“จักรพล” ฉะรัฐบาลบริหารเศรษฐกิจห่วย ทั้ง “เหลื่อมล้ำ-ไม่เท่าเทียม” เอื้อทุนใหญ่ ปล่อยรายย่อยเจ๊ง นำไปสู่การชุมนุม ซัด “ประยุทธ์” หมดความชอบธรรม ต้องลาออกเท่านั้น
วันนี้ (28 ต.ค. 63) นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการ และ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การบริหารงานด้านเศรษฐกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของการชุมนุมของคนรุ่นใหม่และประชาชนในครั้งนี้ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาบริหารประเทศนานกว่า 6 ปี ไม่สามารถทำให้ประชาชนกินดีอยู่ดีได้ เกิดความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจและสังคมที่เน้น Paradigm (กระบวนทัศน์) จากบนลงล่าง ทั้งที่กู้เงินจำนวนมาก แต่ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น หนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“รัฐบาลให้ความสำคัญต่อเศรษฐกิจมหาภาค แต่ละเลยเศรษฐกิจในระดับจุลภาค ซึ่งกระบวนทัศน์การพัฒนาเศรษฐกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ มีปัญหา ทำให้เห็นหลักคิดการพัฒนาเศรษฐกิจ และสะท้อนว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับกลุ่มก้อนนักธุรกิจชนชั้นนำมากกว่านักธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ” นายจักรพลระบุ
นายจักรพลกล่าวด้วยว่า ในช่วงวิกฤตซ้อนวิกฤตที่สภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย และเกิดวิกฤตการณ์โควิด-19 ภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ล้มละลาย ปิดกิจการ และปรับพนักงานออก ส่งผลต่อสภาวะการเงินของภาคธุรกิจ เกิดการสะสมหนี้ครัวเรือนมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวเลขอัตราการปิดกิจการของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมพุ่งสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2557
“มาตรการช่วยเหลือประชาชน หรือเยียวยาภาคธุรกิจของรัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ ขาดฐานข้อมูลที่แม่นยำ กระจายเงินล่าช้า พล.อ.ประยุทธ์ จึงหมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศต่อในฐานะนายกรัฐมนตรี” นายจักรพลกล่าว