รองโฆษกรัฐบาล เผย “ประยุทธ์” ลุยปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เน้นฐานราก-ลงทุนขนาดใหญ่ เดินหน้าศึกษาแลนด์บริดจ์เชื่อมทะเลชุมพร-ระนอง
วันนี้ (11 ต.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เดินหน้าปรับโครงสร้างเศรษฐกิจโดยเน้นความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก พึ่งพาตนเอง พร้อมมุ่งที่การลงทุนขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยขณะนี้กระทรวงคมนาคมกำลังทำการศึกษาโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน หรือแลนด์บริดจ์ ระหว่างท่าเรือจังหวัดชุมพรกับท่าเรือจังหวัดระนอง ระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร คาดว่าจะช่วยย่นเวลาเดินทางของเรือสินค้าจากเส้นทางปกติได้กว่า 2 วัน
น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์จะใช้เวลาศึกษาประมาณ 1 ปี ศึกษาแล้วจะสามารถเริ่มโครงการได้ภายใน 2 ปีครึ่ง จากแผนจะมีการสร้างท่าเรือน้ำลึก 2 ฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน ที่จังหวัดชุมพรและระนอง เชื่อมต่อกันด้วยการสร้างเส้นทางขนส่งทางบก โดยมีทั้งรถไฟทางคู่ และทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) ซึ่งจะทำให้เรือสินค้าที่ใช้เส้นทางปกติหันมาขนส่งเส้นทางนี้แทน คาดว่าจะส่งผลในทางด้านเศรษฐกิจมหาศาล ก่อให้เกิดการจ้างงานจำนวนมาก
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้แนวทางการศึกษาโครงการ โดยต้องดูอย่างสมบูรณ์ รอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นความคุ้มค่า ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และความเห็นของประชาชนในพื้นที่ โดยโครงการแลนด์บริดจ์ เป็นโครงการที่สอดคล้องกับแผนขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน (Southern Economic Corridor : SEC) ที่ครอบคลุม 4 จังหวัดภาคใต้ตอนบน คือ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ซึ่งจะนำไปสู่การเชื่อมโยงการขนส่งและคมนาคมอย่างครบถ้วนต่อโครงการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ด้วย
น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ยุทธศาสตร์สำคัญของโครงการนี้คือการเชื่อมโยงระหว่าง 2 ภูมิภาค คือ การเชื่อมตะวันออกกลางซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมัน ยุโรปซึ่งเป็นตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ ไปสู่เอเชียตะวันออก เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ฯลฯ ซึ่งเปรียบเสมือนผู้บริโภคน้ำมันและโรงงานโลกโดยผ่านไทย โดยโครงการนี้มีแผนที่จะร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้แนวทางการร่วมลงทุนว่าภาคเอกชนที่สนใจต้องร่วมลงทุนทั้งท่าเรือน้ำลึก รถไฟทางคู่ และมอเตอร์เวย์