จากการดันคนใกล้ชิดกินเงินเดือนสูงลิ่ว

“เนชั่นทีวี” ยุคเปลี่ยนผ่าน หลังจาก “ฉาย บุนนาค” ประธานเนชั่น แตกหักกับ “ต้อย” สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ทำให้พิธีกรดาวดังชักแถวลาออก ทั้ง “เจ๊ปอง” น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, สันติสุข มะโรงศรี, กนก รัตน์วงศ์สกุล, ธีระ ธัญไพบูลย์ ซึ่งคนที่มากุมบังเหียน กำหนดทิศทางข่าวใหม่คือ อดีต CEO เก่าเนชั่น “อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ” ซึ่งเริ่มงานไปเมื่อวันจันทร์ที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา ... ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่าง “มีนัยสำคัญ” ...

เฟซบุ๊ก “Kanok Ratwongsakul” โพสต์ถึงเหตุการณ์ที่นักข่าวเนชั่น ไปทำข่าวม็อบที่หน้าสภา เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่มีการพิจารณาร่างแก้ไข รธน.ว่า... ผู้สื่อข่าวคนเก่ง เดินรายงานข่าวผ่าเข้าไปกลางม็อบ ท่ามกลางการชู 3 นิ้ว ให้กล้องกันสดๆ แถมมีเสียงแกนนำม็อบตะโกนใส่ “พวกเราดูเนชั่นทีวี” ว้าว!! ... น้ำตาจะไหล ดีใจกับน้องนักข่าวด้วยครับ ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไปแล้ว ... ม็อบเลิกแบนเนชั่นแล้ว !!
ไม่เท่านั้น “กนก รัตน์วงศ์สกุล” ยังตบท้ายด้วย ข้อมูลเรตติ้งช่องเนชั่นทีวี ว่า ...เรตติ้งวันจันทร์ที่ผ่านมา คนดูหายไปอย่างน้อย 50%
เมื่อสำรวจข้อมูลตัวเลขเรตติ้ง เมื่อวันที่ 16 พ.ย. เทียบกับเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา .. ก็ชัดอย่างที่กนกว่า เช่น “รายการขยี้ข่าวเช้า” จากเดิมที่ สันติสุข และ น.ส.ศุภวรรณ โต๋ห์ ดำเนินรายการ เคยได้ 0.393 ก็เหลือ 0.144, “รายการเนชั่นคนข่าวเข้ม” ที่ กนก-ธีระ ดำเนินรายการ เคยได้ 0.477 ก็เหลือ 0.306, “รายการเนชั่นทันข่าวเที่ยง” จากเดิม เจ๊ปอง อัญชะลี กับ กิตติดิษฐ์ ธนดิษฐ์สุวรรณ ดำเนินรายการ เคยได้ 0.456 ก็เหลือ 0.230 “รายการเนชั่นทันข่าว” ที่ สันติสุข คู่กับ นลิน สิงหพุทธางกูร เคยได้ 0.805 ก็เหลือ 0.451 และ “รายการข่าวข้นคนเนชั่น” ที่ กนก-ธีระ ดำเนินรายการ เคยได้ 0.575 ก็เหลือ แค่ 0.219

ฉาย บุนนาค - อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ
ไม่เพียงเท่านั้น กระทั่งรายการแนะนำสินค้า เรตติ้งก็ดิ่งตามไปด้วย ทำให้เรตติ้งรวมทั้งช่อง จากเดิม 0.394 เหลือ แค่ 0.196 เท่านั้น ...เมื่อตัวเลขมันฟ้องออกมาอย่างนี้ เรื่อง “รายรับ” คงหนีไม่พ้นที่จะดิ่งวูบตามกันไปอย่างไม่ต้องสงสัย !!
ขณะที่เรื่องภายในองค์กร ซึ่งก่อนหน้านี้ มีข่าวแว่วว่า ผู้บริหารใกล้ชิด “ฉาย” ชิงจังหวะ “ช่วงเปลี่ยนผ่าน” ปรับทัพโปรโมตคนของตัวเองขึ้นมาแบบปั้น “เด็กอนามัย” โตไวพรวดพราด รับเงินเดือนพร้อมสิทธิพิเศษกันสูงลิ่ว บางคนได้เดือนละเฉียดแสน ก็เกิดการร้องเรียนกันขึ้นแล้ว
โดยกลุ่มผู้สื่อข่าวของเนชั่นทีวี เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนกับสหภาพเนชั่น ถึงความไม่เป็นธรรมในการเอื้อพวกพ้อง... แต่ก็มีข้อสรุปจากการตรวจสอบว่า เป็นความผิดพลาดในการเลือกตัวบุคคลของ “ผู้บริหารรักษาการ” เรื่องทั้งหมดให้เดินหน้าต่อ เพราะได้เซ็นสัญญาไปแล้ว
เมื่อผลออกมาอย่างนี้ ก็ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับพนักงานทั้งฝ่ายข่าว ฝ่ายช่างภาพ ช่างเทคนิก เป็นอย่างมาก เพราะเห็นได้ชัดถึงความ “เหลื่อมล้ำ” แต่ผู้บริหารใช้วิธี “ตัดตอน” อ้างว่าแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
เชื่อว่าปัญหาที่จะตามมาหลังจากที่พนักงานรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็คือ “ใส่เกียร์ว่าง” ...และแว่วๆ มาว่า จะมี “บิ๊กเซอร์ไพรส์” เป็นการอารยะขัดขืนในเร็วๆ นี้
ก็คงต้องจับตากันต่อไปว่า “เนฉายทีวี” ยุค “อดิศักดิ์” ที่กำลังปรับทิศทางข่าว เปลี่ยนกองเชียร์ จาก “ติ่งลุง” มาเป็น “สามนิ้ว” จะฝ่าวิกฤตรายได้ และความเป็นปึกแผ่นในองค์กรต่อไปอย่างไร ... บรรดาแฟนๆ และผู้ถือหุ้นอย่าลืมส่งใจไปเชียร์ด้วยล่ะ !!



