xs
xsm
sm
md
lg

“วิษณุ” แจงไทมไลน์แก้ รธน.เสร็จ ธ.ค. “อมรัตน์” โวยว่าม็อบปลดแอกฮ่องกง พปชร.เย้ยทำตัวเป็น หน.ม็อบ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
รองนายกฯ แจงไทม์ไลน์แก้ รธน.เสร็จภายใน ธ.ค. แต่ยังใช้ไม่ได้ ต้องผ่านประชามติก่อน จ่อชงร่าง กม.ประชามติเข้ารัฐสภาเดือนหน้า เผย นายกฯ จ่อหารือข้อ กม. ปธ.สภา ปมถาม ปชช.ให้ลาออกหรืออยู่ต่อ “เจ๊ ดาวแดง” ปรี๊ดแตก จี้ถอนคำม็อบเรียกร้องอิสรภาพให้ฮ่องกง เจอขุนพล พปชร.ย้อนทำตัวเป็นหัวหน้าม็อบ

วันนี้ (26 ต.ค.) ที่ประชุมรัฐสภา เวลา 15.50 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการอภิปรายในที่ประชุมรัฐสภา ว่า ข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมมีอยู่ประมาณ 6-7 ข้อ เช่น เรียกร้องอิสรภาพให้ฮ่องกง เรียกร้องขอให้เปิดรัฐสภาสมัยวิสามัญซึ่งก็ได้เปิดแล้ว นอกจากนี้ ยังขอให้ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง และขอให้เร่งดำเนินการเแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้อยู่ในการพิจารณาของรัฐสภาแล้ว โดย 6 ฉบับที่ค้างอยู่ ความจริงก็ควรจะพิจารณาตั้งแต่วันที่ 1-2 พ.ย. แต่ก็ต้องเข้าใจว่าร่างฉบับไอลอว์อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายชื่อ เสร็จเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่ที่ความกรุณาของประธานรัฐสภา จะสั่งบรรจุวาระพิจารณาในคราวเดียวกันหรือไม่ก็แล้วแต่

“เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ก่อนประชุม ครม. นายกฯได้เชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค และรัฐมนตรี 10 กว่าคน หารือว่าร่างรัฐธรรมนูญควรเดินหน้าต่อไปโดยเร็ว มีคนถามว่าจะส่งสัญญาณไปถึง ส.ว. และฝ่ายค้านอย่างไรได้บ้าง นายกฯก็บอกว่าสัญญาณก็ไปอยู่ดี แต่ถ้าจะเรียกหรือเชิญคงไม่เหมาะสม และความจริงสื่อมวลชนหลายที่เสนอไปแล้วว่า นายกฯ ได้ส่งสัญญาณอย่างไรไปยังพรรคร่วมรัฐบาลในเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ นายกฯได้ให้ผมทำไทม์ไลน์การแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าตามกฎหมายจะเดินอย่างไร นับแต่ที่เปิดสภาสมัยที่สอง ส่วนเหตุแทรกซ้อนไม่อาจคาดคิด เมื่อเปิดสมัยประชุมในเดือน พ.ย. ก็รับหลักการวาระที่หนึ่ง ตั้งคณะ กมธ. ส่วนสภาจะตั้ง กมธ.เต็มสภาหรือไม่ก็แล้วแต่” นายวิษณุ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนายวิษณุ กำลังชี้แจง นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประท้วงให้นายวิษณุ ถอนคำพูดที่ระบุว่าผู้ชุมนุมมีการเรียกร้องอิสรภาพให้ฮ่องกง เพราะไม่เป็นความจริง ถือเป็นการใส่ร้ายผู้ชุมนุม โดยขอให้ถอนคำพูด พร้อมตำหนิว่า นายวิษณุ จะพูดมั่วๆ ซั่วๆ อย่างนี้ไม่ได้ ส่งผลให้ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ประท้วงว่า นางอมรัตน์ ออกมาเรียกร้องเหมือนกับเป็นหัวหน้าม็อบ จึงทำให้ นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ขอให้ นายชัยวุฒิ ถอนคำพูด ซึ่งนายชัยวุฒิก็ยอมถอน แต่ขอเปลี่ยนเป็นผู้ควบคุมม็อบที่อยู่บนหลังคารถ พร้อมระบุว่า ตัวเองมีคลิปยืนยันหากประธานจะยอมให้เปิด แต่นางอมรัตน์ไม่ยินยอม จะให้นายชัยวุฒิ ถอนคำพูดอีกครั้ง แต่นายพรเพชรพยายามไกล่เกลี่ยจนสำเร็จ และให้ นายวิษณุ ชี้แจงต่อจนจบ

