ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภามีมติ 432 ต่อ 255 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง ให้ตั้ง กมธ.ศึกษาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ญัตติ โดยใช้เวลา 1 เดือน หลังจากนั้นจึงให้เสนอเข้าสู่การพิจารณาใหม่ ฝ่ายค้านจับมือไม่ขอร่วมสังฆกรรม
ความคืบหน้าการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวาระพิจารณายัตติการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วันนี้ (24 ก.ย.) หลังจากที่ฝ่ายรัฐบาลเสนอให้มีการตั้งกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาญัตติการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ญัตติโดยใช้เวลา 1 เดือน หลังจากนั้นจึงเสนอเข้าสู่วาระการพิจารณาใหม่ ทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างหนัก จนกระทั่งนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล เสนอให้พักการประชุม 10 นาที บรรยากาศในห้องประชุมมีการจับกลุ่มหารือกัน โดย นายวิรัช ได้พูดคุยกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์อย่างเคร่งเครียด ขณะเดียวกัน ก็มีเสียง ส.ส.เปิดไมโครโฟนกล่าวว่าสภาหลอกประชาชน
ขณะที่เวลาผ่านไปกว่า 20 นาที ทำให้ ส.ส.พรรคก้าวไกล ประท้วง นายชวน เกรงว่า จะทำให้เลยกรอบเวลาที่จะต้องลงมติ (ต้องลงมติก่อน 24.00 น.) แต่ นายชวน กล่าวว่า ตนก็นั่งรออยู่ แต่เขายังหารือกันไม่จบ
นอกจากนี้ ส.ส.พรรคก้าวไกล ยังได้หารือว่า ขณะนี้มีประชาชนด้านนอกร้อนใจอยากรู้ว่าสภาจะมีการลงมติหรือไม่ จึงได้ปีนรั้วเข้ามาจนได้รับบาดเจ็บ ขอให้เจ้าหน้าที่ไปดูแลด้วย ซึ่ง นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ดูแลและนำส่งโรงพยาบาลวชิระแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพักประชุมไปกว่า 30 นาที ได้มีการเริ่มประชุมอีกครั้ง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า หลังจากหารือแล้ววิปรัฐบาลมีมติให้เดินตามญัตติที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เสนอไว้
แต่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า สิ่งที่ประชาชนต้องการรู้วันนี้ที่สุดคือความชัดเจนว่าสภาจะนับหนึ่งรับหลักการให้เขามี รธน.ฉบับประชาชนคนไทยที่ไม่ต้องรับมรดกเผด็จการ คสช.หรือไม่ ประชาชนถามว่าถ้ายอมให้มี กมธ.เกิดขึ้นอีก 1 เดือน หลังจากนั้น เกิดโหวตคว่ำหมายความว่าอะไร หมายความว่า ส.ส.จะไม่สามารถเสนอญัตติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสมัยประชุมหน้าใช่หรือไม่ และการแก้ รธน.ของไอลอว์ก็จะตกไปด้วยใช่หรือไม่ และกว่าจะเสนอได้ต้องรอไปอีกสมัยประชุมหนึ่ง คือ หลัง 22 ใช่หรือไม่ ถ้าตนเข้าใจไม่ผิดการประวิงเวลา 1 เดือน พวกเราคงร่วมสังฆกรรมกับขบวนการอย่างนี้ไม่ได้
นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวในนามพรรคว่า เจตนาของพรรคในการเสนอให้มีการแก้ไข รธน.เพื่อประโยชน์แก่ประชาชนยังดำรงอยู่ เราพร้อมแก้ไข รธน.ให้บ้านเมืองมีความ ปชต. แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อฟังความรอบด้าน โดยเฉพาะ ส.ว.อภิปราย ก็พบว่ามีอีกหลายประเด็นที่เราจะคิดหรือไม่ได้พิจารณาในส่วนของ ส.ว.เมื่อเป็นแบบนี้ทางพรรคยังพร้อมที่จะทำหน้าที่แทนประชาชนที่เลือกเรามา แต่ยินดีหากจะต้องใช้เวลาไปทบทวนในสองสภา เพื่อร่วมกันศึกษาแก้ปัญหาสำคัญ ที่วิกฤตวันนี้ และที่อาจจะวิกฤตต่อไปในวันหน้า จึงขอเสนอญัตตินายไพบูลย์ พอถึงวันนั้นพรรคพร้อมที่จะเดินหน้าแก้ไข รธน.ตามที่รับปากกับประชาชนไว้
นพ.เรวัฒน์ วิศรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ที่พูดมาฟังดูดี แต่ไม่จริง การใช้มาตรา 121 วรรคสามถือว่าอันตราย ดังนั้น เรากำลังเล่นเกมที่อันตรายมาก เพราะจะทำให้สภาถึงทางตัน แล้วการเมืองนอกสภาจะประสบกับภาวะวิกฤตที่มีความรุนแรงและเกินที่จะคาดเดา
จากนั้นนายชวนได้ขอมติญัตติด่วนของ นายไพบูลย์ เรื่องการตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาร่างญัตติทั้ง 6 ผลปรากฏว่า เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วย 432 เสียง ไม่เห็นด้วย 255 เสียง งดออกเสียง 28 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง จากนั้นมีการตั้งคณะกรรมาธิการจำนวน 45 คน ประกอบด้วย ส.ว.15 คน ส.ส.30 แต่ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวหน้า พรรคเสรีรวมไทย และพรรคเศรษฐกิจใหม่ ไม่ร่วมเป็นกรรมาธิการในคณะนี้ด้วย
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า มีรัฐมนตรีบางคนที่ไม่ได้เป็น ส.ส.ร่วมลงคะแนนด้วย ไม่ทราบว่าการลงคะแนนครั้งนี้ถูกต้องชอบธรรมหรือไม่
ด้าน นายชวน กล่าวว่า หากผิดกฎหมายก็ไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้