องคมนตรี ลงพื้นที่ติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่ราษฎรบ้านบึงกระโตน ต.ประทาย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา วันนี้มีน้ำใช้สมบูรณ์จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยในระหว่างตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนครราชสีมา ณ โครงการผันน้ำไปเติมอ่างเก็บน้ำบึงกระโตน (ขุดลอกอ่างเก็บน้ำโศกผึ้ง) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลประทาย อ.ประทาย จังหวัดนครราชสีมาว่า โครงการฯ นี้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2552 ตามที่ราษฎรบ้านบึงกระโตน ขอพระราชทานโครงการ ฯ เนื่องจากขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราโชบายให้ติดตามความคืบหน้าของโครงการฯ ซึ่งอ่างเก็บน้ำบึงกระโตนเป็นอ่างเก็บน้ำที่สร้างมานานแล้ว ในระยะหลังใช้ประโยชน์ได้น้อยมากเนื่องจากในหน้าแล้งน้ำจะแห้ง หลังจากส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกันหาแนวทางแก้ไขพบว่าสามารถผันน้ำจากที่แห่งอื่นมาเก็บไว้ในอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ และสามารถใช้ประโยชน์ในการอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรของประชาชนในพื้นที่ได้มากขึ้น
ในการดำเนินการนั้น แบ่งโครงการออกเป็น 2 ขั้นตอน โดยขั้นตอนที่ 1 ได้พิจารณาน้ำจากลำน้ำ ซึ่งห่างจากที่นี้ประมาณ 10 กิโลเมตรและพอจะมีน้ำถ่ายเทมายังพื้นที่แห่งนี้ได้ แต่เนื่องจากบริเวณนี้เป็นพื้นที่ราบ จึงทำให้น้ำไม่สามารถไหลลงมายังพื้นที่ในแนวราบได้ จึงต้องสร้างฝายเพื่อยกระดับน้ำในลำน้ำขึ้นมาให้สูงขึ้นเพื่อให้ไหลลงมาด้านล่างได้ พร้อมขุดลอกลำน้ำเพื่อส่งน้ำให้ลงอ่างเก็บน้ำกระโตนได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ขั้นตอนที่ 2 ทำการขุดลอกอ่างเก็บน้ำบึงกระโตนเพื่อให้สามารถเก็บกักน้ำได้มากขึ้นและใช้ประโยชน์ได้ตลอดทั้งปี
“อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับธรรมชาติด้วยเนื่องจากบริเวณนี้ไม่มีภูเขาและไม่มีน้ำต้นทุนที่มากเพียงพอ ส่วนตอนนี้ ได้น้ำลงอ่างเก็บน้ำบ้างก็ได้จากพายุโนอึล ซึ่งเป็นพายุที่เข้ามาล่าสุดถือว่าโชคดีมีน้ำไหลลงอ่างมีน้ำให้ได้ใช้ประโยชน์” นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี กล่าว
ทางด้านนางวริศรา สียางนอก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านหนองงู ตำบลประทาย อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพื้นที่ประสบปัญหาน้ำเน่าเสียและไม่พอใช้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้เข้ามาตรวจสอบ เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว พบว่าน้ำในอ่างเก็บน้ำมีกลิ่นเหม็นและเป็นสีเขียวไม่สามารถนำมาใช้ได้ ประชาชนในพื้นที่เดือดร้อนมาก ขณะนั้นทางจังหวัด อำเภอ และ อบต. ได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการนำน้ำประปาจากการประปาชุมพวงซึ่งอยู่ใกล้กันมาช่วยเหลือ
ในช่วงนั้นอ่างเก็บน้ำจะตื้นเขิน มีเพียงร่องน้ำที่พอจะให้สัตว์เลี้ยงลงมากินได้บ้าง ต่อมาทางหน่วยงานราชการได้เข้ามาขุดลอกให้ใหม่ พร้อมเปิดเส้นทางน้ำที่ส่งมาจากฝายทางตอนเหนือของลำน้ำมาลงอ่าง ทำให้ปัจจุบันเริ่มดีขึ้นมีน้ำเติมเข้ามาลดภาวะน้ำเน่าและมีกลิ่นเหม็นได้ ซึ่งราษฎรส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา ที่ผ่านมาต้องอาศัยน้ำฝน บางรายทำสวน ทำไร่ ภายหลังจากเสร็จฤดูทำนา แต่เมื่อน้ำไม่พอก็ต้องหยุด การปลูกผักก็ไม่สามารถทำได้เพราะน้ำไม่พอ ต่อไปก็คงทำได้เพราะมีน้ำเพียงพอ
“รู้สึกดีใจที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ให้องคมนตรีเดินทางมาเยี่ยมและดูสภาพปัญหาของพื้นที่ก็ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่พระองค์ทรงเล็งเห็นความเดือดร้อนของประชาชน และขอขอบคุณองคมนตรีทั้ง 2 ท่านเป็นอย่างมาก ที่ให้ความสำคัญต่อพี่น้องประชาชนชาวบ้านนอกที่ห่างไกลความเจริญและมีปัญหาเรื่องน้ำ และให้การช่วยเหลือพร้อมเดินทางมาดูพื้นที่ในครั้งนี้” นางวริศรา สียางนอก กล่าว
โครงการผันน้ำไปเติมอ่างเก็บน้ำบึงกระโตนฯ เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามที่ราษฎรบ้านบึงกระโตนขอพระราชทานโครงการ เนื่องจากขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร โดยในปี 2557 กรมชลประทาน ได้ดำเนินการปรับปรุงคลองชักน้ำเดิม ระยะทางรวมประมาณ 7.3 กิโลเมตร จากความยาวทั้งหมด 21 กิโลเมตร เพื่อทำหน้าที่ผันน้ำจากลำห้วยแอกผ่านอ่างเก็บน้ำโศกผึ้งมาเติมยังอ่างเก็บน้ำบึงกระโตน พร้อมปรับปรุงคันดิน และก่อสร้างอาคารประกอบตามแนวคลองผันน้ำ
ต่อมาในปี 2558 ได้ดำเนินการขุดลอกอ่างเก็บน้ำโศกผึ้ง ให้มีศักยภาพในการเก็บกักน้ำเพิ่มขึ้น จากเดิมประมาณ 60,000 ลูกบาศก์เมตร เป็นประมาณ 284,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อเป็นแหล่งพักน้ำที่จะผันจากห้วยแอกไปเติมอ่างเก็บน้ำบึงกระโตน ปัจจุบัน โครงการฯ สามารถส่งน้ำช่วยเหลือราษฎรบ้านหนองคึม หมู่ที่ 8 และบ้านหนองขาม หมู่ที่ 10 ตำบลหนองพลวง อำเภอประทาย ได้มีน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค รวมทั้งยังเป็นแหล่งน้ำสนับสนุนพื้นที่เพาะปลูก จำนวน 300 ไร่ และเลี้ยงสัตว์ ทำให้ราษฎรมีน้ำกินน้ำใช้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี