xs
xsm
sm
md
lg

“วัฒนา” ไม่หนีหรือหนีไม่รอด แต่จบอนาคตถาวร !?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


วัฒนา เมืองสุข และ อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง
เมืองไทย 360 องศา


ถือว่าเป็นการปิดฉาก “ฝ่ายประชาธิปไตย” รายล่าสุดไปอีกราย กับข้อหา “ทุจริต” สำหรับ นายวัฒนา เมืองสุข ในคดีทุจริตบ้านเอื้ออาทร ใช้เวลายาวนานหลายปี กว่าจะมาถึงวันนี้ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยศาลได้พิพากษาว่า มีความผิดและพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 99 ปี

แม้ว่าตามขั้นตอนจะยังถือว่าคดียังไม่ถึงที่สุด เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้แก้ไขให้โอกาสยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน แต่สำหรับในทางการเมือง ถือว่าสำหรับตัวเขาแล้ว “ต้องจบลง” ตั้งแต่ที่มีคำพิพากษาดังกล่าวออกมาแล้ว

สำหรับรายละเอียดของคดีดังกล่าวนี้ นอกจาก นายวัฒนา เมืองสุข แล้ว ยังมีผู้ร่วมกระทำผิดอีกหลายราย มีทั้งนักการเมือง กลุ่มพ่อค้านักธุรกิจ ที่สมรู้ร่วมคิดกันกระทำความผิดเป็นขบวนการ และบางคนก็ได้หลบหนีคดีอื่นไปก่อนหน้าแล้ว เช่น นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง เป็นต้น

คดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ หมายเลขดำ อม.42/2561 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ยุครัฐบาลทักษิณ 2 สมาชิกพรรคเพื่อไทย นายมานะ วงศ์พิวัฒน์ อดีตกรรมการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) และอดีตประธานอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการปี 2548-2549 นายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจก่อสร้างที่พักอาศัย นายอภิชาติ หรือ “เสี่ยเปี๋ยง” จันทร์สกุลพร นักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่ นายอริสมันต์ หรือ กี้ร์ พงศ์เรืองรอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย และกลุ่มเอกชน รวม 14 ราย เป็นจำเลย

ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาตรา 157 ฐานเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 6, 11 และเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 91

คดีนี้เริ่มมีการพิจารณาไต่สวนพยานในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตั้งแต่ปี 2562 เรื่อยมา จนเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2563 ขณะที่จำเลยที่ 6-7, 10-12 หลบหนีคดี ศาลได้ออกหมายจับไว้แล้ว

ในวันที่มีการอ่านคำพิพากษา อัยการโจทก์ นายวัฒนา จำเลยที่ 1 กับพวก พร้อมทนายความมาศาล ส่วน น.ส.กรองทอง จำเลยที่ 6 น.ส.รุ่งเรือง 7 นายอริสมันต์ จำเลยที่ 10 หลบหนีไม่มาศาล

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วพิพากษาว่า นายวัฒนา จำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบฯตาม มาตรา 148 จำนวน 11 กระทง กระทงละ 9 ปี รวมจำคุก 99 ปี แต่เมื่อรวมโทษตามกฎหมายแล้วคงจำคุก 50 ปี

ให้จำคุก นายอภิชาติ หรือ เสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 4 รวม 6 กระทง กระทงละ 11 ปี รวม จำคุก 66 ปี แต่เมื่อรวมโทษตามกฎหมายแล้วคงจำคุก 50 ปี

ให้จำคุกจำเลยที่ 5 เป็นเวลา 20 ปี จำเลยที่ 6 เป็นเวลา 44 ปี จำเลยที่ 7 เป็นเวลา 32 ปี ปรับจำเลยที่ 8 จำนวน 2 แสนกว่าบาท และจำคุก นายอริสมันต์ จำเลยที่ 10 เป็นเวลา 4 ปี โดยให้ออกหมายจับมารับโทษ และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2, 3, 9, 11-14

ภายหลังทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ 10 ล้านบาท เป็นบัญชีธนาคารหลักทรัพย์เดิม 5 ล้าน และเพิ่มเงินสด อีก 5 ล้าน เพื่อขอประกันตัว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกัน โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศเว้นได้รับอนุญาต และใหันายวัฒนา จำเลยที่ 1 ทำคำร้องให้องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ ภายใน 30 วัน

แม้ว่าตามขั้นตอนทางกฎหมาย นายวัฒนา เมืองสุข จะสามารถอุทธรณ์คดีได้ภายใน 30 วัน แต่ก็ยังต้องขึ้นกับดุลพินิจขององค์คณะวินิจฉัยฯว่า จะออกมาอย่างไร แต่นาทีนี้ถือว่าอนาคตทางการเมืองแขวนอยู่บนเส้นด้ายแล้ว หรือจะเรียกว่า “จบเห่” แล้วตั้งแต่บัดนี้แล้วก็ได้ เพราะว่านี่คือ “คดีทุจริต” ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีทางการเมืองแต่อย่างใด


แต่ที่พอกล่าวว่าโยงเป็นการเมืองได้ ก็คือ เป็นคดีที่นักการเมืองถูกฟ้องในข้อหาทุจริตเท่านั้น และเมื่อพิจารณาตามพยานหลักฐาน (เป็นเช็ค) สั่งจ่ายที่ถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญจนดิ้นไม่หลุดอะไรประมาณนั้น และจะว่าไปแล้ว ตัวการสำคัญก็คือ “พี่กี้ร์” นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ที่ตอนนั้นเป็นเลขานุการรัฐมนตรี เป็นตัวเชื่อมมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่การซื้อขายที่ดินมาทุกขั้นตอนจนจบ และได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้ จากคดีนำมวลชนคนเสื้อแดงล้มการประชุมสุดยอดอาเซียนที่พัทยา

อย่างไรก็ดี สำหรับ นายวัฒนา เมืองสุข นาทีนี้ก็ยังได้รับเสียงชื่นชมในโลกโซเชียลไม่น้อย ในทำนองว่ายังดีที่ไม่หลบหนีเหมือนบางคน แต่ก็นั่นแหละอาจเป็นเพราะหนีไม่รอด หรือ “ไม่อยากหนี” ก็เป็นได้ เพราะหากหนีก็ต้องหนีไปตลอดชีวิต เนื่องจากตามกฎหมายใหม่คดีทุจริตไม่มีอายุความ เหมือนกับนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ต้องหนีตลอดชีวิต

กรณีของ นายวัฒนา หากอุทธรณ์ไม่ผ่าน คดีไม่พลิกไปจากคำพิพากษาวันนี้ แม้ว่าจะถูกจำคุก 99 ปี แต่ตามกฎหมายให้จำคุกได้สูงสุดไม่เกิน 50 ปี และตอนนี้เขาอายุหกสิบกว่า อีกไม่นานก็จะครบ 70 ปี ก็อาจอยู่ในข่ายได้รับการพักโทษ

แต่ก็อย่างว่าแหละ การติดคุกแม้สักวันเดียวก็คงไม่มีใครอยากเป็น ก็ได้แต่เอาใจช่วยว่าจะได้รับการวินิจฉัยอุทธรณ์ภายใน 30 วันนี้ และมีผลการพิพากษาที่เป็นคุณมากกว่านี้ แต่สำหรับอานาคตทางการเมือง มองตามรูปการณ์แล้ว น่าจะจบเห่ ซึ่งถือว่าทุกอย่างเป็นไปตามกรรมก็แล้วกัน !!


กำลังโหลดความคิดเห็น