“ชัยวุฒิ” ซัดอย่าดัดจริต ปูดม็อบใช้เงินต่างชาติหนุนจาบจ้วง “พุทธิพงษ์” ยันฟันโซเชียลฯ ผิด กม.

ส.ส.พปชร.อภิปรายเดือดให้เอาความจริงมาพูดในสภา อย่าดัดจริต แฉม็อบใช้เงินต่างชาติจาบจ้วงสถาบันฯ เสนอ 5 ทางเลือกให้นายกฯ แย้มทนต่อทำความเข้าใจทางออกดีที่สุด “พุทธิพงษ์” ย้ำพบใช้โซเชียลฯ ทำผิดกฎหมายดำเนินคดีทันที ปัดปิดกั้นสื่อ

วันนี้ (27 ต.ค.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ อภิปรายว่า การพิจารณาในวันนี้ต้องดูด้วยว่าผู้ชุมนุมเขาคิดอย่างไรต่อบ้านเมือง วันนี้คนไทยทั้งประเทศรู้กันหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ออกมาใส่เสื้อเหลืองทั้งประเทศ สภาต้องเอาความจริงมาพูดกัน อย่าดัดจริต การปราศรัยที่สนามหลวงนั้น เวลา 1 ชั่วโมงโจมตีรัฐบาล 10 นาที ที่เหลือโจมตีสิ่งที่เหนือกว่ารัฐบาล วันนี้เรียกตัวเองว่าคณะราษฎร ซึ่งคณะราษฎร 2563 นั้นจะเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบไหน เหล่านี้คือสิ่งที่เขาพูด แต่เราทำเป็นไม่ได้ยิน ส่วนการใช้โซเชียลมีเดียนั้น มีการแชร์ข้อมูล ส่งภาพบิดเบือนตัดต่อเพื่อสร้างความเกลียดชัง รัฐบาลก็ทราบและพยายามปิด แต่โซเชียลมีเดียนั้นเราสามารถไปปิดได้หรือ เขาจาบจ้วงอยู่ทุกวันนี้ แต่เราทำอะไรกันบ้าง ถึงเวลาต้องเอาอำนาจการสื่อสารกลับมาเป็นของคนไทย ปล่อยคนต่างชาติเอาโซเชียลมีเดียมาทำร้ายคนไทยต่อไปไม่ได้

“ทุกการเคลื่อนไหวของมวลชนต้องใช้เงิน มาจากต่างชาติหรือไม่ ขณะที่นักการเมืองบางกลุ่มใช้กระแสเรื่องนี้เข้าสู่อำนาจ เป้าหมายไม่ใช่การเป็นนายกฯ แต่เป็นอะไรที่มากกว่านั้นหรือไม่ ยืนยันว่าผมไม่เคยโกรธเกลียดการออกมาของเยาวชนคนรุ่นใหม่ เขายากลำบาก เขายากจน หลายคนเรียนจบมาไม่มีงานทำ เขามองไม่เห็นอนาคตของตัวเอง แต่วันนี้มีนักการเมืองไปหยิบยื่นข้อเสนอให้เขาว่า เขาจะมีอนาคตใหม่ แต่ต้องเปลี่ยนแปลงการปกครองก่อน เหล่านี้เป็นสิ่งที่กดทับเขาอยู่” นายชัยวุฒิกล่าว

นายชัยวุฒิกล่าวอีกว่า ตนมีข้อเสนอให้รัฐบาล 5 ทางเลือก 1. นายกฯ ลาออกตามข้อเสนอของผู้ชุมนุม ยอมแพ้ ยอมรับสิ่งที่คนรุ่นใหม่เสนอ ยอมให้มีการเปลี่ยนแปลง แต่เมื่อมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ใครจะมาเป็น จะสามารถรวบรวมเสียง ส.ส.ในสภาได้หรือไม่ ถ้ามีการต่อรองตำแหน่งรัฐบาลก็จะอ่อนแอ 2. ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน กลุ่มเยาวชนปลดแอกถ้าอยากเข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศ ก็ไปสนับสนุนพรรคไหนก็ได้ให้ได้ 376 เสียง ก็สามารถเปลี่ยนประเทศได้ แต่ยังต้องเลือกตั้งกันในกติกาเดิมอยู่ 3. ยึดอำนาจ นายกฯ ทำได้เพราะเป็น รมว.กลาโหม ยึดอำนาจตัวเองแล้วร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม เพื่อให้ประชาชนยอมรับ 4. ทำประชามติถามประชาชนว่าอยากเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เห็นด้วยกับผู้ชุมนุมหรือไม่ เชื่อว่าอาจจะเป็นทางออกของประเทศไทย และ 5. ไม่ต้องทำอะไรเลย ทนอยู่กันไปแบบนี้ ซึ่งหลายครั้งที่ทางออกนี้มักจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ท่านนายกฯ ต้องอดทน ทำความเข้าใจกับประชาชน และพูดคุยกับคนที่เห็นต่างให้มากขึ้น

ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ชี้แจงว่า โซเชียลมีเดียรวดเร็วทันสมัย ในฐานะภาครัฐเราจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพราะเนื้อหาและสิ่งที่แสดงออกมาในวันนี้นั้นรุนแรงมาก มีทั้งยุยง ปลุกปั่น ทำลายสถาบันหลักของประเทศ ส่วนคนที่ใช้โซเชียลมีเดียภายใต้กฎหมายก็ไม่เป็นอะไร เราไม่ได้ไปล่วงเกินสิทธิอะไรของท่านเลย ทั้งนี้ 2 พันกว่ารายที่ถูกดำเนินคดีนั้นเพราะเราดูแล้วว่าจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายจริงๆ สิ่งที่เผยแพร่แล้วทำร้ายจิตใจแบบนี้ท่านยอมได้หรือ ถ้าตนไม่ทำ แล้วท่านยอมได้หรือ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดที่ถูกดำเนินคดีนั้น เราไม่ได้ใช้ความรู้สึกของรัฐบาล แต่อาศัยกระบวนการยุติธรรม รวบรวมข้อมูลหลักฐาน ซึ่ง 80 เปอร์เซ็นต์ประชาชนเป็นคนส่งมาให้เรา ยืนยันว่าถ้าพบว่ามีความผิดและเข้าข้อกฎหมายก็ต้องดำเนินคดี ส่วนที่มีการระบุว่ามีการปิดกั้นสื่อนั้นก็ไม่เป็นความจริง สื่อยังคงทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ เราเพียงแค่เตือนว่า สิ่งที่มีการนำเสนอนั้นหากท่านไม่ได้ตั้งใจก็ขอให้ลบออก แต่ถ้ายังไม่มีการดำเนินการใดๆ ก็จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย