xs
xsm
sm
md
lg

เดือดปุดๆ! ทัวร์ลง “ทนายคลายทุกข์” โผล่รับงานสารสาสน์-โต้แทนครูทารุณเด็ก โซเชียลฯรับไม่ไหว ใครช่วยคดีละเมิดสิทธิเด็ก **เมาท์กันแซดลานคนเมือง ขอให้ย้าย “3 ผอ.เขต” ไม่ได้ “สิระ” เลยยกปัญหาน้ำท่วมมาไล่ “ผู้ว่าฯ อัศวิน” !!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว



**เดือดปุดๆ! ทัวร์ลง “ทนายคลายทุกข์” โผล่รับงานสารสาสน์-โต้แทนครูทารุณเด็ก โซเชียลฯรับไม่ไหว ใครช่วยคดีละเมิดสิทธิเด็ก

จุดกระแสความพีกขึ้นมาอีกรอบ จนกลายเป็นดรามาประจำวันบนโลกโซเชียลฯ ตามด้วยการเกิด “สงคราม” ระหว่างอาชีพทนายด้วยกันอย่างดุเดือด จากกรณี “ทนายเดชา” เดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ เป็นที่ปรึกษากฎหมายให้เครือโรงเรียนสารสาสน์อย่างเป็นทางการ พร้อมนำ “ครูจุ๋ม” น.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง ครูพี่เลี้ยงสารสาสน์ราชพฤกษ์ ที่กำลังเป็นประเด็นสังคมอย่างหนักจากพฤติกรรมทารุณเด็ก เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ปกครองเด็กโต้กลับ
เรื่องพฤติกรรม “ครูโรงเรียนสารสาสน์” ขณะนี้ ต้องบอกว่า สังคมให้ความสนใจติดตามกันอย่างใกล้ชิด โดยมีผู้ปกครองแจ้งความแล้ว 32 ราย 58 คดี กับครูและพี่เลี้ยง 13 คน ทั้งอัยการสูงสุด และทนายความหลายคนให้การช่วยเหลือผู้ปกครอง ดูแลเรื่องคดี และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย
กระบวนความยุติธรรมที่ดูเหมือนกำลังจะเดินไปข้างหน้า พอมีข่าวว่า “ทนายเดชา” พา “ครูจุ๋ม” ฟ้องกลับผู้ปกครอง โซเชียลฯ เลยเดือดปุดๆ เพราะต้องไม่ลืมว่า เหตุการณ์ทำร้ายเด็ก กระทบจิตใจพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็ก เรื่องว่าแย่อยู่แล้ว เมื่อ “ทนายเดชา” เปิดตัวมาแบบนี้จึงแย่หนัก ชาวโซเชียลฯ พร้อมจัด “ทัวร์ลง” เพจของทนายเดชารัวๆ พลัน เพราะรับไม่ได้ที่ทนายคลายทุกข์รับงานจากจำเลยของสังคม ...

เดชา กิตติวิทยานันท์
บางคนก็บอกว่า ผิดหวัง จะเลิกติดตาม ก่นประณามต่างๆ นานา จนเจ้าตัวแม้จะออกมาประกาศไม่กลัวทัวร์ลง แต่ก็โพสต์เฟซบุ๊ก ชี้แจงหลายครั้ง เช่นว่า งานนี้เป็นที่ปรึกษาโรงเรียนสารสาสน์ ส่วนพี่เลี้ยงที่ถูกดำเนินคดี ผมเข้าไปช่วยเหลือเรื่องคดี ในฐานะส่วนตัว แยกกันคนละส่วน และ “กราบเรียน FC ทนายคลายทุกข์ ผมประกอบวิชาชีพทนายความมา 35 ปี ไม่เคยทำผิดกฎหมายหรือศีลธรรม ขอให้มั่นใจได้... ขอบคุณครับ”
นอกจากยืนซดกับคณะทัวร์ “ทนายเดชา” ยังไลฟ์สดใช้ถ้อยคำที่คนฟังแล้วต้องถอนหายใจ อย่าง “ถามว่ามีโรงเรียนไหนดีกว่าสารสาสน์?” โจรก็ต้องการทนายฉันใด เจ้าของโรงเรียนดังและครูพี่เลี้ยงที่ทำร้ายเด็กก็ต้องการทนายว่าความให้ เป็น “ความปกติของวิชาชีพทนาย” หรือยกกรณีพฤติกรรม “เอาถุงดำคลุมเด็ก ครูแค่หยอกเล่น”
ว่ากันว่า งานนี้เล่นเอาเหล่าเพื่อนทนายทั้งหลายโดยเฉพาะทนายดังๆ ทางโซเซียลฯ ดาหน้าออกมาตอบโต้ “ทนายเดชา” ชนิดที่ว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

