“ส.ว.เลิศรัตน์” อัดเนื้อหาร่างไอลอว์ ขัดแย้งกันเอง สงสัยทำไมไม่ห้ามแตะหมวด 1 หมวด 2 “จอน” แจงเหตุต้องแก้ไข รธน.60 เพราะละเมิดอำนาจอธิปไตย ปชช. ยอมรับรับเงินต่างชาติ แต่ไม่ถูกบงการ-แทรกแซง
วันนี้ (17 พ.ย.) พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว. อภิปรายว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้ยกเลิกการปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งอาจมีปัญหาที่ขัดแย้งกันเอง เพราะทั้งเรื่องการปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติอยู่ในคำปรารภของรัฐธรรมนูญ 2560 การเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เหมือนกับธรรมนูญการปกครองของคณะรัฐประหาร ที่มีการให้จัดทำกฎหมายและร่างกฎหมายใหม่ไปในคราวเดียวกัน โดยเฉพาะการยกเลิก พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญทุกฉบับที่ได้รับการประกาศใช้โดยสมบูรณ์แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่จะกระทำไม่ได้
พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวต่อว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันมีการจาบจ้วงไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งๆ ที่พระมหากษัตริย์จะถูกล่วงละเมิดไม่ได้ จึงสงสัยว่า การไม่กำหนดห้ามแก้ไขหมวด 1 และ หมวด 2 มีเจตนาอย่างไร นอกจากนี้ การเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยใช้ประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง จะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มการเมืองเข้ามาควบคุมการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญผ่านการส่งบุคคลลงเลือกตั้ง ส.ส.ร.
นายจอน อึ้งภากรณ์ ในฐานะผู้ริเริ่มเสนอกฎหมายชี้แจงว่า ในประเด็นที่ว่าทำไมภาคประชาชนไม่ห้าม ส.ส.ร.แก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 1 และหมวด 2 เพราะไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญปี 40 หรือปี 50 ไม่เคยมีข้อห้ามไม่ให้แตะ เรามีความเชื่อว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน หากห้ามตัดตรงนั้นตรงนี้มันขัดแย้งกัน เราต้องเชื่อมั่นประชาธิปไตย ตนเชื่อว่า ส.ส.ร.ที่ได้รับเลือกจะมีความหลากหลายไม่ต่างจากรัฐสภาแห่งนี้ และจะมีหลายทัศนะความคิด ซึ่งหน้าที่ของ ส.ส.ร. คือ ไกล่เกลี่ยหาทางออกที่ดีที่สุด โดยดูว่าเสียงส่วนใหญ่ไปทางไหน ตลอดเวลาการเมืองไทยปัญหาเกิดขึ้นเพราะผู้มีอำนาจไม่ไว้ใจประชาชน จึงได้เกิดรัฐประหารบ่อย แต่ถ้าเราจะเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ประชาชนไม่ใช่เด็กๆ ที่จะมีผู้ใหญ่มาบอกว่าห้ามอย่างนั้นอย่างนี้ แสดงว่ามองตัวเองว่าใหญ่กว่าประชาชน
นายจอน กล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่า ในส่วนของ 1 แสนรายชื่อ ที่ลงชื่อรับรองเสนอร่างของเราก็จะมีความเห็นที่หลากหลาย สมาชิกหลายคนอาจจะวาดภาพเกินไป เราเชื่อเรื่องสิทธิเสรีภาพ จึงเป็นเหตุที่เราไม่กำหนดว่าห้ามแก้ไขหมวด 1 หมวด 2 เรามองว่าต้องไว้ใจประชาชนที่จะนำประเทศไปข้างหน้า เราไม่คิดว่าหมวด 1 หมวด 2 แก้ไขไม่ได้เลย อาจต้องมีแก้บางจุด หรือไม่ต้องแก้เลย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการแก้ไขอยู่บ้าง
ส่วนประเด็นที่ว่าเรารับเงินจากต่างประเทศนั้น จริงๆ ตนไม่อยากจะพูดถึง เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาที่องค์การพัฒนาเอกชนในไทย รวมถึงสถาบันที่มีชื่อหลายแห่งจะมีทุนจากหน่วยงานจากต่างประเทศ ซึ่งไม่ได้แปลว่ามีการชี้นำ หรือบงการ ตนรับรองได้ในฐานะผู้แทนไอลอว์ ว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครสามารถมาบ่งการการทำงานของไอลอว์ได้
ด้าน น.ส.จีรนุช เปรมชัยพร ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ ฐานะผู้ร่วมเสนอร่างของกลุ่มไอลอว์ กล่าวว่า เป็นข้อกล่าวหาที่หากไม่ชี้แจงความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งตนในฐานะที่อยู่ในวงการองค์กรพัฒนาเอกชนกว่า 30 ปี หลายองค์กรเกิดขึ้นเพราะเจตนารมณ์ที่จะพัฒนาสังคม หลายๆ องค์กรคงไม่อยากจะไปรับเงินต่างชาติ หากองค์กรที่จัดตั้งโดยรัฐมีความเป็นอิสระและใจกว้างเพียงพอ ที่จะอนุมัติงบประมาณให้องค์กรที่วิพากษ์วิจารณ์ต่อรัฐ แต่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในสังคมที่ไม่เป็นประชาธิปไตย จึงทำให้ต้องแสวงหาแหล่งที่พร้อมสนับสนุนงบประมาณ แต่ไม่ได้เป็นการรับจ้างทำงาน เป็นการเสนอสิ่งที่อยากทำหากแหล่งทุนเห็นชอบร่วมกัน พร้อมยืนยันว่า การรับทุนเป็นไปอย่างโปร่งใส การระบุว่ารับเงินต่างชาติเพื่อให้ต่างชาติแทรกแซง เป็นข้อกล่าวหาที่เกินจริง และข้อกล่าวหานี้ควรจะจบไปแล้ว
นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการกลุ่มไอลอว์ ชี้แจงว่า เท่าที่ฟังการอภิปราย ยังไม่มีสมาชิกรัฐสภาคนใดค้านในหลักการ จึงขอให้รับหลักการไปก่อน แต่ในรายละเอียดที่มีปัญหาทางเทคนิคกฎหมาย ก็ขอให้ช่วยกันแก้ไขในวาระที่ 2 เช่น กรณียกเลิกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ หากมีปัญหาอาจทำให้นิรโทษกรรมคดีทุจริต ก็สามารถหารือกันในรายละเอียดในวาระที่ 2 ได้