วันนี้ (25 ก.ย.) นายสามารถ เจนชัยจิตวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” โดยระบุว่า ตนได้รับข้อมูลจากประชาชนกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้อภิปรายในรัฐสภา ช่วงวันที่ 23-24 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นข่าวโด่งดังว่า สภาประท้วงวุ่น โดยในคลิปการอภิปรายพูดจาค่อนข้างวกไปวนมา มีแต่ให้ร้าย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทั้งๆ ที่ท่านไม่ได้อยู่ในห้องประชุม ซึ่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ตนนับถือ และเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ แต่ไม่เข้าใจว่า อภิปรายพูดจาวกวนอยู่กลับมาแต่เรื่องเดิม จนโดน นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เตือนอยู่หลายครั้ง ตนจึงเป็นห่วงในฐานะผู้ใหญ่ที่เคารพ
นายสามารถ กล่าวอีกว่า ตนได้ฟัง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อภิปราย แต่ก็เป็นห่วงกลัวจะหัวใจวาย เพราะการอภิปรายนั้นมีแต่ความโทสาคติต่อ พล.อ.ประวิตร จึงอยากให้ปล่อยวางบ้าง โดยเฉพาะช่วงหยุดยาวจากการปิดสมัยประชุมสภาอยากให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เข้าวัด เพื่อนั่งสมาธิจะได้มีพลังกายพลังใจที่แข็งแรงในการช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนและจะได้เลิกความมีโทสาคติต่อ พล.อ.ประวิตร ทั้งนี้ ตนรู้สึกเสียใจที่พรรคเสรีรวมไทย ไม่เสนอชื่อร่วมกันเป็น กมธ. ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อวานนี้ (24 ก.ย.) เพราะนักการเมืองนั้นมาจากเสียงของประชาชน จึงอยากให้แก้ไขปัญหาบ้านเมืองด้วยกลไกของสภาผู้แทนราษฎร หรือรัฐสภา เพราะเป็นกระบวนการหลักในระบบประชาธิปไตย เพราะในอดีตความขัดแย้งของนักการเมืองเอง และปัญหามีการทุจริตและคอร์รัปชันที่รุนแรง จึงนำมาให้ผู้อื่นเข้ามาแก้ไขปัญหาด้วยการรัฐประหาร
“บนถนนการเมืองประชาธิปไตย ไม่มีใครอยากเห็นการรัฐประหาร แต่นักการเมืองทุกคนควรร่วมมือร่วมใจแก้ไขปัญหานี้ โดยตนไม่เข้าใจ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มองว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันไม่ดี แต่ก็ลงสนามการเมืองเพื่อแข่งขัน ทั้งๆ ที่บอกว่า กติกาไม่เป็นธรรม และโดยปกติแล้วผู้ร่วมแข่งขันดูกติกาว่าไม่เป็นธรรมแล้วคงไม่ลงสนามแข่งขันเป็นเด็ดขาด เหมือนที่เคยปรากฏในอดีต แต่ปรากฏว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 62 และได้รับเสียงจากประชาชน มีจำนวน ส.ส. พรรคเสรีรวมไทย ทั้งสิ้น 10 คน และได้มีโควตาสัดส่วนกรรมาธิการในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ท่านกลับคว่ำบาตรไม่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ”
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ตนรับฟังข้อมูลจากเพื่อนสมาชิก ส.ส. ส.ว. หลายท่าน มีการอภิปรายเห็นตรงกันว่ายังมีหลายญัตติที่มีความขัดแย้งกันจึงน่าจะพิจารณาร่วมกันว่า 6 ญัตตินั้นจะแก้มาตราใดบ้าง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งนี้เองก็มีร่างที่เสนอของประชาชนที่ผ่านไอลอว์เข้ามาด้วย นับเป็นสิ่งที่ดีเสียอีกที่จะได้ร่วมกันพิจารณาก่อนจะได้มีการพิจารณาว่าจะรับหลักการและแปรญัตติในวาระ 2 และ 3 ต่อไป แต่ต้องเสียดายแทนประชาชนที่พรรคฝ่ายค้านได้มีการวอล์กเอาต์ โดยเฉพาะ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ท่านเป็นสุภาพบุรุษนาแกที่บอกว่าเกลียดการรัฐประหารก็น่าจะใช้กลไกรัฐสภาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้มากกว่านี้ ไม่งั้นประชาชนจะสับสนได้ว่าที่ท่านอภิปรายซ้ำซาก เพราะมีโทสาคติต่อ พล.อ.ประวิตร หรือเพราะท่านอายุมาก จึงมักจะหลงๆ ลืมๆ คล้ายโรคคนชราทั่วไป มักเป็นกันด้วยความหวังดี จึงอยากให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้พักผ่อนในช่วงปิดสมัยประชุม เพราะหวังว่าเปิดสมัยประชุมมาจะได้ฟังอภิปรายเรื่องใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนน่าจะดีกว่า