รณณรงค์ แก้วเพ็ชร
“รณณรงค์ แก้วเพ็ชร” แห่งทนายคู่ใจ ได้โพสต์เชิญชวนประชาชน เลิกติดตาม เลิกกด like เพจทนายความที่สนับสนุนการทารุณกรรมเด็ก พร้อมกับติดแฮชแท็ก #แบนธุรกิจที่สนับสนุนการทารุณกรรมเด็กไม่มีทางสู้ บอกเพื่อนและคนรู้จักให้ช่วยกัน
“ทนายนิด้า” หรือ น.ส.ศรันยา หวังสุขเจริญ ทนายความชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก “ทนายนิด้า” ระบุว่า “ครูจุ๋มแจ้งจับผู้ปกครอง ที่ตบหน้าและถีบกลางวงแถลงข่าว ท่านผู้ปกครองที่ถูกแจ้งจับถ้ามีทนายอยู่แล้วก็แล้วไป แต่ถ้าไม่มี ข้าพเจ้ายินดีเสนอตัววว ฮ่าาาาาา”
ขณะที่เฟซบุ๊ก “ทนายเกิดผล แก้วเกิด” โพสต์ข้อความ “ทีมทนายความ Avengers #ยินดีช่วยผู้ปกครองที่โดนแจ้งความ # และไม่รับคดีผู้ต้องหาทารุณเด็ก”
และ ...“อัจฉริยะ เริองรัตนพงศ์” ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โพสต์ว่า #ดังได้ก็ดับได้ 35 ปีไม่มีความหมาย หากไปฟ้องผู้ปกครอง ชมรมไม่เห็นด้วย อย่าเห็นแก่เงินจนลืมคุณธรรม ถึงจะเป็นเพื่อนกันก็เตือนด้วยความหวังดี โรงเรียนค่าเทอมแพง จ้างครูไม่มีคุณภาพ ทำร้ายเด็ก แทนที่จะสำนึกแสดงความรับผิดชอบ บัดซบจริงๆ

ศรันยา หวังสุขเจริญ
เรื่องนี้ ผิดหรือถูก? จริงอยู่ แม้จะบอกว่าเป็นปกติวิชาชีพทนาย ย่อมมีสองฝั่ง ฝั่งจำเลย กับฝั่งโจทก์ อยู่ที่ว่าใครจะติดต่อว่าความให้ แต่การที่ “ทนายเดชา” เลือกสารสาสน์กับครูที่มีหลักฐานเป็นคลิปทำร้ายทารุณเด็กเป็นลูกความนั้น ทางหนึ่งปฏิเสธกระแสสังคมคงไม่ได้ สังคมย่อมมีเครื่องหมายคำถามว่า ทำไปเพื่อเงิน หรือจรรยาบรรณกันแน่ ?
และ การที่ทนายคนอื่นๆ หรือสังคมกำลังโดดเดี่ยว “ทนายเดชา” นี่ก็น่าจะได้คำตอบว่า คนส่วนใหญ่คิดอย่างไร ?
ใจเขาใจเราถ้าเป็นลูกหลานของเรา จะรู้สึกอย่างไร ?
โดยเฉพาะคดีละเมิดสิทธิเด็ก ไม่มีใครรับไหว ..รับไม่ได้กันจริงๆ งานนี้ !!