**โดนย้อนศร #ฟรียูธชี้แจงงบ ถามความโปร่งใส “เยาวชนปลดแอก” เงินบริจาคหลักสิบล้าน เอาไปทำอะไรหมด

ภาณุมาศ สิงห์พรม - ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี
“ชู 3 นิ้ว” เรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องความโปร่งใสจากคนอื่นมานานหลายเดือน คราวนี้ก็โดนกับตัวเองบ้างแล้ว เมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ในชื่อบัญชี @yourmarianplum ได้ทวีตข้อความพร้อมแฮชแท็ก #ฟรียูธชี้แจงงบ เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังการชุมนุมของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “คณะราษฎร 2563” ที่หน้ารัฐสภา ซึ่งก็มีกลุ่ม “เยาวชนปลดแอก” หรือ FreeYOUTH ที่มี “นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี” และ “นายภาณุมาศ สิงห์พรม” แฟนหนุ่ม เป็นแกนนำ อยู่ในเครือข่ายคณะราษฎรด้วย
“ทวีตโตเนียน” รายนี้บอกว่า “เยาวชนปลดแอกได้รับเงินบริจาคมาเยอะมาก และเป็นกลุ่มแรกๆ ที่เปิดบริจาค แต่จากม็อบหลายครั้งที่ผ่านมา เราพบว่ามีคนถูกทอดทิ้งเยอะมาก และเกิดความสงสัยว่าเงินบริจาคที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อมวลชน เอาไปทำอะไรบ้าง ทำไมต้องให้มวลชนระดมทุนกันอยู่ตลอดเวลา ฟรียูธ ไม่มีการบริหารจัดการเหรอ
พร้อมกับตั้งคำถามไปถึง “เยาวชนปลดแอก” แบบชุดใหญ่จัดเต็มอีกว่า ทำไมไม่มีการจัดการห้องน้ำให้มวลชน, ทำไมไม่มีเงินซัปพอร์ต อุปกรณ์ป้องกันตัวให้การ์ด, ทำไมไม่มีคนตัดสินใจหน้างานในการซื้ออุปกรณ์เร่งด่วน เช่น น้ำเปล่า ยา, ทำไมไม่มีการออกค่าเดินทางให้มวลชนต่างจังหวัด หรือกลุ่มเรียกร้องต่างๆ ที่เขาต้องมามาม็อบ
ไม่หมดแค่นั้น เจ้าของทวิตเตอร์ @yourmarianplum ยังมีข้อสงสัยเมื่อเห็นการ์ดอาชีวะ ต้องเบียดกันกลับบ้านด้วยรถสองแถว และไม่มีอุปกรณ์ป้องกันตัว เห็นคนในทวีตต้องขอรับบริจาค ซื้อน้ำขวด ซื้อหน้ากากกันแก๊สทุกรอบ แล้วเงินบริจาคของกลุ่มเยาวชนปลดแอก มันเอาไปทำอะไรบ้าง จริงมั้ยว่าแต่ละอย่างที่ทำ มันมีแต่อะไรที่ไร้สาระ เช่น ซื้อดอกไม้ ซื้อลูกโป่ง 700 ลูก ต่อให้จ่ายในสิ่งที่ต้องจ่าย เช่น เวที เครื่องเสียง เงินก็ยังเหลืออยู่ดี เงินบริจาคเกือบ 10 ล้าน เอามาสนับสนุนมวลชนมั้ย
“เผด็จการคือรูปแบบ คือโครงสร้าง มันแฝงตัวอยู่ทุกที่ แม้แต่แปะป้ายว่าประชาธิปไตย วิเคราะห์กันให้ลึกๆ ค่ะ ทุกคน “การตรวจสอบไม่ได้”= ??

