ป.ป.ช.ชี้มูล “นิพนธ์ บุญญามณี” ผิดมาตรา 157 ไม่อนุมัติเบิกจ่ายงบฯ ค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ ครั้งเป็นนายก อบจ.สงขลา ส่ง อสส.ฟ้องศาล ยังไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะรับฟ้อง
วันนี้ (7 ต.ค.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. โฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ.สงขลา ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และละเลยไม่ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด มาตรา 79 พร้อมส่งสำนวน และพยานหลักฐานไปยังอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ จากกรณีที่นายนิพนธ์ละเว้นไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ 2 คัน จำนวน 50 ล้านบาท ให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด คู่สัญญา
นายนิวัติไชยกล่าวว่า แม้กระบวนการจัดซื้อรถอเนกประสงค์จะเริ่มหลังจากที่นายนิพนธ์เข้ามาดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา และมีคณะกรรมการตรวจรับ รับรองการจัดซื้อแล้ว ถือว่ากระบวนการตรวจรับสมบูรณ์ อบจ.จะต้องอนุมัติการเบิกจ่าย แต่นายนิพนธ์กลับไม่ลงนาม พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจรับอีกครั้ง ทั้งที่มีการตรวจรับไปแล้ว ซึ่งกระบวนการทดสอบก็เป็นไปตามคุณบัติที่มีการประมูล เพราะบริษัทที่ชนะการประมูลเคยซื้อขายรถแบบเดียวกันนี้กับ อบจ.มาก่อนแล้ว แต่นายนิพนธ์ก็ไม่สั่งเบิกชำระเงิน จนเกิดการฟ้องร้องต่อศาลปกครองสงขลา ซึ่งศาลพิพากษาให้ อบจ.ชำระเงินต่อบริษัท พลวิศว์ คู่สัญญา พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 รวมเป็นเงินกว่า 52 ล้านบาท จึงถือเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่รัฐ
ส่วนกรณีที่นายนิพนธ์อ้างมีการฮั้วประมูลกันนั้น นายนิวัติไชยชี้แจงว่า ในการตรวจรับรถครั้งแรกยังไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่ามีการฮั้ว ดังนั้น นายนิพนธ์จะต้องปฏิบัติตามระเบียบ คือ การเบิกจ่ายชำระเงิน และกรณีที่นายนิพนธ์ สั่งให้มีการทดสอบรถใหม่ในครั้งที่ 2 นั้น ก็เกิดขึ้นก่อนที่จะมีผู้ร้องเรียนว่ามีการฮั้ว รวมถึงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างก็อยู่ในช่วงปี 2556-2557 แต่กลับมีการแจ้งความดำเนินคดีเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา
นายนิวัติไชยยังไม่ยืนยันด้วยว่านายนิพนธ์จะต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ รมช.มหาดไทยหรือไม่ เนื่องจากกฎหมาย ป.ป.ช.ให้อำนาจ ป.ป.ช.สามารถสั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐยุติการปฏิบัติหน้าที่ก่อนได้ แต่ตำแหน่งที่นายนิพนธ์ถูกกล่าวหานั้นเป็นตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา ที่นายนิพนธ์พ้นการปฏิบัติหน้าที่มาแล้ว จึงจะต้องรอศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบพิจารณา เมื่อประทับรับฟ้องแล้วจะให้นายนิพนธ์ยุติการปฏิบัติหน้าที่รมช.มหาดไทยหรือไม่
ส่วนที่นายนิพนธ์ย้ำว่ามีปัญหาในกระบวนการประมูลเพราะมีการฮั้วกันระหว่าง 2 บริษัทที่ฮั้วกัน นายนิวัติไชยชี้แจงว่า หากมีการฮั้วกันเกิดขึ้นจริง นายนิพนธ์ในฐานะนายก อบจ.สงขลา ก็ต้องคืนรถที่มีการจัดซื้อจัดจ้างมา และเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งกระบวนการชี้มูลของ ป.ป.ช.ก็ดำเนินการตามอำนาจและหน้าที่ และยังต้องรออัยการสูงสุดว่าจะพิจารณาส่งฟ้องต่อศาลหรือไม่ ทั้งนี้ คาดว่าหลังมีมติจะสามารถส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดได้ภายใน 30 วัน