**เมาท์กันแซดลานคนเมือง ขอให้ย้าย3 ผอ.เขต ไม่ได้สิระเลยยกปัญหาน้ำท่วมมาไล่ผู้ว่าฯ อัศวิน !!

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กรุงเทพฯฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำท่วมขัง “รอระบาย” กระจายไปทั่ว ซึ่งเป็นปัญหาอยู่คู่กรุงเทพฯมาตลอด บางแห่งก็ระบายได้เร็ว บางแห่งระบายช้า ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่และการบริหารจัดการ แต่ที่แน่นๆ คือ เมื่อน้ำท่วม ประชาชนเดือดร้อน คนแรกที่จะต้องตกเป็นจำเลย คือ “ผู้ว่าฯ กทม.”
ดูเหมือน “สิระ เจนจาคะ” ส.ส.กทม. พลังประชารัฐ จะจับจุดนี้ได้ดี ประกอบกับช่วงนี้ข่าวคราวเริ่มห่างหายไปจากหน้าสื่อ หลังยุติศึกกับ “เต้” มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ก็เลยถือโอกาสออกมาเบ่งกล้าม โชว์พาว ถล่ม “ผู้ว่าฯ อัศวิน” พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง แบบไม่ยั้ง...บอกประชาชนเดือดร้อน แต่ไม่รู้ผู้ว่าฯไปอยู่ไหน ไม่มีใครเห็นเงา ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับความทุกข์ของประชาชน เพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ตลอดเวลา 4-5 ปี ที่ผ่านมา ก็ไม่เห็นมีผลงานอะไร ดังนั้น ควรจะลาออกไป เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่มีความสามารถมาทำหน้าที่แทน
ไม่เพียงออกมาประกาศไล่อยู่คนเดียว “สิระ” ยังชักชวนคนในโซเชียลฯ มาร่วมไล่ โดยใช้เว็บไซต์ change.org เป็นสื่อกลางชักชวนประชาชนให้มาร่วมลงชื่อไล่ผู้ว่าฯอัศวินกัน บอกว่าถ้าได้ครบ 5 หมื่นรายชื่อ จะเอาไปยื่นให้นายกฯ เป็นการยืนยันว่า คนกรุงเทพฯ อยากเลือกผู้ว่าฯ ใหม่แล้ว
ขณะที่ “ผู้ว่าฯ อัศวิน” ก็ไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ ชี้แจงว่า เมื่อทราบข่าวจากกรมอุตุฯ ว่า ฝนจะตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯ ก็ได้กำชับไปยังผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต ว่า ในช่วงฝนตก ต้องมีเจ้าหน้าที่ประจำจุด เครื่องสูบน้ำต้องเอาออกมาใช้ทุกเครื่อง ต้องระดมกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่ ... แต่บางจุดที่ “ระบายช้า” เพราะมีขยะ เศษวัสดุก่อสร้าง อุดตัน กีดขวางทางน้ำไหล อย่าลืมว่าในพื้นที่กรุงเทพฯ กำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าถึง 6 สาย ยังมีการก่อสร้างอื่นๆ ทั้งคอนโดฯ อพาร์ตเมนต์ กระจายอยู่ทั่วกรุง