จากนั้น นายวิษณุ ได้กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อว่า เมื่อตั้ง กมธ.อาจตั้งเต็มสภาเพื่อเป็นทางออกหนึ่ง ซึ่ง กมธ.พิจารณาไม่เกิน 45 คน ประกอบด้วย ส.ส. และ ส.ว.เท่านั้น เสร็จแล้วต้องทิ้งไว้ 15 วัน ก็คงจะในช่วงเดือน ธ.ค. เชื่อว่า สามวาระก็น่าจะเสร็จสิ้นได้ แต่ยังประกาศใช้ไม่ได้อยู่ดี เพราะต้องมีการออกเสียงประชามติ โดยต้องเป็นไปตามที่ พ.ร.บ.ว่าด้วยการลงประชามติ โดยร่าง พ.ร.บ.ที่ กกต.ร่าง และส่งมาเมื่อเช้า ตนทราบว่า มีการตรวจเสร็จสิ้นทุกมาตราแล้ว น่าจะส่งเข้าสภาได้ในสัปดาห์หน้า โดยจะขอพิจารณาร่วมสองสภา ซึ่งจะเร่งรัดตัดขั้นตอนไปได้ คงใช้เวลาช่วงเดือน พ.ย.คู่ขนานไปกับพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ จากนั้นนำร่างกฎหมายออกเสียงที่สภาเห็นชอบขึ้นทูลเกล้าฯ ทรงมีเวลาพิจารณา 90 วัน แล้วแต่พระมหากรุณาโปรดเกล้าฯลงมาเมื่อไหร่ จากนั้นจึงเอาร่างรัฐธรรมนูญไปสู่การทำประชามติ แต่หากมีการตั้ง ส.ส.ร.ก็ต้องดำเนินการคัดเลือกแล้ว รูปแบบจะอย่างไรก็แล้วแต่ กมธ.จะพิจารณาในวาระ 2

นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ส่วนข้อเสนอ 3 ข้อ ที่ยังไม่มีการดำเนินการ คือ การลาออกของนายกฯ การยุบสภา และการปฏิรูปสถาบัน ซึ่งการปฏิรูปสถาบันไม่ทราบและไม่เข้าใจจริงๆ ว่า หมายถึงอะไร จึงอยากฟังการอภิปรายของสมาชิกให้ชัดเจน ส่วนการยุบสภานั้น มีการพิจารณาเหมือนกัน แต่สภามีความผิดอะไรถึงจะยุบ เพราะจะต้องเกิดจากความขัดแย้งอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมาถึงจะยุบสภาได้ แต่ถ้าเป็นความประสงค์และเจตนาร่วมจากหลายฝ่าย นายกฯคงต้องหารือผู้เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนประเด็นนายกฯลาออก ทางฝ่ายกฎหมายได้ทำข้อเสนอมาว่าหากลาออกแล้ว จะหานายกฯคนใหม่จากขั้นตอนใด ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 172 มีเงื่อนไขว่า นายกฯคนใหม่ต้องมาจากรายชื่อที่เสนอเอาไว้ตั้งแต่ครั้งเลือกตั้ง ขณะนี้มีอยู่ 5 คน จากเดิม 7 คน โดยตัด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ พล.อ.ประยุทธ์ ออกไป แต่คนที่จะมาเป็นนายกฯจะต้องได้คะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งสองสภาที่มีอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเมื่อเช้าประธานได้รายงานว่า ที่ประชุมมีสิทธิ์ออกเสียงได้ 732 คน ซึ่งกึ่งหนึ่ง ก็คือ 366 เสียง ต่อให้ ส.ว.งดออกเสียงทั้งหมดตามที่หลายคนเรียกร้อง ก็ต้องหากันมาให้ได้ 366 เสียง หากไม่ได้ก็ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ก็จะเป็นข้อกฎหมายว่า หากถึงทางตันแล้วจะทำอย่างไร

“หลายคนเสนอว่า ขอให้พรรคพลังประชารัฐเทเสียงให้พรรคร่วมค้านยกใครขึ้นมาเป็นนายกฯ ก็สามารถทำได้ แต่ก็ต้องคำนึงเรื่องสิทธิของแต่ละฝ่ายด้วย เพราะนายกฯก็ได้รับเสียงเรียกร้องเหมือนกันว่าอย่าออก ก็ต้องพิจารณาว่าจะอย่างไรต่อไป ส่วนอีกข้อเสนอที่ทั้งสามฝ่ายเสนอมาในที่ประชุม คือ การทำประชามติถามประชาชน ก็ต้องถามว่าจะถามอย่างไร เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 166 บัญญัติห้ามทำประชามติออกเสียงเรื่องตัวบุคคล แต่หากจะหาช่องทางอื่นที่แยบคายและแนบเนียนก็น่าจะพิจารณาได้ โดยนายกฯก็คงจะมีการนำเรียนต่อประธานสภาในตอนท้ายว่ามีความเป็นไปได้อย่างไร” นายวิษณุ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น