xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กฉิ่ง” เต้น! สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศหาเหลือบอ้างชื่อ “ฉ.-ป.” หักหัวคิว 50% ขุดลอกแหล่งน้ำกว่า 1.8 หมื่นโครงการ จากงบกลาง 1.1 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“บิ๊กฉิ่ง” เต้น! หลังภาคประชาชนปูดชื่อ ฉ.-ป. อ้างชื่อหักหัวคิวงานขุดลอกแหล่งน้ำ จากงบกลาง 1.1 หมื่นล้าน ใน 1.8 หมื่นโครงการ จำนวน 35-50% แจงด่วนทุกจังหวัดใช้งบภัยแล้ง-น้ำท่วมโปร่งใส พบใครทุจริต-แอบอ้างชื่อให้ดำเนินการตามกฎหมาย เปิดทางดึงภาคประชาชน สถานศึกษาในพื้นที่ร่วมตรวจสอบ เผยเคยมีคำสั่งไปแล้วกลางเดือน ส.ค.ให้ผู้ว่าฯ ตรวจสอบแผนงานโครงการโดยละเอียด ส่วนโครงการขุดแหล่งน้ำเพิ่มเติม มีทั้งหน่วยงานกองทัพ-กรมการปกครอง ได้งบประมาณเพิ่มเติม

วันนี้ (28 ก.ย.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้า นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือด่วนที่สุดแจ้งแนวทางปฏิบัติไปยังทุกจังหวัด โดยในหนังสือย้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างโครงการที่ได้รับจัดสรรงบประมาณในพื้นที่ ทั้งหน่วยงานในระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ส่วนราชการส่วนกลางที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ หรือรัฐวิสาหกิจที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณตามภารกิจ ภายหลังกลุ่มธรรมาภิบาลเครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตคอร์รัปชัน เตรียมจะเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เพื่อให้ติดตามตรวจสอบและเอาผิดต่อขบวนการเก็บหัวคิวงานขุดลอกแหล่งน้ำภายใต้โครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมในพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ โดยใช้งบประมาณจากงบกลาง ปี 2563 วงเงิน 11,892 ล้านบาท โดยกระทรวงมหาดไทยให้ดำเนินการขุดลอกแหล่งน้ำ โครงการละไม่เกิน 500,000 บาท และให้แต่ละพื้นที่จัดซื้อจัดจ้างแบบตกลงจ้างไม่ต้องแข่งขันราคาให้เสร็จสิ้นภายใน 30 ก.ย. 2563 พบว่ามีขบวนการเรียกเก็บหัวคิวดังกล่าว มีทั้งกลุ่มนักการเมือง กลุ่มคุณนาย อ. เป็นอดีตกลุ่มได้รับผลประโยชน์งานขุดลอกแหล่งน้ำองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ช่วงปี 2558-2560 โดยให้เครือข่ายประสานงานกับจังหวัด อำเภอต่างๆ ที่มีโครงการขุดลอกแหล่งน้ำเพื่อนำผู้ประกอบการเข้าทำสัญญา และเรียกเก็บหัวคิว 35-50% โดยอ้างชื่อ ‘บิ๊ก ฉ.’ และ ‘บิ๊ก ป.’

“โครงการนี้กระทรวงมหาดไทยมีหนังสือแจ้งให้จังหวัดดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างและมอบอำนาจให้นายอำเภอทุกดำเนินการจ้างโดยแบ่งจ้างโครงการละไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งเป็นวงเงินที่สามารถตกลงจ้างแบบพิเศษได้โดยไม่ต้องประกวดราคา นายอำเภอจะตกลงจ้างผู้ประกอบการรายใดก็ได้ กรณีดังกล่าวจึงเป็นวิธีที่มีช่องว่างเพื่อมีเจตนาเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง กลุ่มวิ่งเต้นงานสาย คุณนาย อ. ที่เคยโด่งดังจากการวิ่งเต้นซื้อขายงานขุดลอกแหล่งน้ำของ อผศ. และ ปภ.เมื่อปี 2558-2560 เข้ามาประสานงานกับจังหวัดและอำเภอต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อเอาบริษัทของตนเองและพรรคพวกที่ต้องการได้งานเข้าทำสัญญา”