สิระ เจนจาคะ
ส่วนที่ “ส.ส.สิระ” ออกมาทำแคมเปญล่าชื่อขับไล่นั้น “ผู้ว่าฯ อัศวิน” บอกว่า ก็ดี แต่ถ้าไม่ครบ 5 หมื่นชื่อก็บอกมา จะช่วยหาให้ และที่โวยวายว่าผู้ว่าฯไม่มีผลงาน ... “ก็มัวแต่ไปหาเรื่องทะเลาะกับคนโน้น คนนี้ เลยไม่รู้ว่าผมทำอะไรไปบ้าง ...ผมพิมเสน ไม่ชอบแลกกับเกลือ”
มีการวิเคราะห์กันว่า ที่ “ส.ส.สิระ” ออกมาเปิดหน้าชนกับ “ผู้ว่าฯ อัศวิน” น่าจะได้รับสัญญาณจากผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเตรียมหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่ เพราะพรรคต้องส่งคนลงสมัครแน่ ก็เลยถือโอกาสเอาช่วงที่น้ำท่วมนี่แหละมาเป็นประเด็นหาเสียง ตุนคะแนนไว้ก่อน
แต่ก็มีคนเห็นต่างว่า แม้จะมีแนวโน้มว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ใกล้เข้ามา แต่เสียงปี่กลองยังไม่เริ่ม ยังไม่มีการกำหนดวันที่แน่นชัดว่าเมื่อไร และทางพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังไม่ได้เปิดตัวผู้สมัคร ...อีกทั้ง “ผู้ว่าฯ อัศวิน” ก็เป็น “ผู้ว่าฯ มาตรา 44” ได้รับการแต่งตั้งมาจาก คสช. ซึ่งก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค ถ้าอยากให้ไปก็แค่บอกกันคำเดียว ไม่เห็นจะต้องมาใช้ “สิระ” ออกแรงขับไล่ให้เสียผู้ใหญ่
เพื่อไขข้อข้องใจ “ข่าวปนคนฯ” เลยไปเดินเล่นแถวๆ “ลานคนเมือง” เพื่อสืบเสาะเบาะแส ก็บังเอิญได้ยินคนแถวนั้น จับกลุ่มเมาท์กันถึงเรื่องนี้พอดี ...ว่ากันว่า ที่ “ส.ส.สิระ” ออกมาติดเครื่องชน “ผู้ว่าฯ อัศวิน” มีสาเหตุมาจาก “ท่าน ส.ส.” ไม่ปลื้ม “ผอ.เขตบางเขน-หลักสี่-จตุจักร” ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งของตัวเอง เพราะขออะไรไปก็ไม่ตอบสนอง ไม่มีแบบว่า... “ได้ครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับท่าน”... ก็เลยออกปากขอให้ “ผู้ว่าฯ อัศวิน” ช่วยย้าย ผอ.ทั้ง 3 เขตนี้ ให้หน่อย แล้วเอาคนที่ตัวเองเสนอมานั่งแทน จะได้วางแผน สั่งการสร้างฐานเสียงให้มั่นคง เพราะต่อไปก็จะมีการเลือกตั้ง ส.ก. ถ้าได้คนของตัวเองมาคุมพื้นที่ ก็น่าจะรับประกันได้ถึงการเลือกตั้ง ส.ส.สมัยหน้า ... แต่ “ผู้ว่าฯ อัศวิน” ไม่เออออห่อหมกด้วย ก็เลยเกิดเรื่อง !!
...จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้... แต่ฟังเขาเมาท์กันแล้วก็ให้รู้สึกว่าน่าจะเข้าเค้า !! เมื่อไปย้อนดูถึงพฤติกรรมของ “ท่าน ส.ส.” ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งที่ภูเก็ต หรือที่ในสภาฯ ก็เห็นว่ามักจะใช้ “ตำแหน่งหน้าที่” ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่ง ส.ส. หรือประธานกรรมาธิการ เบ่งกล้าม โชว์พาว สร้างข่าวให้ฮือฮา อ้างเรื่องผลประโยชน์ประชาชนนำหน้า ถือว่าเป็นลีลาที่ถนัด
แต่เชื่อเถอะว่า เดี๋ยวก็เรื่องเงียบ เพราะทั้งคู่ต่างก็มี “ผู้ใหญ่” ที่อยู่ในสายเดียวกัน น่าจะตีธงสั่งหยุดได้ ปล่อยไปก็อายชาวบ้านเปล่าๆ !!




กำลังโหลดความคิดเห็น