โฆษก ปชป.ย้ำกรณี รมช.มท.มีหลักฐานชัดรักษาผลประโยชน์แผ่นดิน ไม่มีการทุจริตจัดซื้อ เกิดก่อนรับตำแหน่งนายก อบจ. เตรียมยื่น ป.ป.ช.ขอสอบละเอียดเพื่อความเป็นธรรม
วันนี้ (4 ต.ค.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีคดีของนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่าในหลักการแล้วก็ยอมรับในกระบวนการตรวจสอบของกระบวนการยุติธรรม ทุกอย่างว่ากันไปตามกระบวนการ แต่สำหรับข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าวนี้หากได้เห็นรายละเอียดในสำนวนแล้วต้องบอกว่านายนิพนธ์มีเจตนาอันแน่แน่วในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติให้แก่แผ่นดิน โดยไม่มีการทุจริตใดๆ ทั้งสิ้น การจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ วงเงิน 52 ล้านนั้น เกิดขึ้นก่อนที่นายนิพนธ์จะเข้ารับตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา
เมื่อนายนิพนธ์เข้ารับตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา มีบริษัทร้องเรียนโครงการดังกล่าวต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ตรวจการแผ่นดิน และร้องเรียนต่อนายนิพนธ์ว่ามีความไม่โปร่งใส มีการฮั้วและล็อกสเปก จึงมีกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยทางจังหวัดได้สั่งให้นายนิพนธ์ดำเนินการตรวจสอบ ต่อมา อบจ.สงขลา จึงได้ตั้งกรรมการสอบ
เมื่อข้อเท็จจริงยังไม่แล้วเสร็จ กรรมการชุดดังกล่าวจึงมีความเห็นว่าการจ่ายเงินควรดำเนินการหลังการตรวจสอบว่าการประมูลจัดซื้อได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายหรือไม่
เมื่อมีผลการสอบออกมาก็ชัดเจนว่าการประกวดราคาและการจัดซื้อมีเจตนาไม่สุจริต เป็นการสมยอมกันในการเสนอราคา ทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรม ทำให้การประกวดราคาและการจัดซื้อรถตกเป็นโมฆะ และหลักฐานดังกล่าวนี้ก็ได้ส่งไปยังศาลปกครอง ผู้ตรวจการแผ่นดิน และ ป.ป.ช.ทราบ ตามกระบวนการตรวจสอบแล้ว และขณะนี้ก็อยู่ในชั้นพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด
จากข้อเท็จจริงทั้งหมดจะเห็นได้ว่าสาเหตุที่นายนิพนธ์ ในฐานะนายก อบจ.สงขลาขณะนั้น ไม่อนุมัติให้จ่ายเงินค่าจัดซื้อรถ เป็นการดำเนินการที่ชอบด้วยกฎหมายและระเบียบด้วยความชอบธรรมทุกประการ โดยมีเจตจำนงที่ชัดเจนคือการปกป้องประโยชน์ของประเทศ เพราะหากมีการจัดซื้อที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและต่อมาหากได้มีการอนุมัติจ่ายเงินไปนายนิพนธ์ก็จะต้องรับผิด และจะเกิดความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดินได้
ขณะนี้จึงได้เตรียมข้อมูลที่เป็นพยานหลักฐานที่ยังไม่ปรากฏในสำนวนของ ป.ป.ช. เพื่อชี้ให้เห็นถึงความไม่ชอบด้วยกฎหมายของการจัดซื้อดังกล่าวซึ่งเป็นหลักฐานที่ปรากฏชัดจากต่างประเทศที่มีการยื่นเป็นบริษัทคู่เทียบที่เข้าประมูลการจัดซื้อดังกล่าว และเป็นข้อมูลที่ไม่ตรงตามความเป็นจริง มีบุคคลที่เกี่ยวข้องกันอีกหลายคน
ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย จะขอให้ ป.ป.ช.ได้พิจารณาพยานหลักฐานโดยละเอียด ซึ่งนายนิพนธ์จะยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ ป.ป.ช.ด้วย เพื่อให้มีการพิจารณาหลักฐานต่างๆ อย่างครบถ้วนในต้นสัปดาห์นี้ต่อไป