สำหรับหนังสือที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยทำถึงผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ อ้างถึงคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 และวันที่ 15 กันยายน 2563 ที่กระทรวงมหาดไทย ได้รับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โครงการเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมในพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ จำนวน 1.18 หมื่นล้านบาท และเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินโครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดทั่วประเทศ

“โดยมติ ครม.เมื่อ 13 ส.ค.เป็นโครงการเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมในพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศจำนวน 18,927 รายการ งบประมาณ 9.95 พันล้านบาท ส่วนโครงการตามมติ ครม.15 ก.ย. เป็นของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) โครงการธนาคารน้ำใต้ดิ 65 แห่ง วงเงิน 23.6 ล้านบาท กทม. 1 โครงการจัดหาเครื่องดูดตะกอนกินและเครื่องแยกตะกอนดินเลน 2 ชุด 340 ล้าน และโครงการบรรเทาปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง 1,726 แห่ง วงเงิน 815.3 ล้านบาท”

หนังสือฉบับนี้ยังสั่งการให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างอย่างเคร่งครัดทุกขั้นตอน โดยให้ภาคประชาชนและสถาบันการศึกษาหรือกลไกของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด เข้ามามีส่วนร่วมในการติดตาม ตรวจสอบการดำเนินโครงการอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งกำชับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ หากกรณีพบการกระทำอันเป็นการทุจริต ผิดระเบียบ กฎหมาย หรือมีการแอบอ้าง ฉ้อฉล หรือทำให้เชื่อโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยวิธีการต่างๆ ให้แจ้งความดำเนินคดีหรือดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายโดยเคร่งครัดทุกกรณี และให้รายงานกระทรวงมหาดไทยทราบ โดยด่วน และหากมีการกระทำโดยไม่ชอบด้วยระเบียบ กฎหมาย ให้ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญในการตรวจสอบการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่

ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนที่มีเบาะแสการกระทำผิด การแอบอ้างเรียกรับผลประโยชน์ หรือกรณีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว สามารถร้องเรียนผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร.1567 ตลอด 24 ชั่วโมง

เมื่อกลางเดือน ส.ค.ปีเดียวกันนี้ นายฉัตรชัยเพิ่งทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท 0211.5 /ว4857 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ให้ดำเนินตรวจสอบแผนโครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม ในพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ ภายหลังคณะรัฐมนตรี อนุมัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน 11,892.8711 ล้านบาท

ทั้งนี้ เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม ในพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ โดยให้จังหวัดเป็นหน่วยรับงบประมาณ ตามกฎหมายวิธีการงบประมาณ และเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการดังกล่าว จำนวน 18,927 รายการ วงเงินงบประมาณ 9,947.8344 ล้านบาท

หนังสือฉบับนี้ นอกจากให้จังหวัดเร่งตรวจสอบแผนงานโครงการที่ได้รับการอนุมัติ ตรวจทานรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ ที่จะดำเนินโครงการว่าเป็นพื้นที่ประเภทใด อยู่ในความรับผิดขอบของหน่วยงานใด โดยต้องมีเอกสาร การขออนุญาต/อนุมัติตามกฎหมาย/ระเบียบ/ข้อบังคับที'เกี่ยวข้องให้ใช้พื้นที่ จากหน่วยงานที่รับผิดชอบ

ให้จังหวัดจัดทำโครงการตามแบบที่กำหนด ในรูปรายการ ประมาณราคา ค่าก่อสร้าง (ปร.4 ปร.5) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สำนักงบประมาณกำหนด และต้องมี ผู้รับผิดชอบลงนามให้ครบถ้วน โดยส่งคำขอรับจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบประมาณโดยตรง และให้ปรึกษาแนวทางปฏิบัติกับกองจัดทำงบประมาณเขตพื้นที่ (CBO)

