xs
xsm
sm
md
lg

“ธนาธร” ทิ้งไม้ตาย ปลุก “เด็กเลว” แต่เหลว !?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พาคนในครอบครัว มาร่วมม็อบ “เด็กเลว” (14 พ.ย.)
เมืองไทย 360 องศา



ต้องบอกว่า “ไม่ใช่วันของธร” จริงๆ เพราะหากประเมินจากภาพที่เห็นความจริงอยู่ตรงหน้า ก็ต้องกล่าวแบบนั้นแหละ เพราะในภาพข่าวจะเห็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้ากลุ่ม “ก้าวหน้า” ที่กำลังหาเสียงให้กับกลุ่มการเมืองท้องถิ่น (องค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ.) ในสังกัดของตัวเอง ยกขบวนกันมาพร้อมหน้าทั้งครอบครัว หอบหิ้วกันมาทั้งภรรยา และลูกๆ มาปรากฏตัวในการชุมนุมของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “นักเรียนเลว” เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยเขาบอกว่ามาให้กำลังใจ

สำหรับ “คอการเมือง” ที่ติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง และมองแบบ “รู้ทัน” ก็จะแปลความหมายไปอีกแบบ นั่นคือ ทั้งมาให้กำลังใจ มาบัญชาการ รวมไปถึงการลงทุนมา “ปลุกกระแส” ด้วยตัวเอง เพราะหากพิจารณาจากความเชื่อแบบมั่นใจว่าเขากับพวกอยู่เบื้องหลัง “ม็อบสามนิ้ว” ที่เริ่มเคลื่อนไหว “ลงถนน” มาตั้งแต่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง จากความผิดสองเรื่องสำคัญ คือ กรณีความผิดจากการ “ถือหุ้นสื่อ” และกรณี “ปล่อยเงินกู้ให้กับพรรคอนาคตใหม่” แน่นอนว่า ในความเป็นจริง คนที่สนับสนุนและอยู่เบื้องหลัง “ม็อบสามนิ้ว” ในสารพัดชื่อด้วยศักยภาพส่วนตัว นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับพรรคพวกคงยังไม่ถึงขั้น จึงต้องใช้มวลชนจากเครือข่ายอื่น เช่น จากคนเสื้อแดงบางกลุ่ม ในลักษณะที่มองว่าเป็นการ “หยิบยืม” มาใช้ในแบบเฉพาะกิจ ผสมปนเปกับบรรดาเด็กๆ ที่เชิดชู นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธุ์ สองผู้ต้องหาคดีอาญา มาตรา 112 ในต่างประเทศ จนกลายมาเป็นม็อบที่ถูกมองว่า มีเจตนา “ล้มเจ้า” โดยเคลื่อนไหวคู่ขนานกันทั้งในและนอกสภา

นั่นคือนอกสภาก็เป็นการชุมนุมกดดันโดยใช้บรรดาเด็กๆ และเยาวชนออกหน้า ขณะที่ในสภาก็เดินเครื่องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยการตั้ง ส.ส.ร.ยกร่างใหม่ทุกหมวด ทุกมาตรา โดยฉีกธรรมเนียมปฏิบัติในการร่างรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่สมัย “คณะราษฎร 2475” ที่ไม่เคยแตะต้องในหมวดพระมหากษัตริย์ แต่คราวนี้พวกเขาอ้างว่า ต้องการให้มีการ “ปฏิรูป” สถาบันพระมหากษัตริย์ แต่เมื่อพิจารณาในเนื้อหาในข้อเรียกร้อง 10 ข้อ รวมไปถึงญัตติเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับที่เรียกว่า ฉบับ “ไอลอว์” ที่กำลังถูกเปิดโปงว่า “รับเงินต่างชาติ” ก็มีเป้าหมายครอบคลุมในเรื่องนี้ รวมไปถึงเป้าหมายหลัก ก็คือ การ “นิรโทษ” ให้กับพวกที่เคยถูก “ตัดสิทธิ์ทางการเมือง” รวมไปถึงคดีทุจริตที่เคยเป็นผลจากการบังคับใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 หรือฉบับปัจจุบัน

หากเป็นแบบนี้ ความหมายก็คือ ทั้ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับพวกที่เคยเป็นกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ก็จะพ้นความผิด รวมไปถึง นายทักษิณ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็จะพ้นมลทินทั้งปวง

