มท.เร่งผู้ว่าฯ 76 จังหวัด สนองกลไกรัฐใหม่ ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ระดับจังหวัด แก้ไขประเด็นแรก ภายใน 15 ต.ค.นี้ พร้อมขีดเส้นให้รายงานปัญหาจังหวัด หลังรัฐมนตรีที่รับผิดชอบลงพื้นที่แล้วภายใน 7 วัน เล็งให้รายงานทุก 2 เดือน พบจังหวัดมีคณะกรรมการฯ แบบเดียวกันอย่างน้อยอีก 3 ชุด
วันนี้ (24 ก.ย.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทวงมหาดไทย มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เร่งดำเนินการแต่งตั้ง “คณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด” ตามมติคณะรัฐมนตรี (13 ส.ค. 2563) และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี (14 ส.ค. 2563)
ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อน ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และเสริมสร้างศักยภาพในการพัฒนาประเทศ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงและชีวิติวิถีใหม่โดยมีรัฐมนตรีเป็นที่ปรึกษาระดับจังหวัด ให้เร่งรัด ช่วยเหลือเยียวยาและขับเคลื่อนพื้นที่ ให้เป็นรูปธรรมและรวดเร็วทันเหตุการณ์
ล่าสุด นอกจากคำสั่งการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด ยังกำหนดแนวทางและกรอบเวลาให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการ ประกอบด้วย ให้รายงานชื่อคณะกรรมการฯ ภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2563
ขณะที่ผลการดำเนินงานการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด ให้สรุปผลการประชุมเสนอกระทรวงมหาดไทย เพื่อรายงานนายกรัฐมนตรี ประเด็นกลุ่มปัญหาความเดือดร้อน/ความจำเป็นเร่งด่วนของจังหวัด แนวทางการดำเนินการและแผนปฏิบัติการการแก้ไขปัญหา และความก้าวหน้าการดำเนินงาน ให้รายงานภายในวันที่ 15 ตุลาคม โดยใช้ข้อมูลปัญหา ณ ข้อมูล ณ วันที่ 10 ตุลาคม
ส่วนการรายงานครั้งต่อๆ ไปให้รายงานเป็นประจำ 2 เดือน/ครั้ง ภายในวันที่ 7 ธันวาคมของปี (เป็นข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤศจิกายนของปี) ภายในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ของปี (ใช้ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคมของปี) ภายในวันที่ 7 เมษายนของปี (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคมของปี) ภายในวันที่ 7 มิถุนายนของปี (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม ของปี) ภายในวันที่ 7 สิงหาคมของปี (ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคมของปี) และภายในวันที่ 7 ตุลาคม ของปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายนของปี)
ทั้งนี้ จังหวัดยังต้องรายงานปัญหากรณีการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีที่รับผิดชอบภายใน 7 วันนับแต่วันที่รัฐมนตรีลงพื้นที่
ล่าสุดพบว่า กลไกลจากรัฐบาลที่ให้จังหวัดจัดการปัญหาในพื้นที่ ดำเนินการในรูปแบบคณะกรรมการ นอกจากคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด ยังพบว่า “คณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและการแก้ไขปัญหาภาคเกษตร ระดับจังหวัด” ที่แต่งตั้งเมื่อปี 2561 หรือ “คณะกรรมการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ระดับจังหวัด” ที่เพิ่งให้แต่งตั้งเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมี “คณะกรรมการบริหารศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด” ที่ทำหน้าที่จัดการปัญหาในพื้นที่เช่นกัน โดยทุกชุดมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน