สลค.ส่งมติ ครม.ร่ายยาว 3 ข้อ “นายกฯ” ส่งถึงประธานรัฐสภา อ้างสารพัดสถานการณ์นำไปสู่ขอเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ตามมาตรา 165 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
วันนี้ (22 ต.ค.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เวียนหนังสือถึงสำนักงานประธานรัฐสภา ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อ 20 ต.ค. 2563 ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ตามมาตรา 165 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ทั้งนี้ ในสรุป 3 ข้อหลักของหนังสือดังกล่าว มีการอ้างถึงปัญหาสำคัญที่เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดย ครม.เห็นสมควรเปิดรับฟังความเห็นจาก ส.ส. และ ส.ว.
โดยข้อ 1 อ้างถึงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่ประกาศในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ซึ่งมีอยู่แล้ว และมาตรการต่างๆ
“แต่กลับมีการนัดชุมนุมในทางการเมือง ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัดในลักษณะแออัดประชิดตัวอยู่บ่อยครั้ง ประกอบกับฝนที่ตกหนักและน้ำป่าไหลหลาก ทำให้ฝ่ายสาธารณสุขเกรงจะเกิดโรคระบาดได้ง่าย” หนังสือระบุตอนหนึ่ง
ตอนหนึ่งในข้อที่ 2 หนังสือยังอ้างถึงเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อ 14 ต.ค.ที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เกิดเหตุกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้ขวางทางและหยุดขบวนเสด็จฯ และอ้างว่ามีการรุมล้อมและมีผู้ตะโกนด้วยถ้อยคำหยายคาย รุนแรง
“เป็นสาเหตุที่นายกฯ ต้องอาศัยอำนาจตามมาตรา 5 และมาตรา 13 ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่ กทม.ตั้งแต่ 15 ต.ค.เป็นต้นไป”
ในส่วนของข้อ 3 ในหนังสือเขียนว่า แม้ตำรวจจะเข้าควบคุมสถานการณ์และควบคุมตัวบุคคลบางคนที่มีบทบาทสำคัญในการยุยงและก่อให้เกิดกระทำผิด ทั้งบริเวณสี่แยกราชประสงค์ สี่แยกปทุมวัน ศูนย์การค้า และสถานีขนส่งผู้โดยสารหลายแห่งใน กทม.และต่างจังหวัด จนเกิดความวิตก
ท้ายของข้อ 3 หนังสือยังอ้างถึงสาเหตุของการใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าสกัดและเรียกคืนพื้นที่ รวมถงการจาบจ้วงบุคคลอื่นของการชุมนุมบางพื้นที่ เป็นต้น