นอกจากนี้ ในการติดตามประเมินผล ให้จังหวัดจัดให้มีกลไกการติดตามประเมินผล โดยอาจแต่งตั้ง “คณะกรรมการ” ให้มีองค์ประกอบจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและหลากหลาย เช่น ภาคราชการ สถาบันการศึกษา องค์กรภาคประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง หรือกลไกของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด ร่วมติดตามและประเมินโครงการอย่างใกล้ชิด

สำหรับ “โครงการขุดลอกแหล่งน้ำ” เมื่อเดือน มิ.ย. 2563 นายฉัตรชัยเคยมีหนังสือด่วนที่สุดถึงหัวหน้าส่วนราชการ 26 หน่วยงาน หลายกระทรวง แจ้งแผนงานที่ผ่านการเห็นชอบในโครงการเพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง (เพิ่มเติม) ที่รับผิดชอบโครงการขอรับสนับสนุนงบประมาณให้แจ้งหน่วยงานในสังกัดในพื้นที่ดำเนินการ เช่น โครงการของกองทัพอากาศ 1 โครงการ “ขุดบ่อเก็บน้ำที่กองบิน” มี “กองบิน 7” เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ ในพื้นที่ หมู่ 5 ต.มะลวน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี วงเงิน 20,320,000 บาท บนพื้นที่ 14 ไร่ ,โครงการของกองทัพบก จำนวน 25 โครงการ เช่น ขุดลอกหนองบัวแดง ค่ายเม็งรายมหาราช 2 โครงการ มีมณฑลทหารบกที่ 37 รับผิดชอบ เป็นการปรับปรุงแหล่งน้ำเดิม ต.รอบเวียง อ.เมืองฯ จ.เชียงราย วงเงิน 2 โครงการ รวม 994,400 บาท

ทั้งนี้ยังมีโครงการของมณฑลทหารบกที่ 37 อีก 9 โครงการ เช่น โครงการขุดลอกอ่างน้ำหลง ขุดลอกลำน้ำแพง ลำเมืองสาธารณะ ขุดลอกบ่อเก็บน้ำ ขุดบ่อน้ำอเนกประสงค์เพื่อทำประปาหมู่บ้าน ฯลฯ แต่ไม่มีการระบุถึงจำนวนงบประมาณ

นอกจากนี้ยังมีโครงการที่รับผิดชอบโดยมณฑลทหารบกที่ 210 จำนวน 13 โครงการ ขุดแหล่งน้ำแห่งใหม่ และยังมีโครงการปรับปรุงแหล่งน้ำเดิม ในพื้นที่ อ.โพนสวรรค์ 1,800 ไร่เศษ วงเงิน 1.8 ล้านบาท

“ยังมีโครงการเจาะบ่อบาดาล พร้อมถังสูง จำนวน 2 จุด พื้นที่ อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ รับผิดชอบโดยกองทัพบก วงเงิน 800,000 บาท บนพื้นที่ 125 ไร่ คาดมีผู้ได้รับประโยชน์ 452 ครัวเรือน ดำเนินการระหว่าง พ.ค. 63 - ก.ย. 2563”

โครงการของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จ.มุกดาหาร เตรียมการขุดลอกบ่อน้ำป้องกันสาธารณภัย พื้นที่ อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร 2 โครงการ วงเงิน 6 แสนบาท ในพื้นที่ 122 ไร่ ยังมีโครงการของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา โครงการเจาะบ่อบาดาลเพื่ออุปโภคบริโภค พื้นที่ ต.สันทราย อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ วงเงิน 243,000 บาท

ขณะที่หน่วยงานอื่นๆ พบว่าเป็นของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย 14,712 โครงการ


กำลังโหลดความคิดเห็น