“ชลน่าน” ซัดมายาคติ มโนล้มสถาบันฯ ขู่คว่ำแก้ รธน.บ้านเมืองลุกเป็นไฟ “พิธา” วอนอย่าให้การแก้ รธน.เป็นของทหาร “ชัยวุฒิ” ชี้เป้าผ่านร่าง รธน.ของไอลอว์ ฝ่ายค้านสมประโยชน์ รอสัมหล่นเป็นรัฐบาล
วันนี้ (18 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น.ได้มีการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของไอลอว์ในวาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ ต่อจากเมื่อวาน (18 พ.ย.) ซึ่งสมาชิกยังคงอภิปรายออกเป็นสองฝ่าย โดย ส.ส.รัฐบาลยังคงแสดงความไม่เห็นด้วย ขณะที่ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านต่างอภิปรายสนับสนุน และยืนยันจะลงมติรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ส่วนตัวเข้าใจเมื่อประชาชนต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และต้องมากจากประชาชนอย่างแท้จริง จึงจำเป็นที่ต้องรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหา ที่ผ่านมาหลายฝ่ายมีมายาคติว่ารัฐธรรมนูญบางหมวดไม่สามารถแก้ไขได้เลย เช่น หมวด 1 ว่าด้วยบททั่วไป และ หมวด 2 ว่าด้วยพระมหากษัตริย์ แต่จริงๆ แล้วสามารถแก้ไขได้ ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ก็บัญญัติรับรองเอาไว้ว่าถ้าจะแก้ไขจะต้องมีการไปทำประชามติ และที่ผ่านมารัฐธรรมนูญหลายฉบับก็มีการแก้ไขหมวดพระมหากษัตริย์ในทางที่ดีขึ้นและเป็นการส่งเสริม ดังนั้น การที่อ้างว่ารัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายมหาชน จนตีความว่าหากไม่ได้ให้อำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็จะกระทำได้นั้นถือว่าเป็นการตีความไม่ถูกต้อง เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 25 รับรองว่าการกระทำใดหากเป็นคุณย่อมสามารถกระทำได้ แม้กฎหมายไม่ได้บัญญัติเอาไว้ก็ตาม
“รัฐธรรมนูญไม่เคยเขียนบทบัญญัติให้ยกเลิกตัวเอง เพราะหากเขียนเช่นนั้นเท่ากับว่าเพี้ยนแล้ว แต่เมื่อมีสถานการณ์เหมาะสมก็สามารถใช้ช่องทางตามบทบัญญัติว่าด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแบบเดียวกับการได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 พรรคเพื่อไทยยินดีรับทั้ง 7 ฉบับแบบไม่มีเงื่อนไข และขอให้เอาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหลัก อย่าไปยึดกับข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ให้สภาเป็นที่แก้ปัญหา อย่าให้สภาเป็นตัวเพิ่มปัญหา ถ้าไม่แก้ไขบ้านเมืองอาจจะลุกเป็นไฟและอาจไม่มีรัฐสภา จึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันร่วมแก้ไขปัญหา” นพ.ชลน่านกล่าว
ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายว่าตอนนี้สมาชิกรัฐสภามีความไม่ไว้วางใจในอำนาจตัวเอง จนถึงขนาดต้องมีการพยายามยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความอำนาจของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และยังไม่ไว้วางใจประชาชนว่าจะมีอำนาจไม่ได้