เราไม่ได้โจมตี หรือใส่ร้าย แน่นอนว่า การออกมาทวีตแบบนี้ เสี่ยงฟ้องหมิ่นประมาทแน่นอน แต่เราเลือกที่จะทำเพื่อให้มูฟเมนต์ ของเรามันก้าวต่อได้อย่างมั่นคง” ทวีตโตเนี่ยนในเครือข่ายปลดแอก เตือนสติพวกเดียวกันเอง
ส่วนคนที่จะต้องรีบออกมาตอบข้อสงสัยโดยด่วน หนึ่งในนั้นก็ต้องเป็น “ภาณุมาศ สิงห์พรม” แฟนหนุ่มของ “ฟอร์ด ทัตเทพ” นั่นเอง ในฐานะที่เป็นเจ้าของบัญชีร่วม ที่เปิดรับบริจาคให้ “เยาวชนปลดแอก” แต่ล่าสุดก็ยังไม่มีคำชี้แจงใดๆ ออกมา แม้จะมีชาวทวิตเตอร์ทวงถามผ่านแฮชแท็ก #ฟรียูธชี้แจงงบ ..ออกมามากมายก็ตาม!!



** พ่อหมอ “ตู่ จตุพร” ฟันธง! แก้รัฐธรรมนูญ 60 ไม่สำเร็จ สุดท้ายมวลชน 2 ฝ่ายปะทะกัน กฎหมายสูงสุดถูกฉีกเหมือนเดิม

จตุพร พรหมพันธุ์
เมื่อวาน (19 พ.ย.) “จตุพร พรหมพันธุ์” ประธาน นปช. ไปขึ้นศาลฟังสืบพยานโจทก์ ในคดีก่อม็อบไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2552 เห็นน้องๆ นักข่าวยื่นไมค์มาใกล้ปาก ถามเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในฐานะผู้คร่ำหวอดอยู่กับการนำมวลชนต่อสู้เพื่อแนวคิดทางการเมืองมาร่วม 30 ปี ก็พยากรณ์แบบฟันฉับไว้ล่วงหน้าเลยว่า... รัฐธรรมนูญ ฉบับปี พ.ศ. 2560 ที่ฝ่ายค้านและม็อบราษฎร พยายามผลักดันให้แก้ไขอยู่ในขณะนี้ จะไม่ได้รับการแก้ไขโดยเด็ดขาด พร้อมทำนายอีกว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะเหมือนรัฐธรรมนูญ ฉบับปี พ.ศ. 2540 และ 2550 ที่จะถูกฉีก ทั้งที่สามารถแก้ไขได้ง่ายกว่านี้
“จตุพร” ให้เหตุผลว่า การที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับของ “ไอลอว์” ถูกตีตก เท่ากับว่า ทุกส่วนไม่ช่วยกันหาทางออก เท่ากับเป็นการผลักไสให้ผู้ชุมนุม มุ่งไปที่ “ข้อเรียกร้องที่ 3” เพียงข้อเดียว และเหตุยิงกันที่แยกเกียกกาย หน้ารัฐสภานั้น ให้จำปากตนไว้เลยว่า พอเลือดมันเริ่มออกแล้วจะไหลไม่หยุด จนกว่าจะไหลนองเต็มท้องช้างแล้วจึงจะหยุด!!
การให้มวลชนทั้งสองฝ่ายปะทะกัน ก็จะเป็นเงื่อนไข เพราะรัฐธรรมนูญถูกออกแบบมาตั้งแต่ต้นว่า ไม่ได้มีไว้เพื่อให้สามารถแก้ไขได้ แต่มีไว้เพื่อส่งให้คณะรัฐประหารชุดใหม่ เพื่อฉีกรัฐธรรมนูญเท่านั้นเอง!!
ตอนนี้พิสูจน์ชัดว่าต่างฝ่ายต่างเอาตัวรอด รัฐบาลและรัฐสภาต่างไม่ช่วยกันเป็นด่านหน้าเพื่อปกป้องสถาบันฯ เชื่อว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญแม้ว่าจะผ่านวาระที่ 1 แต่จะไม่มีวันสำเร็จ แล้วท้ายที่สุด จะจบลงด้วยการถูกฉีกเหมือนเช่นเดิมที่ผ่านมา
คำทำนายของพ่อหมอ “จตุพร” จะแม่นขนาดไหน อีกไม่ช้าไม่นานคงจะได้รู้กัน




กำลังโหลดความคิดเห็น