“สนธิญา” ฟ้องศาลปกครองสั่งประธานรัฐสภา ไม่รับญัตติแก้ไข รธน.พร้อมให้ทำประชามติควรแก้หรือไม่ อ้างผ่านประชามติเห็นชอบทั้งฉบับ ไม่ใช่เลี่ยงบาลีแก้รายมาตรา เผยเตรียมเก็บข้อมูลชุมนุม 19 ก.ย.ส่งศาล รธน.เพิ่มน้ำหนักคำร้องผิดล้มล้างการปกครอง
วันนี้ (17 ก.ย.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นฟ้องประธานรัฐสภา ต่อศาลปกครองกลาง ขอให้มีคำพิพากษาสั่งให้ประธานรัฐสภาไม่รับญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกฉบับ และให้มีการจัดทำประชามติเพื่อรับฟังเสียงประชาชนว่าสมควรมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 60 หรือไม่ รวมทั้งระหว่างพิจารณาคดีขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาโดยสั่งไม่ให้มีการเคลื่อนไหวเพื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายสนธิญา กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าขณะนี้ประเทศมีปัญหาอื่นที่จำเป็นต้องเร่งแก้ไขมากกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประกอบกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านการลงประชามติเมื่อ 7 ส.ค. 59 โดยมีผู้ใช้สิทธิออกเสียงรับร่างรัฐธรรมนูญถึง 16.8 ล้านเสียง แต่วันนี้มี ส.ส.บางคนมาดำเนินการให้มีการแก้ไขบางมาตรา ด้วยการยื่นญัตติต่อประธานรัฐสภา จึงเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการขัดต่อกฎหมายและหลักการออกเสียงประชามติ ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ส.ควรต้องยึดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 114 ที่กำหนดว่าต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติโดยรวม ไม่ตกอยู่ภายใต้อาณัติอิทธิพลของกลุ่มบุคคลใด รวมทั้งมาตรา 185 ซึ่งกำหนดบัญญัติถึงการกระทำที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ จึงอยากถามว่าการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติประชาชน หรือของพรรคการเมือง
“ผมมองว่าเวลานี้ที่มีการเสนอให้มีการแก้ไขเป็นรายมาตรา เป็นการเลี่ยงบาลีเพื่อที่จะไม่ทำประชามติ ถามประชาชนว่าควรจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่ ความจริงแล้วนายกรัฐมนตรีก็ให้สัมภาษณ์ชัดว่าพร้อมที่จะหาเงินมาเป็นค่าทำประชามติ ถามประชาชนว่าควรจะแก้ไหม จึงอยากจะฝากถึง ส.ส. ส.ว. ถ้าบริสุทธิ์ใจก็ควรที่จะเสนอให้ประธานรัฐสภาสั่งให้มีการทำประชามติ ซึ่งผมเชื่อว่ามันจะเป็นทางออกที่ดีของปัญหาในขณะนี้ และเชื่อว่าจะไม่มีใครไปขัดขวาง“
เมื่อถามว่าทำไม่มองว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะลดความขัดแย้งทางการเมือง นายสนธิญากล่าวว่า ถ้าดูการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 กันยายนเป้าหมายหลักได้เปลี่ยนไปแล้ว ถ้ามีการเอาเรื่อง 10 ข้อเสนอการปฏิรูปสถาบันฯ มาพูด เชื่อว่าประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่มีการหยิบขึ้นมาพูด
นายสนธิญายังกล่าวด้วยว่า ได้รับหนังสือแจ้งจากประธานศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่ตนเองได้ร้องขอให้ศาลสั่งให้แกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก ล้มเลิกการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ว่าให้ส่งเอกสารเพิ่มเติมซึ่งตนจะขอติดตามการชุมนุมในวันที่ 19 และ 20 กันยายนนี้ก่อนว่าเนื้อหาการชุมนุมคืออะไร ถ้ายังคงมีการพูดจาบจ้วงสถาบันฯ ก็จะมีการรวบรวมข้อมูลและทำเอกสารเพิ่มเติมส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญภายใน 1 สัปดาห์หลังการชุมนุม