“จักรพล” ลั่นเดินหน้าดัน “กระทรวงชาวนา” แก้ปัญหาเกษตรกรอย่างยั่งยืน

“จักรพล” ส.ส.เชียงใหม่ เพื่อไทย รับเรื่องร้องเรียนชาวนา เหตุราคาข้าวตกต่ำกราวรูด กระตุกหน่วยงานรัฐหาทางแก้ปัญหาที่วนลูปมาทุกปี ผุดไอเดียตั้ง “กระทรวงชาวนา” แก้ปัญหาทั้งวงจรอย่างยั่งยืน

วันนี้ (15 ต.ค.63) นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังเป็นเป็นประธานเปิดการสัมมนาโครงการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม พร้อมทั้งบรรยายพิเศษ โดยมีตัวแทนนักศึกษาของสถาบันเข้าร่วมสัมมนาประมาณ 300 คน ที่หอประชุมวิทยาลัยเทคนิคสันกำแพง อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ แล้วนั้น ตนได้มีโอกาสรับข้อร้องเรียนจากกลุ่มเกษตรกรทั้งแปลงใหญ่และแปลงเล็ก ใน อ.แม่ออน, อ.ดอยสะเก็ด และ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เนื่องจากขณะนี้ราคาข้าวตกต่ำเป็นอย่างมาก

นายจักรพล กล่าวว่า โดยกลุ่มชาวนามีข้อเรียกร้องในการประกันราคา หรือการรับซื้อในราคากิโลกรัมละ10 บาท ขณะที่ปัจจุบันราคาต่ำกว่ากิโลกรัมละ 6 บาท ทั้งปัญหาต้นทุนที่สูงขึ้น ความชื้นที่ไม่
ได้ตามความต้องการ คู่แข่งของผู้ผลิตข้าวจากประเทศอื่น คุณภาพข้าว เป็นต้น ในช่วงบ่ายวันเดียวกันจึงได้ไปฟังคำชี้แจงจากส่วนกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่, เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ และผู้อำนวยการธนาคารเพื่อเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) เพื่อรับทราบแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกร

นายจักรพล กล่าวต่อว่า ปัญหาลักษณะนี้เป็นมาทุกปี ทุกหน่วยงาน ไม่ว่า กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการคลัง ควรบูรณาการและเข้ามาโอบอุ้มและใส่ใจมากกว่านี้ เพราะเห็นได้ว่า แม้จะเป็นปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วน แต่นโยบายช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐยังไม่คลอดออกมา ดังนั้นทางพรรคเพื่อไทยและตนจะเร่งขับเคลื่อน และมาผลักดันนโยบายเพื่อช่วยเหลือโอบอุ้มชาวเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ซึ่งถือเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ให้ได้โดยเร็วและยั่งยืน ทั้งนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะตั้งกระทู้สดในการเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 1 พ.ย. 2563 เพื่อผลักดันการพิจารณารับซื้อราคาข้าวให้เหมาะสม นอกจากนี้จะประสานไปยัง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ พิจารณาหาทางช่วยเหลืออีกทางหนึ่งด้วย

“ส่วนตัวผมจะตั้งกระทู้ และจะหารือๆในสภาผู้แทนราษฎร จะตามติดและจะผลักดันให้เกิด "กระทรวงชาวนา (Farmer Ministry)" เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกระดูกสันหลังของชาติอย่างยั่งยืนต่อไป” นายจักรพล กล่าว.