วกกลับมาที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เวลานี้สถานการณ์และบรรยากาศกำลังมีแนวโน้ม “พลิกกลับ” อย่างชัดเจน เพราะกำลังถูกสังคม “รุกไล่” อย่างหนัก หลังจากถูกมองว่าให้การสนับสนุน หรืออยู่เบื้องหลัง “ม็อบสามนิ้ว” ที่มีพฤติกรรม “จาบจ้วง” หยาบคาย กับสถาบันพระมหากษัตริย์

รวมไปถึงข้อเรียกร้องให้ที่ให้ “ปฏิรูป” สถาบันฯ ที่แท้จริงแล้วก็คือ มีเจตนา “ล้มล้าง” นั่นเอง ทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านและตอบโต้ลุกลามไปในหลายพื้นที่ที่เขาเดินทางไปหาเสียงให้กับผู้สมัครระดับ อบจ. ให้หลายจังหวัดที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากจำนวนมวลชนที่เข้าร่วมในการชุมนุมของม็อบสามนิ้วแต่ละครั้งในครั้งหลังๆ ที่ผ่านมา ที่เห็นชัดก็เริ่มมาตั้งแต่การชุมนุมเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ใช้ชื่อในนาม “คณะราษฎร” ที่มีคนลดลงอย่างมาก และล่าสุด เป็นการชุมนุมวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

คราวนี้ใช้ชื่อกลุ่ม “นักเรียนเลว” ใช้ “เด็กนักเรียน” นำหน้า แม้ว่าเมื่อมองเข้าไปในที่ชุมนุมล้วนมี “คนเสื้อแดง” แบบ “นักเรียนโข่ง” เข้าร่วมกันมาแบบ “ค่อนทีม” ก็ตาม หากพิจารณาจากภาพที่เห็นก็ต้องยอมรับ “ลดน้อยลงไปอีก”

แม้ว่าหากมีการประเมินกันแบบรอบด้าน ก็ย่อมมองเห็นสาเหตุหลักๆ ได้ไม่ยาก นั่นคือ เป้าหมายที่พวกเขามีเจตนา “ย่ำยี” สถาบันฯ ทำให้สังคมส่วนใหญ่รับไม่ได้ และเนื้อหาของการชุมนุมก็ล้วนแล้วแต่มีความหยาบคาย ก้าวร้าว “ล้ำเส้น” เลยเถิด และที่สำคัญสังคมมองออกว่าเป็น “ม็อบของธนาธร” ที่เขาจะได้ประโยชน์ทางการเมืองหากข้อเรียกร้องสำเร็จ รวมไปถึงแนวร่วมที่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลัง

ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งฝ่ายรัฐบาล ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เริ่มจับทางถูก มีการ “แก้เกม” ลงได้เป็นระยะ ที่สำคัญก็คือ “ไม่ติดกับสร้างเงื่อนไข” ทำให้ไม่มีสิ่งเร้า นานไปก็ยิ่งฝ่อลงเรื่อยๆ จากนั้นก็ดำเนินคดีกับพวก “แกนนำ” ที่เวลานี้หลายคนมีคดีอาญาคนละ “เกือบร้อยคดี” ในอนาคตต้องเดินขึ้นศาลกันจนแก่เฒ่า หรือเปล่าก็ไม่รู้

ดังนั้น หากพิจารณาจากภาพจริงที่เห็นอยู่ตรงหน้า มันก็ “ฟ้องด้วยภาพ” กันอยู่แล้วว่า “ทีมธนาธร” ปลุกไม่ขึ้น แม้ว่าจะพยายาม “เปลี่ยนหน้า” กันมาในหลากหลายรูปแบบ ก็ยังไม่ได้ผล ตรงกันข้ามมีแต่ “ฝ่อลง” ไปเรื่อยๆ เพราะสังคมส่วนใหญ่ยังไม่เอาด้วย ขณะภาพในทางการเมืองก็เริ่มส่งผลในทางลบ ลุกลามไปถึงเครือข่าย อย่างน้อยเฉพาะหน้า ที่คาดว่าได้รับเต็มๆ ก่อนก็คือ “ทีม อบจ.” ที่กำลังเจอกระแสตีกลับไปทั่วแล้ว !!


กำลังโหลดความคิดเห็น