“ถ้าท่านยอมรับหลักการของประชาชน ความตึงเครียดจะเบาบางลงและทางออกจะมีมากขึ้น และมาใช้อำนาจของประชาชนในการร่วมกันสถาปนารัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาทหารเหมือนจะเป็นคนกลุ่มเดียวที่แก้ไขรัฐธรรมนูญได้ แต่ประชาชนกลับทำได้ยาก อย่าให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นของทหารต่อไป แต่ต้องเป็นของรัฐสภาและประชาชน จึงขอวิงวอนต่อ ส.ส.และ ส.ว.ให้รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของภาคประชาชนเพื่อให้เกิด ส.ส.ร.ที่มีอิสระ หากยังฉันทมติไปสู่อนาคตไม่เจอ ก็สามารถถอดความสำเร็จในอดีตที่หาทางออกให้กับประเทศไทยเมื่อปี 2538” นายพิธากล่าว
ทางด้านฝ่ายรัฐบาล นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ อภิปรายว่า ร่างรัฐธรรมนูญของไอลอว์ หลายคนสงสัยว่าทำไมต้องให้ความสำคัญ และไอลอว์คือใคร แต่ตนก้าวข้ามไปแล้ว เพราะร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นของคณะราษฎร เป็นของผู้ชุมนุม ไม่ใช่ของไอลอว์ เพราะผู้ชุมนุมพูดเมื่อวานนี้ชัดเจนว่าเป็นร่างรัฐธรรมนูญของพวกเขา และฝ่ายค้านทุกคนก็เห็นด้วยซึ่งไม่แปลกใจ เพราะที่ผ่านมาฝ่ายค้านมีความคิดไปในแนวเดียวกับคณะราษฎรมาตลอด
นายชัยวุฒิกล่าวอีกว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ตอบโจทย์ฝ่ายค้าน เพราะ 1. จะยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. คนที่มีคดีทุจริต คนที่หนีไปอยู่ต่างประเทศได้กลับบ้านหมด 2. ยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. วันนี้ใครถูกดำเนินคดีอยู่ กกต.กำลังดำเนินคดีต่อหัวหน้าและเลขาธิการอดีตพรรคอนาคตใหม่ ถ้ายกเลิกไปใครได้ประโยชน์ เพราะคดีเหล่านี้จะหยุดหมด นอกจากนั้นยังมีการเสนอเปลี่ยนคุณสมบัติของนายกฯ โดยเขียนชัดเจนว่าให้นายกฯ มาจาก ส.ส.เท่านั้น นายกฯ ที่พวกเราสนับสนุนคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านมาตามรัฐธรรมนูญ เสนอโดยพรรคพลังประชารัฐ ถ้าท่านแก้ข้อนี้ พล.อ.ประยุทธ์พ้นจากนายกฯ ทันที ฝ่ายค้านจะมีโอกาสมาเป็นรัฐบาลซึ่งสมประโยชน์หรือไม่ จึงไม่แปลกใจที่ฝ่ายค้านจะรับร่างของคณะราษฎรนี้ แล้วแบบนี้พวกตนจะรับได้อย่างไร
“รัฐธรรมนูญฉบับนี้ถ้าจะผ่าน ส.ว.ต้องลงคะแนนให้ท่าน 1 ใน 3 แต่ท่านเขียนให้เขาพ้นจากตำแหน่ง แล้วใครจะโหวตให้ท่าน ซึ่งท่านก็รู้ว่าไม่ผ่านอยู่แล้ว ถ้าผมเขียนกฎหมายห้ามเอ็นจีโอรับเงินจากต่างประเทศบ้าง ท่านจะยอมรับได้หรือไม่ แลกกันเอาไหม”
นายชัยวุฒิกล่าวอีกว่า เรื่องปฏิรูปประเทศนั้นคนไทยทั้งประเทศเรียกร้อง เพราะจะแก้ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ความไม่ยุติธรรมในสังคมไทย แล้วท่านจะยกเลิกทำไม คณะราษฎรกลับเสนอให้ปฏิรูปสถาบันฯ เพื่ออะไร สถาบันฯ ดีอยู่แล้วจะไปยุ่งทำไม มันย้อนแย้งกันไปหมด แก้แม้แต่หมวด 1 และ 2 ท่านต้องการอะไร อำนาจบางอย่างไม่ได้มาจากรัฐธรรมนูญ แต่มาจากความรักความศรัทธาของประชาชน ดังนั้น ท่านแก้รัฐธรรมนูญแบบไหนก็แก้ตรงนี้ไม่ได้
ด้านนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วงในฐานะอดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ว่าการกล่าวหาว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เอื้อต่ออดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่นั้น วันนี้เรายังไม่รู้ว่า ส.ส.ร.จะเขียนรัฐธรรมนูญออกมาอย่างไรเลย และอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่โดนดำเนินคดีจากกฎหมายอื่น ไม่ใช่กฎหมาย กกต.โดยตรง จึงไม่เหมือนกับรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่เอื้อให้บางพรรคการเมือง